อาทิตย์นี้ขอติดตามความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและสนเทศอาเซียน ซึ่งมีคณะกรรมการอาเซียนว่าด้วยวัฒนธรรมและสนเทศ (ASEAN Committee on Culture and Information หรือ ASEAN-COCI) ขึ้น โดยมีผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ คือ บรูไน ดารุสซาลาม กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พม่า ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม เป็นกรรมการทำหน้าที่รับผิดชอบดำเนินงานความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและด้านสนเทศของอาเซียนทั้งในและนอกภูมิภาค โดยมีงบประมาณดำเนินการจากกองทุนวัฒนธรรมอาเซียน (ASEAN Cultural Fund) พร้อมกันมีคณะทำงาน 4 สาขา คือ ด้านวรรณกรรมและอาเซียนศึกษาด้านทัศนศิลป์และศิลปะการแสดง ด้านสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อบุคคล ด้านวิทยุ/โทรทัศน์และภาพยนตร์/วีดิทัศน์ เมื่อเร็วๆ นี้ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร ได้มีการจัดการประชุมวิชาการนานาชาติ “การแสดงพื้นบ้านในอาเซียน” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ โดยจัดให้นักวิชาการไทยและต่างชาติ ที่กำลังศึกษาวิจัยเกี่ยวกับศิลปะการแสดงพื้นบ้านในภูมิภาคอาเซียนได้นำเสนอองค์ความรู้ใหม่ๆ ต่อสาธารณะ และเปิดโอกาสให้คนท้องถิ่นทั้งไทยและในกลุ่มประเทศอาเซียนได้นำศิลปะการแสดงพื้นบ้านของตนมาเผยแพร่ต่อสังคมด้วยกัน
การแสดงพื้นบ้าน (Folk Performing Arts) ที่แต่ละประเทศนำมาแสดงนั้นแม้จะเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งก็ถือว่ามีความสำคัญในฐานะเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สะท้อนวิธีคิด ความเชื่อ อุดมการณ์ และอัตลักษณ์ของกลุ่มคน ซึ่งอาศัยการแสดงออกทั้งในด้านลีลาท่าทาง การเคลื่อนไหว การพูด การร้อง การเต้น การบรรเลง การขับกล่อม และการละเล่นต่างๆ ล้วนปรากฏอยู่ในประเพณี พิธีกรรม และเทศกาลของท้องถิ่น การแสดงนั้นจึงมีทั้งความงดงามและมีความหมายทางวัฒนธรรม ด้วยใช้สื่อสารให้สมาชิกในชุมชนมีสำนึกร่วมเดียวกัน และสื่อสารกับบุคคลภายนอกให้รู้ว่าวัฒนธรรมของกลุ่มแตกต่างจากวัฒนธรรมอื่นอย่างไร การศึกษาด้านมานุษยวิทยาทำให้รู้ว่า การแสดงพื้นบ้านคือปรากฏการณ์ทางสังคมและวัฒนธรรมที่น่าสนใจ เป็นภาพสะท้อน “ชีวิตทางสังคม” ให้บุคคลใช้การแสดงเป็นสื่อแสดงออกในการวิพากษ์วิจารณ์หรือตอกย้ำกฎระเบียบของสังคม การแสดงพื้นบ้านจึงปรับตัวไปตามการเปลี่ยนแปลงทางสังคม และต้องทำความเข้าใจพลวัตทางสังคมและวัฒนธรรมที่ปรากฏอยู่ในการแสดงพื้นบ้าน คนท้องถิ่นอาจใช้การแสดงพื้นบ้านภายใต้บริบทที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น จากเดิมที่เคยแสดงในพิธีกรรมทางศาสนา อาจเปลี่ยนไปสู่การแสดงเพื่อการท่องเที่ยวและการส่งเสริมอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม
ดังนั้น การแสดงพื้นบ้านของประเทศในประชาคมอาเซียนจึงถูกเชื่อมโยงด้วยผลงานด้านศิลปการแสดง มีกิจกรรมด้านนาฏศิลป์ ละคร ดนตรี ทั้งในรูปแบบดั้งเดิมและร่วมสมัย เรื่องนี้องค์การยูเนสโกได้มีนโยบายการอนุรักษ์ศิลปะที่จับต้องไม่ได้ จึงมีการพยายามสนับสนุนให้บางประเทศเป็นเจ้าของการแสดง แม้ว่านโยบายนี้ทำให้เกิดข้อโต้แย้งจากสมาชิกหลายประเทศที่มีวัฒนธรรมร่วมกันอยู่ แม้แต่กฎหมายคุ้มครองสิทธิทางปัญญาที่ต้องการปกป้องคุ้มครองสิทธิของศิลปินพื้นบ้านเองก็สร้างความซับซ้อนให้กับการผลิตซ้ำการแสดงต่างๆ มีความหลากหลายและการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ทำให้ศิลปะการแสดงไม่ว่าจะเป็นการฟ้อน เต้นและร่ายรำ การแสดงละครที่เป็นเรื่อง การเล่นดนตรี การร้องสดการแสดงที่ใช้หุ่นและกายกรรมนั้นถูกฟื้นฟูกลับมามีบทบาทต่อการสะท้อนความคิด ความเชื่อ โลกทัศน์และวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่น ให้ปรากฏอยู่ในพิธีกรรมทางศาสนา พิธีกรรมเกี่ยวกับชีวิต พิธีกรรมทางเกษตรกรรม และเทศกาลงานประเพณีต่างๆ ด้วยความหวังว่าจะเป็น “วัฒนธรรมอาเซียน” ไปด้วยกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี