ศาลเจ้าพ่อพระยาจักร
วันที่ 10-14 ธันวาคม ที่จะถึงนี้มีงานที่น่าสนใจคืองานอู่ทองอู่อารยธรรมสุวรรณภูมิ ณ อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยเปิดการเชิญชวนแต่งผ้าไทย ใส่ลูกปัด แล้วเรียนรู้เส้นทางอารยธรรม โดยเริ่มจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง ศาลเจ้าพ่อพระยาจักร วัดเขาพระศรีสรรเพชญ์ดูการสลักพระใหญ่ที่เขาทำเทียม และหมู่บ้านอู่ทองอู่อารยธรรมสุวรรณภูมิ พร้อมด้วยการแสดง แสง สี เสียง ย้อนอดีตอารยธรรมอู่ทอง ให้เข้าใจในวัฒนธรรมทวารวดี อาทิตย์นี้จึงขอตามรอยภูมิอารยธรรมอู่ทองไปที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง ที่คุณเด่นดาว ศิลปานนท์ เป็นผู้อำนวยการดูแลอยู่ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เดิมจัดแสดงโบราณวัตถุส่วนใหญ่เป็นโบราณวัตถุสมัยทวารวดีที่พบในบริเวณเมืองโบราณอู่ทองและในพื้นที่ของจังหวัดสุพรรณบุรี นครปฐม กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี และโบราณวัตถุที่ย้ายมาจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โบราณวัตถุทั้งหมดนั้นล้วนมีคุณค่าในการศึกษาค้นคว้าทางด้านโบราณคดีและประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก อันเป็นเหตุให้นักวิชาการเชื่อว่า อู่ทองนั้นมีความสัมพันธ์กับดินแดน “สุวรรณภูมิ” ศูนย์กลางการค้าของโลกในยุคโบราณเมื่อประมาณ 2,500 ปีมาแล้ว และเป็นจุดเริ่มแรกที่พระพุทธศาสนาเข้ามาประดิษฐานในประเทศไทยด้วย จึงทำให้มีการจัดนิทรรศการให้ข้อมูลและแสดงเรื่องภูมิหลังของเมืองอู่ทองให้มีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น
การแสดงแสงสีเสียง
เส้นทางอารยธรรมสุวรรณภูมินอกจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่อยู่ในเมืองโบราณอู่ทองของเดิมแล้วยังมีสถานที่สำคัญที่น่าสนใจอีกหลายแห่งที่เสริมการเรียนรู้ เช่น ศาลเจ้าพ่อพระยาจักร คือองค์พระวิษณุ ซึ่งเป็นหินสลักนูนสูง ประทับยืนตรงมีสี่กร พระผู้เป็นเจ้าของศาสนาฮินดู เมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 13-14 ที่ชาวอู่ทองอัญเชิญเป็นหลักเมืองในศาลเจ้าที่สร้างเมื่อประมาณ ปีพ.ศ.2400 วัดเขาพระศรีสรรเพชญาราม ที่เรียกกันติดปากว่า วัดเขาพระ เป็นวัดเก่าแก่สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยทวารวดี เชิงเขาพระนี้มีเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส พบพระพิมพ์ดินเผาปางแสดงธรรมด้วยพระหัตถ์ทั้งสองข้างประทับยืนภายในซุ้มจำนวน 2 องค์ และโบราณวัตถุอีกหลายชิ้นและพบพระวิษณุ อยู่ที่ศาลเจ้าด้านหน้าวัดเขาพระ สลักจากเนื้อหิน ขนาดกว้าง 97 เซนติเมตร สูง 175 เซนติเมตร และแผ่นหินสลักนูนสูง เป็นรูปทิพยบุคคลมีสี่กร พระหัตถ์ขวาบนถือจักร พระหัตถ์ขวาล่างถือตรีศูลพระหัตถ์ซ้ายบนไม่ทราบแน่ชัดว่าถือสิ่งใด ส่วนพระหัตถ์ซ้ายล่าง ถือคทา เทพเจ้าดังกล่าวประทับยืนตรง มีประภาวลี อยู่รอบเศียร แผ่นหินดานหลังสลักเป็นรูปพญานาคหลายเศียรคล้ายเป็นกรอบประภามณฑล จากลักษณะของภาพที่ปรากฏ บนยอดเขาพบรอยพระพุทธบาทจำลองแกะสลักด้วยหินทรายสีเขียวสลักลวดลายมงคล 108 ประการ ในกรอบวงกลม นักวิชาการส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่า เป็นรอยพระพุทธบาท ศิลปะสมัยทวารวดีตอนปลายที่ได้รับอิทธิพลศิลปะขอม อายุราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 ประดิษฐานไว้ในมณฑปบนยอดเขาสวนหินธรรมชาติพุหางนาค หรือเขาพุหางนาคเป็นพรุที่มีน้ำผุดขึ้นมากลายเป็นลำธารคดเคี้ยวราวกับหางนาค ด้านล่างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมพุหางนาค ส่วนด้านบนเป็นอุทยานหินโบราณมีลักษณะแปลกตามากมาย ใกล้กันเป็นวัดเขาทำเทียม ที่มีชื่อเรียกหลายชื่อเช่น วัดเขาธรรมเธียร วัดเขาคำเทียม วัดเขาถ้ำเทียมสวรรค์ วัดเขาทำเทียม ชื่อเขาธรรมเธียร วัดนี้ได้ขออนุญาตสร้างวัดพร้อมกันกับวัดเขาพระเมื่อปีพุทธศักราช 2460 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ.2471 บริเวณวัดมีอุโบสถเก่าสร้างในสมัยอยุธยาตอนต้น และเจดีย์สมัยอยุธยา ซึ่งบริเวณนี้พบพระพุทธรูปเก่า ธรรมจักรพร้อมแท่นรองและเสาที่สมบูรณ์ที่สุด ขุดค้นพบในปี พ.ศ.2516 ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง และหมู่บ้านอู่ทอง อู่อารยธรรมสุวรรณภูมิ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับเยาวชนและผู้ที่สนใจในเรื่องราวของเมืองสุวรรณภูมิ เพื่อสร้างความสำนึกให้เกิดความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของบ้านเมืองนี้ อันเป็นแหล่งสำคัญของการเป็นปฐมภูมิแห่งอารยธรรมสุวรรณภูมิที่แท้จริงในอนาคต
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง
พระพุทธรูปนอนวัดเขาพระ
เขาพุหางนาค
วัดเขาพระสร้างสมัยทวารวดี
โบราณวัตถุสมัยทวารวดีของอู่ทอง
ลูกปัดอู่ทองยุคสมัยทวารวดี
การพบธรรมจักรและเสาพร้อมฐานตั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี