ตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้คุยกันถึงเรื่องโรคไตในสุนัขและแมวกัน ท่านผู้อ่านคงได้ความรู้พื้นฐานเรื่องโรคไต อาการ และสาเหตุกันไปพอสมควรแล้ว สัปดาห์นี้เรามาคุยกันถึงวิธีการรักษาและการป้องกันโรคนี้กันครับ
การรักษาโรคไตวายนั้น ทั้งในทางทฤษฎีและทางปฏิบัติ ไม่มียาที่ใช้จำเพาะ แต่เราจะพยายามช่วยให้ไตพักการทำงาน ให้ไตทำหน้าที่ได้โดยใช้พลังงานน้อยที่สุด ให้สารหรือฮอร์โมนที่ขาดทดแทน ภาพรวมจะเป็นการรักษาตามอาการ รักษาแบบพยุงและบำรุงร่างกาย ได้แก่
การให้สารน้ำ (น้ำเกลือ) แก่สัตว์ (ทางเส้นเลือดดำหรือทางใต้ผิวหนัง) เนื่องจาก สัตว์ป่วยเป็นโรคไตมีสภาพการขาดนํ้า ดังนั้นจำเป็นต้องทำให้สัตว์ได้รับน้ำในปริมาณที่เพียงพอก่อน เพื่อเพิ่มการขับของเสียออกไป แต่การให้น้ำเกลือนี้ สัตวแพทย์จะพิจารณาอย่างละเอียด เพราะในภาวะไตระยะเฉียบพลัน สัตว์อาจปัสสาวะออกมาน้อย หากให้น้ำเกลือไปมากๆ โดยสัตว์ขับปัสสาวะออกมาน้อยหรือไม่ปัสสาวะเลย ก็จะเป็นสาเหตุให้มีน้ำในร่างกายเกิน เกิดอาการบวมน้ำ หรือเกิดอาการนํ้าท่วมปอดได้
การให้ยาอื่นที่จำเป็น เช่นยาปฏิชีวนะเพื่อควบคุมการติดเชื้อ ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร ยาบำรุงต่างๆ และอาจมีการให้ฮอร์โมน เพราะมีภาวะโลหิตจาง เนื่องจากสุนัขและแมวที่เป็นโรคไตวายเรื้อรังจะขาดฮอร์โมนที่สร้างจากไต ชื่อ Erythropoietin
(Epo) ฮอร์โมนนี้จะมีฤทธิ์ไปกระตุ้นให้ไขกระดูกสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ดังนั้นสัตว์ที่ขาดฮอร์โมนนี้จึงมักจะมีปัญหาเรื่องโรคโลหิตจางร่วมด้วย
การให้นํ้ามันปลา (Fish oil) ก็จะช่วยลดขบวนการอักเสบที่ไต และทำให้สารเคมีที่เกิดจากขบวนการอักเสบ และเป็นพิษต่อไตลดลง
การให้ยาลดความดัน ในกลุ่ม Angiotensin Converting Enzyme (ACE) inhibitor จะช่วยลดความดันในหลอดเลือดที่ไต และช่วยชะลอความรุนแรงของโรคไตวายได้
การให้ยาในกลุ่มแอลฟาคีโทแอซิด เช่น คีโทสเทอริล (Ketosteril) จะช่วยลดการสร้างยูเรียซึ่งเป็นของเสีย ซึ่งเป็นการช่วยทางอ้อม
อาจมีการให้วิตามิน E และ C ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และการให้ยาบำรุงเลือด โดยเฉพาะการจัดการอื่นๆ เช่น ให้อาหารโปรตีนตํ่า เพื่อลดของเสียลง เป็นต้น
สุนัขที่เป็นโรคไต ควรกินอาหารเฉพาะของโรคไต หรืออาหารที่มีโปรตีนตํ่า (โปรตีนที่ได้รับ ผมแนะนำว่าควรเป็นจากไข่ขาวและปลาน้ำจืด) การกินอาหารที่มีโปรตีนสูงจะเร่งการสร้างยูเรีย ทำให้ของเสียในร่างกายยิ่งมีมากขึ้น โดยเฉพาะกรดอะมิโนบางตัวในโปรตีนจะมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือดที่ไต จะเพิ่มอัตราการกรองของไต ทำให้ภาวะไตวายมีอาการรุนแรงขึ้น
เมื่อได้รับการรักษาจนดีขึ้นแล้ว สัตว์ยังจำเป็นต้องเฝ้าระวังอาหารโปรตีน และสภาพน้ำในร่างกาย และทำการตรวจเลือดเพื่อเช็คสุขภาพเป็นระยะ เพื่อเฝ้าระวังการเสื่อมของไต มีการตรวจวิเคราะห์ปัสสาวะเป็นระยะ เพื่อดูการทำหน้าที่ของไตและสภาวะน้ำในร่างกาย และที่สำคัญต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการให้อาหารที่มีเกลือต่ำ รวมถึงพิจารณาการให้ยา โดยเฉพาะยาที่ขับออกทางไตอีกด้วย
อยากเรียนย้ำว่า โรคไตวายเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายเป็นปกติได้ หรือโอกาสเป็นปกติค่อนข้างน้อย ดังนั้นการป้องกันจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด การให้ยาต่างๆ และการเลือกอาหารจึงมีความสำคัญมาก อาหารที่สะดวกต่อเจ้าของและเป็นที่นิยมในปัจจุบัน เช่น ตับไก่ย่างรสเด็ดและปลาทูรสเลิศที่ขายเป็นเข่งนั้นไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับสุนัขและแมว ผมไม่ได้หมายความว่าตับไก่ย่างหรือปลาทูนึ่งจะเป็นของไม่ดี แต่อยากให้พิจารณาว่าสารปรุงรสและของเสียที่ตกค้างอยู่ในอาหารเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ต้องระวัง เรื่องการปรุงอาหารให้มีรสชาติจัดจ้านตามที่เจ้าของชอบนั้นเพราะคิดว่าสุนัขและแมวจะชอบด้วยนั้น ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง เนื่องจากสุนัขและแมวเลือกอาหารที่กลิ่นมากกว่ารสชาติครับ ดังนั้นหากให้อาหารสดแล้ว การอุ่นอาหารให้มีอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย จะช่วยให้อาหารมีกลิ่นที่ชวนให้สุนัขและแมวกินได้ดีขึ้นครับ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี