Argenteuil near promenade
นักท่องเที่ยวที่มากรุงปารีส และไปเที่ยวมิวเซียมมาแล้วหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น Le Lourve, Centre Pompidou, Museum d’Orsay, Peptit Palais, Museum of Modern Art แล้ว หลายคนคงติดใจผลงาน Impressionism ในฝรั่งเศส มิวเซียมหนึ่งที่ตอบโจทย์คือ Museum MarmottanMonet
มิวเซียมที่เคยเป็นบ้านล่าสัตว์ของ Edmond Kellerman ที่ถูกซื้อโดย Jules Marmottan ในปี 1882 นี้มีต้นกำเนิดจากการที่ Paul Marmottanลูกชายของ Jules Marmottan นำผลงานศิลปะโดยเฉพาะช่วง First Empire ที่สะสมมาจัดตั้งเป็น Marmottan Monet Museum ในปี 1934 ต่อมาในปี 1957 ทางมิวเซียมได้ผลงานสะสมแนว Impressionism เช่น ผลงานของ Manet, Monet, Pissaro, Sisley และ Renoir ของ Madame Victorine Donop de Monchy มาเพิ่มเติม หลังจากนั้นไม่นาน Michel Monet บุตรชายคนที่สองของ Claude Monet ได้ยกสมบัติของเขาใน Giverny ให้กับ French Academy of Fine Arts จนทำให้ที่นี่มีผลงานของ Claude Monet มากที่สุดในโลก ในครั้งนั้น สถาปนิกและภัณฑรักษ์จึงได้ออกแบบห้องแสดงผลงานของ Monet จากแรงบันดาลใจของ Grandes Decoration ใน Tuilerie’s Orangerie เพื่อจัดแสดงผลงานของ Claude Monet โดยเฉพาะ
Bergere lying
นอกจากนี้ Museum Marmottan Monet ยังได้ผลงานของ Henri Duhem ที่บริจาคจาก Nelly Duhem บุตรสาวของศิลปินด้วย ยิ่งกว่านั้นมูลนิธิ Denis and Annie Rouart ยังได้บริจาคผลงานของ Berthe Morisot, Edouard Manet, Edgar Degas และ HenriRouart ซึ่งเป็นผลงานแนว Impressionism เพิ่มเติมอีกจนทำให้ที่นี่กลายเป็นมิวเซียมที่มีผลงานแนว Impressionism มากเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว
นักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสมาเยือนมิวเซียมแห่งนี้จะพบว่าที่นี่มีห้องพิเศษสำหรับ Monet โดยเฉพาะที่ใหญ่มากโดยภายในมีภาพของ Monet ประมาณ 50 ภาพ แต่ต้องใช้เวลาในการชื่นชมผลงานนานนับชั่วโมง ทั้งนี้เพราะภาพของ Monet ดูค่อนข้ายากโดยเฉพาะเมื่อดูภาพใกล้ๆ นักท่องเที่ยวจะยิ่งทึ่งในฝีไม้ลายมือของศิลปินว่าวาดได้อย่างไร เช่น ภาพสะพานในสวนเมืองGiverny ซึ่งเป็นบ้านที่ศิลปินยืมเงินนายหน้ามาซื้อก่อน ภาพ Water Lillyซึ่งล้วนแล้วแต่ดูยากทั้งนั้น ยิ่งเมื่อนักท่องเที่ยวยืนดูภาพใกล้ๆ แล้วจะยิ่งดูไม่ออกว่าศิลปินวาดอย่างไร เพราะมันดูเหมือนก้อนสีมากกว่า ภาพของ Monet จึงเป็นภาพของศิลปินไม่กี่คนในโลกที่นักท่องเที่ยวต้องไปดู ณ สถานที่จริงหรือดูภาพจริงๆ จึงจะซาบซึ้งได้ การดูภาพถ่ายหรือโปสการ์ดจะไม่มีวันเข้าใจหรือได้อรรถรสอย่างแท้จริงอย่างแน่นอน จริงอยู่การดูภาพจริงของแวนโก๊ะทำให้เราสามารถจับอารมณ์ของศิลปินได้เลยว่าภาพของเขาถูกเขียน ณ อารมณ์เช่นใด แต่ภาพของ Monet จะทำให้ผู้ชมเห็นถึงอัจฉริยภาพของศิลปินที่เด่นชัดมากๆ โดยเฉพาะภาพของ Monet ที่มิวเซียมแห่งนี้
Rising Sun
นักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสดูภาพจริงๆ จะสามารถเห็นได้ทั้งความนิ่งที่มีมิติและความเคลื่อนไหวในภาพเดียวกันได้เลยทีเดียว เช่น ภาพ Garden in Giverny ถนนที่เดินตรงเข้าบ้านนั้น ไม่ว่ามองจากทางใด ทางเข้าบ้านกับสายตาผู้มองจะอยู่แนวตรงกันกับทางเข้าบ้านเสมอ จริงอยู่มันอาจเป็นมุมพิเศษตามแนวทางของสถาปนิก แต่ภาพเขียนที่ใช้สีป้ายจนมองไม่ออกว่าวาดอะไรในระยะเมตรเดียวทำได้อย่างไร คงเป็นที่กังขาสำหรับผู้ชมไม่น้อย ผู้ที่รักศิลปะและมีโอกาส น่าจะไปชมให้ได้สักครั้งในชีวิต และอาจติดใจถึงขนาดตามไปดูทุกปีเลยก็เป็นได้ การใช้เวลาในมิวเซียมแห่งนี้กับเงินสิบยูโรจึงเป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงจริงๆ
นอกจากผลงานของ Monet แล้ว ที่นี่ยังมีผลงานของ Berthe Marisot ศิลปินแนวImpressionism ชาวปารีสอีกเป็นจำนวนมากให้นักท่องเที่ยวชื่นชมจนจุใจอีกต่างหากด้วย
The Train in the Snow
Bois de boulogne
Japanese Bridge
Japanese Bridge2
The Path under the Rose Arches
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี