สวัสดีครับ pet care ดูแลสัตว์เลี้ยงสัปดาห์นี้ ยังเป็นเรื่องโรคต่างๆ ในแมว ซึ่งหลายๆ โรคทำให้เจ้าเหมียวของเราเสียชีวิตโดยง่าย วันนี้เรามาแนะนำให้ท่านผู้อ่านรู้จัก โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในแมว กันครับ
โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในแมว ในภาษาอังกฤษเรียกว่า Feline Leukemia (FeLV)
สาเหตุ
โรคนี้เกิดมาจากเชื้อไวรัสในกลุ่ม Retrovirus ซึ่งไวรัสกลุ่มนี้ มีหลายกลุ่มย่อย ทำให้เกิดโรคต่างๆ ในคนและสัตว์ ได้แก่ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือ HIV ในคน มะเร็งเม็ดเลือดขาวในโค ในหนู และในแมว เป็นต้น
การติดต่อ
การติดเชื้อสามารถผ่านทางสารคัดหลั่งจากปากและจมูก ได้แก่ น้ำลายและน้ำมูก รวมถึงอุจจาระและปัสสาวะโดยการสัมผัสโดยตรง (direct contact) กับแมวที่ป่วย เช่น การกัดกัน การเลียและการแต่งขนให้กัน รวมถึงสัมผัสกับเชื้อในสารคัดหลั่ง ปัสสาวะ รับสิ่งปนเปื้อนจากภาชนะที่ใส่อาหารและน้ำ หรือสัมผัสคลุกคลีกับเเมวที่ป่วยเป็นโรค รวมถึงผ่านจากแม่ไปลูกทางมดลูกและน้ำนมได้
หลังจากที่เชื้อเข้าสู่ร่างกาย ก็จะแบ่งตัวและเจริญในเนื้อเยื่อระบบน้ำเหลือง เข้าสู่กระแสเลือด และกระจายไปทั่วร่างกาย ดังนั้นจะมีผลกระทบต่ออวัยวะหลายชนิดด้วยกัน ระยะฟักตัวของโรคกินเวลาตั้งแต่ 1 วันถึง 2 เดือน
อาการ
อาการที่พบได้บ่อยๆ คือ หอบ หายใจลำบาก ซึม เบื่ออาหาร มีไข้สูง มักพบปัญหาช่องปากและเหงือกอักเสบ ซึ่งจะมีผลให้แมวมีกลิ่นปากแรง เยื่อเมือกซีดเนื่องจากเกิดภาวะโลหิตจาง และเนื่องจากมีปัญหาที่ระบบภูมิคุ้มกัน จึงทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลง จึงสามารถติดเชื้อแทรกซ้อนได้ง่าย และการเกิดเนื้องอกและมะเร็งในอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย เช่นมะเร็งตับ ม้ามและต่อมน้ำเหลือง หลายครั้งที่สัตวแพทย์สามารถคลำพบก้อนในช่องท้อง รวมถึงภาวะต่อมน้ำเหลืองโตรวมถึงสามารถทำให้เกิดภาวะแท้งในแมวตั้งท้องด้วย
การตรวจวินิจฉัย
โรคนี้สามารถตรวจวินิจฉัยได้จากอาการ ประวัติและการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น การตรวจนับจำนวนเม็ดเลือดชนิดต่างๆ ซึ่งจะพบว่าสัตว์มีภาวะของเม็ดเลือดขาวผิดปกติ อาจต่ำหรือสูงกว่าปกติ ขึ้นกับระยะของการติดเชื้อ พบค่าเม็ดเลือดแดงต่ำกว่าปกติ ในปัจจุบันสามารถตรวจหาเชื้อไวรัส FeLV โดยใช้ชุดทดสอบซึ่งสามารถทำให้ทราบผลการตรวจได้คร่าวๆ ครับ
การรักษา
การรักษามักจะเป็นการรักษาตามอาการ ซึ่งส่วนใหญ่มักไม่ค่อยตอบสนองต่อการรักษา หลายรายอาจจำเป็นต้องใช้เคมีบำบัดเหมือนในคน รวมถึงการให้ยากระตุ้นภูมิคุ้มกัน หรือสาร interferon
มีการให้ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ให้ยาบำรุงเลือด ในบางรายอาจจำเป็นต้องมีการให้เลือด อาจต้องให้สารน้ำและสารอาหารในรายที่ไม่กินอาหาร อีกด้วย
การป้องกัน
โรคนี้สามารถป้องกันได้โดยการทำวัคซีน โดยเราสามารถเริ่มทำวัคซีนครั้งแรกในแมวอายุประมาณ 2-3 เดือน และฉีดให้กับแมวเป็นประจำทุกปี นอกจากนี้การดูแลเรื่องความสะอาดและหลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับแมวที่ไม่ทราบประวัติการทำวัคซีน เพื่อลดความสี่ยงของการติดโรคด้วยครับ อย่างไรก็ตามการควรทำวัคซีนให้แมวเป็นวิธีที่ง่ายสะดวกที่สุดครับ
อาจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี