นกนางนวลที่บางปู
บริเวณปากแม่น้ำของอ่าวไทยเป็นป่าชายเลนขนาดใหญ่ มีธรรมชาติของดินตะกอนผืนใหญ่เป็นรอยเชื่อมระหว่างน้ำจืดกับน้ำทะเล ทำให้บริเวณปากน้ำอ่าวไทยตอนในนั้นเป็นแหล่งอาหารที่สร้างห่วงโซ่อันเอื้อประโยชน์ต่อการเติบโตของสิ่งที่มีชีวิตครั้งแรกก่อนลงไปในทะเล ถือเป็นปฐมภูมิของสัตว์ทะเลน้อยใหญ่ที่เกิดและเติบโตอยู่ในอ่าวไทยตอนในเป็นอย่างมาก วิถีชีวิตดั้งเดิมของผู้คนในแถบนี้จึงมีจุดเริ่มจากการหาปลาหาหอยในโคลนเลนและทะเลเลี้ยงชีพ ซึ่งต่อมาได้พัฒนาการเป็นอาชีพการจับปลาในทะเล ทำโป๊ะ ตีอวน และเป็นท่าเรือประมงมาก่อนเป็นท่าของเรือสินค้าที่เดินทางเข้าแม่น้ำเจ้าพระยา ดังนั้นป่าชายเลนและชุมชนเดิมของ 3 จังหวัด คือ สมุทรปราการ สมุทรสาคร และสมุทรสงครามนั้น จึงมีการเรียกชื่อตามยุคสมัย ชื่อครั้งแรกนั้นน่าจะเรียก ปากแม่น้ำ หรือ ปากน้ำ เมื่อมีชุมชนทำสวน ความเป็น “บาง”ที่ต้องทำร่องสำหรับน้ำจืดใช้ในการเพาะปลูกในแต่ละพื้นที่จึงถูกเรียกชื่อเป็น บางปู บางคอแหลมบางยี่สาน บางตะบูน เป็นต้น สำหรับปากน้ำใหญ่ต่อมาได้มีการใช้เป็นท่าจอดเรือในสมัยที่ขอมมีอำนาจนั้น มีชื่อเรียกว่า บาแดง ภาษาขอมแปลว่า ท่าเรือปัจจุบันก็คือ พระประแดง จึงถือเป็นชุมชนใหญ่ ที่มีเรือสินค้ามาจอดรอการเข้า-ออกและสร้างโกดังสินค้าขึ้น ในอดีตนั้นการใช้พื้นที่สองฝั่งแม่น้ำบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยามีโบราณสถานสมัยอยุธยา เป็นหลักฐานของชุมชนแถบนี้มาก่อนการตั้งเป็นเมืองสมุทรปราการ เมืองสมุทรสาคร เมืองสมุทรสงคราม ให้เป็นป้อมปราการระวังทางทะเลในสมัยรัชกาลที่ 3
การใช้เรือใบแล่นในปากน้ำ
การเป็นปฐมภูมิของสิ่งมีชีวิตในปากน้ำก่อนลงไปเติบโตในทะเลนั้น ถือเป็นห่วงโซ่ธรรมชาติที่สำคัญ ในอดีตนั้นป่าชายเลนมีพืชพันธุ์ไม้ อุดมสมบูรณ์อยู่กับดินตะกอน มีพันธุ์ไม้ในป่าชายเลนหลายชนิดได้แก่ โกงกาง หัวกา หัวสุ่ม โปรง ตะบูน ตะบัน แสม ลำพู ลำแพน โพทะเล อันเป็นแหล่งที่เกิดสิ่งมีชีวิต และสะสมอาหารตามธรรมชาติของสัตว์น้ำ นอกจากนี้ ยังมีพืชตระกูลปาล์ม ได้แก่ มะพร้าว หมาก จาก เป้ง เต่ารั้ง อดีตนั้นเป็นแหล่งปลูกมะพร้าวจำนวนมากแห่งหนึ่งและไม้ผล มี มะม่วง ส้ม พุทรา เป็นต้นส่วนพืชพื้นถิ่นนั้น ได้แก่ ต้นโปรงอยู่ที่บางโปรง ต้นจะเกร็งอยู่ที่บางนางเกร็ง
ชาวสวนแถบปากน้ำสมัยอยุธยา
สัตว์ที่เป็นปฐมภูมิสิ่งมีชีวิตในทะเลนั้นก็มีหลายชนิด สัตว์น้ำเค็มนั้น ได้แก่ กุ้งมังกร กุ้งกุลาดำ กุ้งแชบ๊วย ปลากะพงขาว ปลาทู ปลากระบอก หอยแครง หอยแมลงภู่ แมงดาทะเล เป็นต้นและสัตว์น้ำจืดได้แก่ ปลาสลิด ปลากระดี่ ปลาหลด ปลาไหลปลาซิว ปลาสร้อย ปลาสร้อยนกเขา ปลาแขยง ปลามังกร ปลากราย ปลาสลาด ปลาช่อน ปลาหมอ ปลาหมอช้างเหยียบ ปลาดุก ปลาตะเพียน กุ้งฝอย เป็นต้น ถือเป็นถิ่นที่มีปลาชุกชุมมากจนมีชื่อเรียกว่า บางปลา อีกทั้งยังเป็นแหล่งของนกนานาชนิด ได้แก่ กา นกกระจอก นกกางเขนนกปรอด นกเขา นกกระยาง นกกระสา นกตีนเทียน นกแขวก นกอีลุ้ม และนกน้ำอีกมากมายในฤดูหนาว นั้นมีนกนางนวลและนกอื่นบินมาจากแหล่งอื่นจำนวนมากพากันมาอยู่แถวบางปูตามฤดูกาล นอกจากนี้ยังมีสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าชายเลน ได้แก่ ปลาตีน กุ้งก้ามดาบ ตะกวด หรือเหี้ย มีมากจนมีชื่อ บางเหี้ย ปัจจุบันคือตำบลคลองด่าน ค้างคาวแม่ไก่ตามต้นไม้ป่าชายเลนและเกาะผีเสื้อสมุทร บางพื้นที่มีงูเห่าชุกชุมจึงเรียกชื่อ หนองงูเห่า ปัจจุบันคือบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อมีการสร้างถนนสุขุมวิทตัดผ่านจึงทำให้ต้นแสม ถูกตัดและขุดตอออกหมดทำให้พื้นที่กลายเป็นที่นา และบ่อเลี้ยงปลาสลิดป่าชายเลนจึงลดลงตามลำดับ จาก พ.ศ.2518มีป่าชายเลนอยู่ประมาณ 3,750 ไร่ ปีพ.ศ.2529 เหลืออยู่ประมาณ 650 ไร่ และในปีพ.ศ.2532 ไม่มีพื้นที่ป่าอยู่อีกเลย จะเหลืออยู่บ้างก็เป็นแนวป่าในส่วนที่ติดกับอ่าวไทยเท่านั้นส่วนปากน้ำที่เป็นสันดอนหรือดอนทรายอยู่ ก็เป็นสันดอนทรายที่มีดินเลนกลบอยู่ผิวหน้า บางแห่งมีดินเลนหนาถึง 30 เซนติเมตร หรือมากกว่านี้ เช่นบริเวณแหลมสิงห์ ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ การมีดินเลนกลบอยู่เหนือดอนทรายนั้นได้ทำให้เป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์สำหรับสัตว์น้ำประเภทหอยหลอด ส่วนสันดอนที่มีดินเลนกลบดอนทรายอยู่น้อยนั้นมีผิวดินเลนลื่นพอให้ถีบกระดานออกไปหาหอยหลอดได้ในบางแห่ง จึงเป็นเรื่องที่น่าศึกษาเพื่อรักษาห่วงโซ่ทางธรรมชาติให้ทะเลไทยนั้้นเป็นแหล่งสัตว์ทะเลในอนาคต
ดินตะกอนปากน้ำห่วงโซ่ธรรมชาติ
ดินตะกอนปากน้ำอ่าวไทย
ทะเลปากอ่าวที่บางตะบูน
เรือประมงออกวางโป๊ะในทะเล
สวนผลไม้ในพื้นที่ปากน้ำ
เรือนริมน้ำชุมชนหาปลาแถบปากน้ำ
ปูที่มีอยู่ทั่วไปในป่าชายเลน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี