ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยแบบนี้ เป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงอาการป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่ป่วยเป็นโรค "ภูมิแพ้" เพราะคนกลุ่มนี้มีความอ่อนไหวกับสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมมากกว่าคนทั่วไป เมื่อเจอสิ่งกระตุ้นจะทำให้มีอาการ ซึ่งคนที่ป่วยเป็นโรคนี้ย่อมรู้ดีว่ามันทรมาน และไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
วันนี้เราจึงมีวิธีเตรียมตัวสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้ ไม่ให้อาการกำเริบหนักในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงมานำเสนอ เป็นวิธีที่ดูแลตั้งแต่ร่างกายของคุณไปจนถึงที่อยู่อาศัย อ่านจบแล้วอย่าลืมทำตาม เพื่อร่างกายที่แข็งแรงพร้อมสู่ทุกอากาศของคุณ
เข้าใจโรค “ภูมิแพ้”
โรคภูมิแพ้เกิดจาก : ร่างกาย เยื่อบุจมูก ตา หรือหลอดลมสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ในสิ่งแวดล้อม เช่น เกสรดอกไม้ ซากแมลง ฝุ่น เชื้อรา ขนสัตว์ ฯลฯ แล้วเกิดปฏิกิริยาของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เยื่อบุบวม มีน้ำมูกไหล จาม หลอดลมอักเสบ อาการเหล่านี้จะเกิดกับผู้ที่แพ้ต่อสิ่งสัมผัสต่างๆ เท่านั้น ไม่ใช่ทุกคนที่จะแพ้และมีอาการเหมือนกันหมด
เวลาไหนควรระวังมากที่สุด : ช่วงหน้าฝนที่อากาศชื้นจะส่งผลให้เชื้อราตามสถานที่ต่างๆ เติบโตได้ดีที่สุดคือช่วงเวลาที่อาการภูมิแพ้จะเกิดขึ้นได้ง่าย
ดูแลร่างกายอย่างไรดี : ควรดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ตากฝน หรือถ้าถูกละอองฝนก็ควรเช็ดตัวให้แห้ง ถ้าศีรษะเปียกฝนก็ควรสระผม อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทำร่างกายให้อบอุ่นทันที
อาหารสำคัญแค่ไหน
อาหารเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยป้องกันและบรรเทาอาการโรคภูมิแพ้ได้ โดยเฉพาะอาหาร 4 ประเภทดังต่อไปนี้
1. กรดไขมันโอเมก้า 3 : พบมากในเมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง ถั่วเหลือง ผักใบสีเขียวเข้ม ปลาที่อาศัยในแหล่งน้ำเย็น เช่น ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล และปลาทะเลต่างๆ
2. วิตามินซี : ยาปฏิชีวนะธรรมชาติ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันป้องกันโรคหวัดและภูมิแพ้ พบมากในผักและผลไม้สด ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ฝรั่ง มะเขือเทศ สตรอเบอรี่
3. ควอร์ซิติน : มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ พบมากในหัวหอม แอปเปิ้ล ชาเขียว
4. แมกนีเซียม : ช่วยรักษาหลอดลมอักเสบและป้องกันโรคหืดได้ พบมากในเต้าหู้ ถั่ว ผักใบเขียว ผักกวางตุ้ง สาหร่ายทะเล
*อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง : อาหารประเภทที่มีเกลือ ไขมัน และโปรตีนจากนม-ไข่ รวมทั้งน้ำมันมัสตาร์ด เนยถั่ว น้ำมันเนย
ป้องกัน
วิธีป้องกันภูมิแพ้ง่ายๆ คือการป้องกันโอกาสที่จะทำให้เชื้อราเกิดขึ้นในสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว โดยเฉพาะภายในบ้าน เริ่มต้นจากการรักษาความสะอาดของห้องน้ำและห้องครัวไม่ให้อับชื้น ไม่ปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ชิดตัวบ้านมากนัก เพราะรากของต้นไม้จะนำความชื้นไปสู่ฐานรากของบ้าน และตรวจดูท่อน้ำทิ้งและรางน้ำต่างๆ ในบริเวณบ้าน ไม่ให้อุดตันหรือเต็มไปด้วยสิ่งสกปรก
อุปกรณ์ต่างๆ ในบ้านก็เช่นกัน อาทิ พรมก็ไม่ควรปล่อยให้เปียกชื้น ไม่ควรเก็บหนังสือพิมพ์ กระป๋อง ขวดเก่าๆ เอาไว้ในบ้านเพราะเป็นแหล่งสะสมเชื้อรา หมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศในเครื่องฟอกอากาศ หรือเครื่องปรับอากาศอย่างน้อยทุก 3 เดือน หมั่นรักษาความสะอาดของสัตว์เลี้ยงในบ้าน เวลาทำความสะอาดบ้านก็เลือกใช้สารทำความสะอาดที่มาจากธรรมชาติแทนสารเคมี
ที่มา : goodfoodgoodlife
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี