นักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสมาเยี่ยมเยือนเมืองลียง และเข้าชม Museum of Decorative Art แล้ว ต้องเข้าชม Museum of Textile ให้ได้ด้วย เพราะเสียเงินพร้อมกันแล้วตอนซื้อตั๋ว มิวเซียมที่มีประวัติย้อนไปถึงปี 1806 เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยดำริที่จะเก็บผลงานด้านอุตสาหกรรมภายในไว้เพื่อจัดแสดงในอนาคต ต่อมาในวันที่ 2 กรกฎาคม 2372 (คศ.1829) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมก็ได้สั่งให้เริ่มสะสมงานไหม ฝ้าย และขนสัตว์จากบริษัทต่างประเทศเพื่อเตรียมแผนงานจัดแสดงนิทรรศการสิ่งทอจากต่างประเทศ ในปี 1846 นิทรรศการสิ่งทอจากต่างประเทศได้มีการจัดแสดงผลงานสิ่งทอของประเทศจีนโดยมีของจัดแสดงพิเศษต่างๆ มากมาย
ในทศวรรษที่ 1850 รัฐบาลได้ซื้องานออกแบบผ้าจาก Dutilieu มาเป็นจำนวนมาก รวมทั้งได้งานของ Auguste Gautier จาก Factory Museum มาด้วย และยังซื้องานเพิ่มเติมจากงาน World Exhibition ในลอนดอนไว้อีกต่างหาก ในปี 1851 สภาจึงดำริที่จะใช้โอกาสนี้ตั้งมิวเซียมเกี่ยวกับศิลปะและอุตสาหกรรมขึ้นเพื่อเป็นการให้กำเนิดอุตสาหกรรมผ้าในลียงโดยมีเป้าหมายคือ การผดุงไว้ซึ่งความได้เปรียบทางการค้าและสนับสนุนด้านเทคนิคและศิลปะในการผลิตผ้าและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง สภาการพาณิชย์แห่งลียงจึงได้ถือโอกาสจากความสำเร็จของมิวเซียมและอุตสาหกรรมผ้าในช่วงเวลานั้นย้ายมิวเซียมมาอยู่ที่ Hotel de Villeroy ในปี 1890
ปัจจุบัน Museum of Textile Lyon นี้เป็นหนึ่งในมิวเซียมผ้าที่ใหญ่ที่สุดของโลกโดยมีเรื่องราวเกี่ยวกับผ้าและไหมย้อนหลังไปถึง 4,000 ปี ซ้ำยังมีเรื่องราวประวัติศาสตร์เกี่ยวกับผ้าย้อนไปถึงก่อนคริสต์ศตวรรษ ผ้าในยุครุ่งเรืองของอียิปต์ พรมคอปติกผ้าจากเปอร์เซีย ไบเซนไทน์ มุสลิม จีน และญี่ปุ่น รวมทั้งพรมชั้นนำจากยุโรปและเอเชียโดยเฉพาะอย่างยิ่งผ้าในยุครุ่งเรืองของยุโรปในคริสต์ศตวรรษที่ 19 เช่น ผลงานจาก Jean Pilement,Philippe de la Salle, Dugourc, Raoul Dufy, SoniaDelaunay นักออกแบบตกแต่งชั้นนำ รวมทั้งเครื่องประดับตกแต่งของบาทหลวง ชุดทหารฝรั่งเศสผ้าปักต่างๆ เรื่อยมาจวบจนปัจจุบัน นอกจากนี้มิวเซียมยังมีเสื้อผ้าของนักแสดงโอเปร่าประจำเมืองลียงมาร่วมจัดแสดงเป็นครั้งคราว อีกทั้งยังมีหนังสือเกี่ยวกับการผลิตเสื้อผ้าในลียงตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 18 ถึงทศวรรษที่ 1950 จัดแสดงอีกเป็นจำนวนมากด้วย
นอกจากมิวเซียมแล้ว ที่นี่ยังเป็นศูนย์กลางการวิจัยเกี่ยวกับผ้า และยังเป็นสถาบัน International Center for Study of Veterans Textile และทำงานร่วมกับ University of Fashion เกี่ยวกับการออกแบบ Contemporary Textile ด้วย นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสมาเยี่ยมเยือนมิวเซียมนี้จะสามารถเพลิดเพลินกับเสื้อผ้าหลากหลายได้อย่างสนุกสนาน จุใจ และทึ่งกับความสามารถในการถักทอผืนผ้าได้อย่างอัศจรรย์ เสียอย่างเดียวตรงที่งานทุกชิ้นไม่มีคำอธิบายเป็นภาษาอังกฤษเลยทำให้ขาดอรรถรสในการดูไปมากเลยทีเดียว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี