สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดงาน
“สานตำนานยิ่งใหญ่ สายใยชุมชนท้องถิ่น สร้างสรรค์ศิลป์ พิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน”
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จทรงเป็นองค์ประธานเปิดงาน “สานตำนานยิ่งใหญ่ สายใยชุมชนท้องถิ่น สร้างสรรค์ศิลป์ พิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน” ซึ่งเป็นโครงการในพระดำริ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ที่ทรงมีพระประสงค์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและบูรณะศาสนสถาน โบราณวัตถุ โบราณสถาน โดยยึดหลักการพัฒนาอย่างสมเหตุสมผลตามสภาพภูมิสังคม วัฒนธรรมชุมชน รวมไปถึงการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อประโยชน์ของสังคมอย่างพอเพียงและยั่งยืน โดยมี พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์พร้อมด้วย ปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และคณะกรรมการจัดงาน รับเสด็จ ณ โบราณสถานเวียงท่ากาน อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
ทอดพระเนตรแบบจำลองพิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน
ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงได้ประทานของที่ระลึกแก่ผู้มีอุปการคุณจำนวน 84 ราย ประทานถ้วยรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศยอดเยี่ยม การประกวดการออกแบบภายในห้องนิทรรศการหมุนเวียนภายในพิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน จำนวน 1 ราย ประทานโล่รางวัลพิเศษ การประกวดการออกแบบภายในห้องนิทรรศการหมุนเวียนภายในพิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน จำนวน 1 ราย ต่อด้วยประทานถ้วยพระราชทาน แก่ผู้ชนะเลิศยอดเยี่ยม การประกวดออกแบบชุดยุวมัคคุเทศก์เวียงท่ากานจำนวน 1 ราย จากนั้นทอดพระเนตรการแสดง “ทรายสรรค์ ตำนานศิลป์ถิ่นท่ากาน” ซึ่งเป็นการแสดงศิลปะวาดภาพด้วยทราย โดย อาจารย์ก้องเกียรติ กองจันทร์ดี ประกอบด้วยสื่อ แสง สี เสียง ที่ทันสมัยจาก ARTs OF KORAT โดยใช้เทคนิค Projection Mapping ที่หาชมได้ยากยิ่ง
ทอดพระเนตรนิทรรศการภาพวาดโบราณวัตถุและโบราณสถาน ผลงาน
ของอ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ
โอกาสนี้ ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดงาน “สานตำนานยิ่งใหญ่ สายใยชุมชนท้องถิ่น สร้างสรรค์ศิลป์ พิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน” จากนั้น
เสด็จทอดพระเนตรแบบจำลองพิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน นิทรรศการภาพวาดโบราณวัตถุ และโบราณสถานจากศิลปินแห่งชาติ และศิลปินชื่อดัง อาทิ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์, อ.ปัญญา วิจินธนสาร, อ.สมภพ บุตราช,ผศ.ไพรวัลย์ ดาเกลี้ยง, ผศ.ไพโรจน์ วังบอน,ผศ.ธณฤษภ์ ทิพย์วารี เป็นต้น ทอดพระเนตรนิทรรศการการจำลองหลุมขุดค้นทางโบราณคดี นิทรรศการผลงานการประกวดออกแบบภายในห้องนิทรรศการหมุนเวียน นิทรรศการผลงานการประกวดออกแบบชุดยุวมัคคุเทศก์เวียงท่ากาน และทรงเยี่ยมชมบูธกิจกรรมการถ่ายภาพ พร้อมประทานฉายพระรูปร่วมกับคณะกรรมการจัดงาน ก่อนเสด็จกลับ
ทอดพระเนตรนิทรรศการ การจำลองหลุมขุดค้นทางโบราณคดี โดยมี
พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ถวายคำรายงาน
ผศ.วิเชษฎ์ สุวิสิทฐ์ ที่ปรึกษาฝ่ายสถาปัตยกรรมและผู้ออกแบบพิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน เผยว่า พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงเห็นความสำคัญของโบราณสถานเวียงท่ากาน ตำบลบ้านกลาง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งโบราณสถานแห่งนี้ มีคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรม และเป็นหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่อยู่คู่กับชุมชนมาเป็นเวลาช้านาน อีกทั้ง ชุมชนมีความเข้มแข็งในการดูแลรักษาโบราณสถาน และโบราณวัตถุ แต่ขณะนี้ยังขาดพิพิธภัณฑ์สถานสำหรับเก็บรวบรวมและเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้คุณค่าทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ ศาสนาและวัฒนธรรมให้แก่ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะเยาวชนในท้องถิ่น ควรได้รับการส่งเสริมปลูกฝังให้รักและหวงแหน สืบทอดมรดกของชาติ ในการจัดงาน “สานตำนานยิ่งใหญ่ สายใยชุมชนท้องถิ่น สร้างสรรค์ศิลป์ พิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน” ครั้งนี้ เป็นการประชาสัมพันธ์โบราณสถานเวียงท่ากาน ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น อีกทั้ง ยังเป็นการจัดหารายได้สมทบทุนในการสร้างพิพิธภัณฑ์เวียงท่ากานอีกด้วย
ผศ.วิเชษฎ์ สุวิสิทฐ์
โอกาสนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ มีพระดำริให้จัดสร้างสถานที่สำหรับเก็บหลักฐานทางโบราณคดี โบราณวัตถุที่มีคุณค่าอย่างถูกวิธี และมีพระประสงค์ขอรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทุกภาคส่วนในพื้นที่ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาเป็นข้อมูลพัฒนาในการออกแบบ และจัดสร้างให้สอดคล้องตามความต้องการเป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นหรือพิพิธภัณฑ์ชุมชนแสดงถึงความเป็นมาของชุมชน อันจะสร้างความรู้ความภาคภูมิใจของชุมชนท้องถิ่น และเป็นแบบอย่างที่ดีของการพัฒนาชุมชนและท้องถิ่นตลอดจนศิลปวัฒนธรรมให้ ยั่งยืนต่อไป
การแสดงศิลปะวาดภาพด้วยทราย “ทรายสรรค์ ตำนานศิลป์ ถิ่นท่ากาน”
โดย อ.ก้องเกียรติ กองจันทร์ดี
ทั้งนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ประทานงบประมาณซื้อที่ดินสำหรับปลูกสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์จำนวน 19 ไร่ไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งรูปแบบของอาคารพิพิธภัณฑ์นั้นเป็นแบบล้านนาที่เกิดจากการเห็นคุณค่าของสถาปัตยกรรมท้องถิ่น จึงเป็นรากฐานทางมรดกและวัฒนธรรมของล้านนา เป็นต้นแบบการพัฒนาพิพิธภัณฑ์ ให้เป็นแบบล้านนาร่วมสมัยเหมาะสมกับการใช้งาน โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน คือ ส่วนที่ 1 ส่วนของการบริหารและการจัดการ ประกอบด้วย อาคารสำนักงานบริหาร ส่วนที่ 2 ส่วนพิพิธภัณฑ์ ประกอบด้วย อาคารส่วนนิทรรศการถาวร, อาคารส่วนนิทรรศการชั่วคราว และอาคารประชาสัมพันธ์ และส่วนที่ 3 ส่วนของการศึกษา ประกอบด้วย อาคารการเรียนรู้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี