สวัสดีครับ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเราได้คุยกันเรื่องการอาบน้ำกันไปแล้ว สัปดาห์นี้เรามาคุยกันเรื่องการเลือกแชมพูสำหรับสุนัขกันครับ
หลายคนสงสัยว่า เอาแชมพูของคนมาใช้กับสุนัขได้หรือไม่? บางคนอาจบอกว่าแชมพูสำหรับเด็กมาอาบให้สุนัขและแมวก็น่าจะได้ เพราะเด็กยังใช้ได้เลย ทำไมสุนัขจะใช้ไม่ได้ล่ะ
ขอเรียนว่า ความคิดนี้เป็นความคิดที่ “ผิดอย่างแรง” เลยครับ
เราไม่ควรนำแชมพูของคนมาใช้กับสัตว์ เนื่องจาก ความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) ของผิวหนังคนกับสัตว์นั้นมีค่าแตกต่างกัน ผิวหนังสุนัขนั้นมีค่า pH = 7.5 ซึ่งมีสภาวะเป็นด่างอ่อนๆ (ความเป็นกลางของน้ำมีค่าเท่ากับ 7) แต่ผิวหนังของคนมีค่า pH เท่ากับ 5.5 ซึ่งมีสภาวะเป็นกรดอ่อนๆ แชมพูสุนัขที่ดีจึงมีค่า pH ที่ 6.5-7.5 เพื่อไม่ทำให้เกิดความระคายเคืองผิวหนัง แชมพูที่มีสภาวะเป็นกรดจะไปทำลายไขมันที่คลุมผิวหนัง ทำให้ผิวหนังขาดความชุ่มชื้น เกิดอาการคันผิวหนัง ทำให้เกา เกิดปัญหาผิวหนังอักเสบติดเชื้อและขนร่วงตามมาได้ครับ
นอกจากนี้ ผิวหนังของสุนัขไวต่อการแพ้มากกว่าด้วย เนื่องจากความหนาของชั้นผิวหนังของสุนัขจะน้อยกว่าของคน ดังนั้นสารเคมีในแชมพูจะทำให้เกิดความระคายเคืองได้ง่ายกว่าด้วยครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในลูกสัตว์หรือสัตว์ที่มีผิวหนังที่แพ้ง่าย เจ้าของยิ่งต้องเลือกแชมพูที่มีสูตรอ่อนโยน (hypoallergenic) เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังด้วย
แชมพูสำหรับสุนัขในเชิงสัตวแพทย์นั้นมีหลายประเภท ขึ้นกับวัตถุประสงค์ของการใช้งาน ได้แก่แชมพูแบบสูตรอ่อนเพื่อลดการระคายเคืองผิวหนัง แชมพูกำจัดเชื้อราและแบคทีเรียที่ผิวหนัง แชมพูบำรุงขน และแชมพูกำจัดเห็บ เป็นต้นการเลือกใช้แชมพูในสุนัขนั้น จึงต้องเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวหนังของสัตว์เลี้ยง แต่ถ้าสัตว์เลี้ยงของท่านมีปัญหาทางด้านผิวหนังแล้ว ควรขอรับคำปรึกษาสัตวแพทย์จะดีกว่า เพราะอาจต้องใช้การตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุของความผิดปกตินั้น จึงจะเลือกแชมพูที่เหมาะสมกับสัตว์เลี้ยงของเราครับ
น้ำที่ใช้อาบก็ควรเป็นน้ำที่มีอุณหภูมิเท่ากับอุณหภูมิห้อง (อุณหภูมิปกติ ณ เวลานั้นนั่นเอง) ซึ่งไม่ควรใช้น้ำที่มีอุณหภูมิที่สูงเกินไป (น้ำอุ่น) เพราะการอาบน้ำด้วยน้ำที่อุ่นจะทำให้เส้นเลือดที่ผิวหนังเกิดการขยายตัว โดยเฉพาะในกรณีที่มีปัญหาผิวหนังอักเสบ จะทำให้เกิดผิวหนังอักเสบมากขึ้น ผิวก็จะแห้งมากขึ้น ซึ่งจะทำให้สัตว์เกิดอาการคันมากขึ้น
การฟอกแชมพู (โดยเฉพาะแชมพูยา) ก็ควรที่จะเอาแชมพูละลายน้ำให้เจือจางก่อนแล้วจึงชะโลมให้ทั่วตัว ไม่ควรนำแชมพูเทลงบนฝ่ามือแล้วถูบนตัวสัตว์ทันทีเพราะความเข้มข้นของแชมพูที่มากเกินไปอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังของสัตว์ได้ครับ
หลังจากการฟอกแชมพูยา (รวมถึงแชมพูกำจัดเห็บหมัด) ก็ควรทิ้งแชมพูไว้บนตัวสัตว์อย่างน้อย 5-10 นาที เพื่อให้ตัวยาในแชมพูออกฤทธิ์ได้เต็มที่ (ที่สำคัญ ต้องอย่าให้สุนัขเลียแชมพูเด็ดขาดครับ) หลังจากนั้น ควรล้างแชมพูออกด้วยน้ำสะอาดให้เกลี้ยง แล้วเช็ดตัวให้แห้งหรือเป่าตัวให้แห้งด้วยลมเย็น หรือที่ไม่ร้อนเกินไป
เห็นไหมครับการอาบน้ำและการใช้แชมพูก็เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ เพื่อให้สุนัขของเราได้ประโยชน์จากแชมพูมากที่สุด เพียงแค่เราดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงของเราในการอาบน้ำ ก็จะทำให้สัตว์เลี้ยงของเรามีสุขภาพผิวที่ดีขึ้นและลดอาการคันที่เกิดจากการติดเชื้อลงได้ครับ
ลืมบอกไปครับว่า ในกรณีฉุกเฉิน เช่นเมื่อเจ้าตูบเล่นซน จนตกน้ำเน่าเลอะเทอะ แต่บังเอิญแชมพูสำหรับสุนัขหมดพอดี เราก็สามารถใช้แชมพูคนอาบให้แก้ขัดไปก่อนได้ครับ ไม่ได้หมายความว่าจะห้ามใช้เลย เพราะการใช้เพียง 1 หรือ 2 ครั้ง ก็ไม่ถึงกับทำให้เกิดปัญหาหนักหน่วงอะไร ดีกว่าปล่อยให้เจ้าตูตัวเหม็นอยู่อย่างนั้นนะครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี