เมื่อเอ่ยถึง HR หรือฝ่ายทรัพยกรบุคคล ถือเป็นแผนกที่มีความสำคัญยิ่ง ในการทำงหน้าที่บริหารจัดการทรัพยากรบุคคลขององค์กร ตั้งแต่การจัดหา พัฒนา และรักษาทรัพยากรที่มีคุณภาพ เพื่อสนับสนุนการเติบโตขององค์กร ซึ่งคนที่จะมาทำหน้าที่ HR นั้นไม่ใช่ว่าใครๆ ก็เป็นได้ และวันนี้ บี มาย เกสท์ จะพาไปคุยกับกูรูด้านการบริหารบุคคลของไทย รศ.ดร.ศิริยุพา รุ่งเริงสุข ผู้อำนวยการหลักสูตรการบริหารงานบุคคล สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อีกทั้ง ยังเป็นโค้ชให้กับผู้บริหารระดับกลางและสูงในเรื่องการเป็นผู้นำที่ดี เพราะทั้งสองสิ่งมีความสัมพันธ์กัน
“คนทำงาน HR ยุคนี้จะต้องมีความรู้ด้านการจัดการรอบด้าน เช่น รู้จักนำหลักการทางด้านการตลาดมาใช้ในการสร้างแบรนด์นายจ้างให้เย้ายวนดึงดูดใจให้คนเก่งๆ อยากมาทำงานด้วย ต้องใช้ความรู้ความสามารถในการคำนวนเชิงปริมาณตัวเลขมากขึ้น จากที่เมื่อก่อนการสรรหาจัดจ้างบุคลกรมักจะใช้ความรู้สึกส่วนตัวในการตัดสินใจรับคนเข้าทำงาน ก็จะต้องเปลี่ยนเป็นใช้ข้อมูลจากหลายแหล่งมาประมวลและสรุปวิเคราะห์ ซึ่งเราเรียกว่าเป็นการใช้บิ๊กดาต้า (Big data) ประมวลข้อมูลทั้งหลายในการสรรหา จัดจ้าง พัฒนาคนออกมาเป็นตัวเลขที่แสดงต้นทุน กำไร ตลอดจนความเสี่ยงทั้งหลายเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจอย่างมีหลักฐานเป็นตัวเลขที่เชื่อถือได้ เช่น เรามีคำถามว่าบริษัทควรจะจ้างพนักงานสิบคนหรือสิบห้าคน ก็ต้องใช้ดาต้ามาบอกว่า ต้องใช้พนักงานจำนวนเท่าไหร ต่อชิ้นงานขนาดนี้ เมื่อเทียบกับบริษัทอื่นเขาใช้ 10 คน ทำไมเราใช้ 15 คน ข้อมูลบิ๊กดาต้านี้ยังนำมาใช้ในเรื่องการบริหารขวัญกำลังใจของพนักงานด้วย เช่น ต้องมีการทำวิจัยสำรวจระดับความพึงพอใจในงานและความผูกพันกับองค์กรของพนักงานเป็นระยะๆ เพื่อปรับแผนการจูงใจพนักงาน”
ในบริษัทขนาดใหญ่ๆ ที่มีการขยายงานไปต่างประเทศและในต่างจังหวัดนั้น แผนก HR ยังต้องทำหน้าที่เป็นหุ้นส่วนกลยุทธ์ขององค์กรในการสรรหาคนที่สำคัญอย่างมาก เช่น หากจะไปลงทุนที่อีสานหรือในลาว HR ก็ต้องหาคำตอบว่า จะจ้างคนในพื้นที่หรือส่งคนจากกรุงเทพฯ ไปจึงจะมีประสิทธิภาพประสิทธิผลมากกว่า และเมื่อบริษัทประสบปัญหาการเงินต้องการปลดคน ฝ่าย HR ก็จะต้องวิเคราะห์ให้ทะลุถึงอนาคตว่านโยบายธุรกิจของบริษัทในอนาคตจะเป็นอย่างไร จะหดตัวลงหรือจะขยายไปอย่างไร ดังนั้น การจะปลดพนักงานในวันนี้ จึงไม่ใช่แค่เรื่องในวันนี้ แต่ HR ต้องดูไปถึงอนาคตว่าพนักงานคนใดที่มีศักยภาพที่องค์กรจะต้องการในอนาคต และเราควรจะรักษาเขาไว้ก่อน นี่คือสิ่งที่ HR ต้องอ่านให้ออก โดยจะต้องทำการวิเคราะห์ร่วมกับฝ่ายงานอื่น แล้วสรุปเป็นกลยุทธ์และงานแผนงานของ HR ซึ่ง HR ของบริษัทส่วนใหญ่ยังก้าวไปไม่ถึงบทบาท ณ จุดนี้ เพราะ HR หลายคนก้มหน้าง่วนอยู่กับงานประจำ โดยไม่ได้ติดตามข้อมูลเรื่องบริบทต่างๆ ของธุรกิจ
นอกจากบทบาทผู้เชี่ยวชาญกลยุทธ์ด้าน HR แล้ว รศ.ดร. ศิริยุพา ยังรับบทเป็นโค้ชให้กับผู้บริหารระดับกลางและสูงในเรื่องการเป็นผู้นำ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องของการที่ผู้บริหารขาดทักษะในการเป็นผู้นำที่สามารถสื่อสารจูงใจและนำทีมลูกน้องให้สร้างผลงาน โดยใช้ชื่อว่า “Essentials of high performing leadership” ซึ่งหลักสูตรการบริหารงานบุคคล ศศินทร์ จัดขึ้นเป็นพิเศษสำหรับหัวหน้างาน ฝ่าย HR และผู้บริหารที่สนใจเรียนรู้เรื่องงานบริหารบุคคลและการพัฒนาภาวะผู้นำ ซึ่งได้รับการตอบรับจากองค์กรภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมอบรมมาหลายรุ่นแล้ว
“ผู้นำทั่วไปมักคาดหวังว่าเขาจะได้รับการอบรมเรื่องกลยุทธ์ที่แสนพิสดารซับซ้อน แต่ท้ายที่สุดเขาจะพบว่าเขากลับตกม้าตาย หรือตายน้ำตื้น เพราะเขาขาดทักษะการบริหารและการนำขั้นพิ้นฐาน เช่น ทักษะของการสื่อสาร ฟัง พูด เขียน อ่าน ในชีวิตงานประจำวัน ซึ่งทักษะนี้เป็นปัจจัยตัวแรกๆ ที่ผู้นำจะใช้สร้างมิตร จูงใจคน หรือเพาะศัตรู ดิฉันเคยทำการทดลองให้ผู้บริหารระดับสูงเขียนบอกวิธีการทำไข่เจียว ก็พบว่าผู้บริหารหลายคนไม่สามารถให้คำอธิบายในการทอดไข่เจียวได้ แต่กลับได้ไข่ทอดชนิดอื่นที่ไม่ใช่ไข่เจียว แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นผู้บริหารที่สั่งงานและอธิบายงานได้ไม่ชัดเจน ทำให้ลูกน้องไม่สามารถปฏิบัติงานได้ผลตามที่ต้องการ แต่แทนที่จะโทษตัวเอง ผู้บริหารก็มักจะโทษลูกน้องว่าฟังไม่ดี หรือไม่ฉลาด
ในการอบรมเราจะมีการทดสอบทางจิตวิทยาการบริหารและผู้นำ มีกิจกรรมให้ลงมือทำ มีการแลกเปลี่ยนแนวคิด การวิเคราะห์พฤติกรรม สร้างความตระหนักในตนเองว่าบุคลิกภาพและภาวะผู้นำของตนมีผลกระทบต่อผู้ที่ร่วมงานด้วยในแง่ใดบ้าง ผู้บริหารทุกคนจะต้องเจอทั้งคนชอบและไม่ชอบเรา ต้องเจอเกมการเมือง ในฐานะโค้ชเราไม่ได้ไปรู้ทุกอย่างในชีวิตของเขา แต่เราเป็นผู้ที่ให้แนวทาง ให้วิธีการและเครื่องมือที่ผู้นำเอาไปวิเคราะห์คนที่เขาต้องติดต่อทำงานด้วย ผู้นำจะต้องรู้จักวิเคราะห์บุคคลและสถานการณ์ที่เขาเผชิญ แล้วปรับกระบวนท่ากลยุทธ์ในการทำงานให้เหมาะกับบุคคลและสถานการณ์นั้นๆ แต่โดยมากคนทั่วไปมักมีท่าถนัดหรือแนวทางถนัดเพียงอย่างสองอย่างในการแก้ปัญหา ซึ่งมันคือข้อจำกัดของผู้บริหาร ที่โค้ชอย่างเราต้องทะลวงจุดอับนี้ให้ทะลุ”
รศ.ดร. ศิริยุพา ทิ้งท้ายถึงความสำคัญของงาน HR และการเป็นผู้นำที่ดีว่า ทั้งสองสิ่งมีความสัมพันธ์กัน เพราะถ้าผู้นำเข้าใจเรื่อง HR ก็จะสามารถบริหารบุคคล และสนับสนุนหน่วย HR ให้เป็นหน่วยงานกลยุทธ์ในการสรรหา พัฒนา และรักษาคน ซึ่งเป็นทรัพยากรที่หาได้ยากยิ่งในเวลานี้ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตก้าวหน้าของบริษัทในอนาคตได้เต็มที่นั่นเอง
ส่วนตัวเธอเองนั้นการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารงานบุคคลเช่นทุกวันนี้ได้ เธอว่าความสำเร็จของเธอมาจากแนวคิดที่ใช้ในการทำงานเสมอก็คือ “รักษากายและใจของตัวเองให้ดี มีวินัยกับตัวเอง ไม่ทำงานที่ผิดบาป ทำให้ดีที่สุด แล้วอย่าคิดว่าตัวเราวิเศษสมบูรณ์แบบ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี