เด็กไทยในเมืองใหญ่ในยุคนี้จำนวนไม่น้อยไม่รู้จักโคและกระบือแล้ว เด็กบางคนแยกไม่ได้ว่าตัวไหนคือโค และตัวไหนคือกระบือ (น่าประหลาดยิ่งกว่าที่เด็กบางคนถามว่าวัวกับโคคือสัตว์ชนิดเดียวกันหรือไม่)
น่าอัศจรรย์ที่คนในสังคมไทยบางกลุ่มละเลยและหลงลืมความสำคัญของสัตว์สองชนิดนี้ ทั้งๆ ที่ทั้งโคและกระบือคือเพื่อนสี่ขาที่คนไทยใช้แรงงานของพวกเขามาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ สังคมไทยและสังคมในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใช้โคและกระบือช่วยทำไร่ไถนาให้กับมนุษย์มาโดยตลอด บางก็อาศัยนมจากวัวและกระบือเป็นอาหาร
ส่วนบางประเทศในเอเชีย เช่น อินเดียและเนปาลนั้นนับถือว่าวัวคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพราะเป็นพาหนะของพระศิวะ ดังนั้นผู้ที่นับถือฮินดูจึงไม่ตี ไม่ฆ่า ไม่กินวัว บางคนบอกว่าไม่กินเนื้อวัว เพราะนับถือพระพิฆเนศ เนื่องจากพระพิฆเนศทรงดื่มน้ำนมวัว ดังนั้นเมื่อเคารพบูชาเทพแห่งศิลปวิทยาการและเทพแห่งความสำเร็จพระองค์นี้แล้วจึงไม่กินเนื้อวัว ส่วนคนที่นับถือเจ้าแม่กวนอิมก็ไม่บริโภคเนื้อวัวเช่นกัน (และไม่บริโภคเนื้อสัตว์ใหญ่ด้วย)
สำหรับคนไทยจำนวนมากก็ไม่กินเนื้อวัวและเนื้อควาย สาเหตุก็เพราะถูกอบรมสั่งสอนมาว่า เขาช่วยเราทำไร่ไถนาปลูกข้าวให้เราได้กิน เขามีบุญคุณต่อเรา ดังนั้นจึงไม่กินไม่ฆ่าเขา คนไทยยุคเก่าก่อนจะคุ้นเคยกับวิถีชีวิตและความผูกพันระหว่างชาวนากับวัวควาย การใช้วัวและควายไถ่นา คราดนา และการใช้ควายเดินเพื่อนวดข้าวให้เมล็ดข้าวหลุดจากรวง
Mr.Flower สาธยายเรื่องของวัวและควายมาพอประมาณ สาเหตุที่ต้องสาธยายนำมาก็เพราะจะประชาสัมพันธ์โครงการ “ไถ่ชีวิตโค-กระบือร่วมกับหนังสือพิมพ์แนวหน้า” โดยโครงการนี้ได้กระทำมาระยะหนึ่งแล้ว และได้ไปไถ่ชีวิตโค-กระบือจากโรงฆ่าสัตว์ที่จังหวัดปทุมธานีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม 2559 จำนวน 5 ชีวิต คือโค 2 ตัว กระบือ 3 ตัว
มีผู้ถามว่าเมื่อไถ่ชีวิตเขาออกมาแล้ว เอาเขาไปไว้ไหน เอาไปทำอะไร ดูแลเขาอย่างไร ใครดูแล
คำตอบคือ นำเขาไปให้กับชาวไร่ชาวนารายเล็กซึ่งผ่านการคัดสรรแล้วว่าสามารถดูแลเลี้ยงดูเขาได้ดี ไม่ฆ่าเขา ไม่ขายเขา ไม่ทิ้งเขา ไม่ปล่อยให้เขาอดอยาก ไม่ปล่อยให้เขาโดดเดี่ยวเดียวดาย ไม่ปล่อยให้เขาเจ็บป่วยจนล้มตาย
ผู้ที่รับโค-กระบือจากโครงการไถ่ชีวิตไปเลี้ยงต้องทำสัญญากับคณะผู้จัดทำโครงการนี้ก่อน และหากผิดสัญญาจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้มอบโค-กระบือให้
ทั้งนี้ทางผู้จัดทำโครงการได้ร่วมมือกับคณาจารย์และนิสิตจากคณะสัตวแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยจะออกไปเยี่ยมเยียนชาวไร่ชาวนาที่รับโค-กระบือไปเลี้ยง และตรวจสุขภาพ ฉีดยา ฉีดวัคซีนให้โดยไม่คิดค่าบริการ และจะอบรมกรรมวิธีผสมเทียม ทำคลอดให้กับชาวไร่ชาวนาที่รับโค-กระบือไปเลี้ยงด้วย
สำหรับโค-กระบือที่ทางโครงการของเราได้ไปไถ่ชีวิตมาทั้ง 5 ชีวิตนี้จะส่งมอบให้กับชาวนารายเล็กในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาต่อไป (ซึ่งคอลัมน์ตะลอนเที่ยว และคอลัมน์อื่นๆ ในหนังสือพิมพ์แนวหน้าจะติดตามรายงานความเป็นอยู่ของเขามาให้คุณผู้อ่านที่ร่วมสมทบทุนกับโครงการนี้ได้รับทราบอย่างใกล้ชิดเป็นระยะๆ)
มีผู้ถามว่า โครงการนี้จะดำเนินต่อไปใช่หรือไม่ คำตอบคือ ใช่ครับ โครงการจะดำเนินต่อไปเรื่อยๆ และเราจะจัดทริปรวมกลุ่มไปเยี่ยมเยียนพวกเขา พร้อมๆ กับจัดทริปชวนคุณๆ ไปไหว้พระ ทำบุญ ท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยากันเป็นครั้งเป็นคราไป เพื่อจะได้ใช้โอกาสนี้พบปะสังสรรค์ร่วมกันในหมู่ผู้อ่านแนวหน้าและผู้ร่วมบริจาคสมทบทุน
ขอขอบคุณผู้อ่านหนังสือพิมพ์แนวหน้าที่ร่วมสนับสนุนโครงการนี้ และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วย
สำหรับท่านที่ต้องการร่วมสนับสนุนโครงการนี้โปรดติดต่อหมายเลขโทรศัพท์ 091-7233615
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี