The Death of Abel by Francois Xavier Fabre
นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสมาเยือนฝรั่งเศสตอนใต้โดยเฉพาะแถบเมดิเตอร์เรเนียน แต่ไม่อยากใช้ Marseille เป็นจุดเปลี่ยนรถไฟแล้ว เมืองหนึ่งที่น่าสนใจคือ Montpillier เมืองนี้เดินทางไม่ยากจากปารีสมีรถ TGV ตรงเลยโดยใช้เวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมงครึ่ง ขึ้นกับเวลาที่เลือกออกจากปารีส การใช้เมืองนี้เป็นเมืองหลักในการเดินทางไปยังเมืองเล็กๆ รอบๆ มีข้อดีตรงที่ค่าโรงแรมของเมืองนี้ค่อนข้างถูก และสามารถเดินทางไป Sete, Perpignan, Narbonne และ Carcassone โดยใช้รถไฟ TER ได้ไม่ยากและใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง จึงทุ่นแรงและเวลาไปได้มาก
The Lazy Death by Jean Baptiste Greuze
ข้อดีอีกอย่างของสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบภาพเขียนเป็นพิเศษนั่นคือ เมืองนี้เป็นที่ตั้งของ Museum Fabre มิวเซียมที่ถูกก่อตั้งขึ้นโดย Francois Xavier Fabre ศิลปินชาว Montpillierในปี 1825 นี้เป็นมิวเซียมที่มีความสำคัญระดับชาติจนได้รับการยกระดับให้เป็นมิวเซียมแห่งชาติโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม มิวเซียมนี้ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกจากการได้รับผลงานจิตรกรรมจำนวน 30 ภาพ ให้มาจัดแสดงในมิวเซียมประจำเมืองในปี 1802 ต่อมาในปี 1825 Fabre ได้บริจาคผลงานของตัวเองและที่เขาสะสม เช่น ผลงานของศิลปินเรอเนสซองส์ผลงานของศิลปินในคริสต์ศตวรรษที่ 17 เช่น Raphael, Salviati และ Guercino ผลงานของศิลปินชาวฝรั่งเศสในคริสต์ศตวรรษที่ 17 เช่น Poussin ให้กับเทศบาลเมืองเป็นจำนวนมาก แม้เพื่อนของเขาจะทัดทานเนื่องจาก Montpillier มีชื่อเสียงเฉพาะทางการแพทย์
Epiphany by Jean Baptiste Greuze
อย่างไรก็ดี ในที่สุดนายกฯ เทศมนตรีก็ได้จัดการซ่อมแซม Hotel de Massillian เพื่อไว้จัดแสดงผลงานที่ได้รับมาจำนวนมากจาก Fabreโดยเปิดทำการครั้งแรกในเดือนธันวาคมปี 1828 นับจากนั้นมามิวเซียมแห่งนี้ก็ได้รับบริจาคผลงานจากนักสะสมภาพและศิลปินหลายคน เช่น JulesBonnet-Mel, Alfred Bruyas และ Jules Canonge
ในปี 1968 Sabatier d’Espeyran ได้มอบคฤหาสน์และหนังสือในห้องสมุดจำนวนมากของสามีที่สร้างในสมัย Third Republic ให้กับเทศบาลตามพินัยกรรมของสามี ราวปี 2001 เทศบาลจึงได้ย้ายห้องสมุดออกจากคฤหาสน์เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดแสดงผลงานศิลปะแนวโมเดิร์น นอกจากนั้นในปี 2003 เทศบาลยังได้ลงทุนปรับโฉมมิวเซียมใหม่เป็นเงินถึง 61.2 ล้านยูโรโดยใช้เวลาในการปรับปรุง 4 ปีจนเสร็จสมบูรณ์ในปี 2007 นักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสมาเยี่ยมเยือนมิวเซียม Fabre จะได้มีโอกาสดื่มดํ่ากับผลงานจิตรกรรมชั้นยอดเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะจากฝีมือของFabre เอง เช่น The Death of Abel, The Death of Narcissus, Saul, restless with Remorse รวมทั้งศิลปินอื่นๆ เช่น Phaedra, The Fallen Angel ของ Alexandre Cabanel, The Lazy Death, Epiphany ของ Jean Baptiste Greuze, Nude Male by Jacques Louis David, The Toillet ของ Frederic Bazille และ Venusand Cupid ของ Alessandro Allori
นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือน MuseumFabre จะพบว่าที่นี่มีของจัดแสดงสวยๆจำนวนมาก เสียอย่างเดียวไม่มีภาษาอังกฤษเลยจึงทำให้การชื่นชมผลงานเสียอรรถรสไปพอควร แต่ยังดีที่การบริการของมิวเซียมดีเยี่ยมเพราะมีเจ้าหน้าที่นำทางตลอด แถมหนังสือของมิวเซียมยังให้ข้อมูลที่มีรายละเอียด มากทีเดียวด้วย
Nude Male by Jacques Louis David
Phaedra by Alexandre Cabanel
Saul, restless with Remorse by Francois Xanvier Fabre
Summer by Berthe Morisot
The Fallen Angel by Alexandre Cabanel
The Toillet by Frederic Bazille
Venus and Cupid by Alessandro Allori
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี