นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสไปเยือนฝรั่งเศสตอนใต้ มีเวลามากพอ และอยากหาเมืองแปลกๆ ที่คนไทยไม่ค่อยไปเที่ยว เมืองหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ Narbonne การเดินทางไปเมืองนี้ก็ไม่ยาก หากไปจากเมือง Montpillier จะสามารถเดินทางโดยรถไฟ TER ได้ในเวลาหนึ่งชั่วโมง แต่หากมาจากปารีสโดยตรงต้องใช้รถ TGV ซึ่งต้องจองล่วงหน้าหากใช้ France Pass และต้องใช้เวลาเดินทางนานถึง 4 ชั่วโมงกว่า
Narbonne เมืองทางใต้ของฝรั่งเศสที่อยู่ในแคว้น Languedoc-Roussillon นี้เคยเป็นเมืองท่าที่สำคัญและเป็นเมืองหลักในยุค
โรมันอันเป็นผลมาจากการที่เมืองนี้อยู่ห่างจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเพียงแค่ 15 กิโลเมตร เมืองนี้ถูกตั้งขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี 118 ก่อนคริสตกาลโดยเป็นทางเชื่อมระหว่างอิตาลีและสเปน เมืองนี้เคยมีความสำคัญมากเพราะเป็นคู่แข่งของเมือง Marseille ในสมัยจูเลียส ซีซาร์ หลังปี 719 Narbonne กลายเป็นส่วนหนึ่งของคอร์โดบา อีก 40 ปีต่อมา เมืองนี้ถูกปกครองโดยราชวงศ์ Carolingian จึงได้พ้นจากน้ำมือของชาวมุสลิมและกลายเป็นคริสเตียนนับจากนั้นมา แม้ Narbonne จะมีชาวยิวจากแบกแดดเดินทางมาอยู่เป็นจำนวนมากจนทำให้ที่นี่กลายเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของชาวยิวในยุโรปตะวันตกก็ตาม
เมื่อแม่น้ำ Aude เปลี่ยนเส้นทางการไหล ร่วมกับความผันแปรของความยาวของชายหาดทำให้ Narbonne หมดความสำคัญลงนับจากคริสต์ศตวรรษที่ 14 เป็นต้นมา ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 ชาวเมืองจึงดำริที่จะสร้างคลอง De la Robine เพื่อให้พวกเขาสามารถที่จะขนย้ายสินค้าจากแม่น้ำไปยังทะเลได้สะดวกขึ้น นับจากนั้นเทศบาลจึงได้ขุดคลองเพิ่มอีก 2 คลองคือ Royal Canal และ Canal de Jonction ยังผลให้เมืองนี้กลับมามีความสำคัญอีกครั้ง อย่างไรก็ดีในคริสต์ศตวรรษที่ 19 รัฐบาลฝรั่งเศสได้ขยายทางรถไฟมากขึ้นทำให้เกิดการแข่งขันกันในการขนส่งระหว่างรถไฟและเรือยังผลให้เมืองนี้ประสบปัญหาอีก แต่ยังดีที่การขนส่งไวน์ทางน้ำยังเป็นที่นิยมอยู่บ้าง
นอกจากความสวยงามของเมืองจากอาคารมีสีสันหลากหลายแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองก็คือ Cathedral St.Just หรือ Narbonne Cathedral โบสถ์ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับ Saint Just and Pastor โบสถ์ที่ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี 313 เมื่อเมืองนี้กลายเป็นคริสเตียนนั้นเดิมชื่อ Constantinian Basilica หลังจากที่โบสถ์ถูกไฟไหม้ในปี 441 บิชอป Rusticus
ได้สร้างโบสถ์ขึ้นใหม่และเสร็จสิ้นในอีก 2 ปีต่อมาโดยอุทิศให้กับSaint Genesius of Arles ต่อมาในปี 782 โบสถ์นี้ได้ปรับปรุงใหม่เพื่ออุทิศให้กับ Saint Just and Pastor นักเรียนสองคนที่ถูกสังหารจากความศรัทธาในคริสต์ศาสนาในช่วงที่พระจักรพรรดิ Diocletian สังหารหมู่ชาวคริสต์ แม้โบสถ์จะได้รับการปรับปรุงต่อมาอีกหลายครั้งแต่ก็เสื่อมโทรมลงมากจนกระทั่งปี 1268 พระสันตะปาปา Clement IV ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งบิชอปของ Narbonne มีดำริที่จะปรับปรุงโบสถ์ใหม่ให้มีสถาปัตยกรรมแบบโกธิก อย่างไรก็ดีโบสถ์กลับไม่เคยถูกสร้างจนเสร็จสมบูรณ์เลยอันเป็นผลมาจากเศรษฐานะของโบสถ์และการหมดความสำคัญลงของเมือง Narbonne เอง
นักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสมาเยือนโบสถ์จะพบว่า โบสถ์มีขนาดใหญ่ สวยงามมีสถาปัตยกรรมแปลกตาไม่เหมือนที่อื่น
และในบางเวลายังมีการจัดแสดงนิทรรศการภาพเขียนด้วยโดยเฉพาะภาพเขียนแนว Contemporary Art ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี