สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงเปิดหอจดหมายเหตุฯ
ในโอกาสปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี ในพุทธศักราช 2559 นี้ หอจดหมายเหตุเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ซึ่งตั้งอยู่ที่ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ได้จัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติเรื่อง “พลังงานพระราชดำริด้วยพระปรีชายิ่ง” โดยเปิดให้ชมกันทั้งปี
สิ่งของที่ระลึกในรัชกาล
บริเวณหอจดหมายเหตุเฉลิมพระเกียรติฯแห่งนี้ ถือเป็นแหล่งเรียนรู้สำคัญของรัชกาลที่ 9 ที่น่าสนใจมาก ด้วยเหตุที่เป็นหอเฉลิมพระเกียรติฯ ที่ก่อตั้งขึ้นในปีมหามงคลโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี เมื่อพ.ศ. 2539 รัฐบาลได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดงานพระราชพิธีกาญจนาภิเษก จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะดำเนินการรวบรวมเอกสารจดหมายเหตุ ที่เกี่ยวเนื่องในพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจ มาจัดเก็บและอนุรักษ์ไว้ตามระบบมาตรฐานของงานจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์ด้านการศึกษา ค้นคว้า วิจัย
นิทรรศการพระบรมวงศานุวงศ์
โดยกระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบหมายให้กรมศิลปากรจัดทำโครงการจัดตั้งหอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชขึ้น เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นอนุสรณ์สถานในโอกาสพระราชพิธีกาญจนาภิเษก โดยคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการเมื่อวันที่ 25 มีนาคม พุทธศักราช 2540 และได้รับพระราชทานชื่อว่า “หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช” และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อาคาร เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม พุทธศักราช 2540 บนพื้นที่ 75 ไร่ ที่ริมคลองห้า ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี นั้นได้จัดการสร้างเป็นกลุ่มอาคาร 4 ส่วนมีทางเชื่อมและลานอเนกประสงค์รวมพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร โดยจัดเป็นอาคาร 9 ชั้น แบ่งเป็นส่วนของอาคาร 1 เก็บเอกสารจดหมายเหตุ พื้นที่ 6,000 ตารางเมตร ส่วนของอาคาร 2 ให้บริการค้นคว้า พื้นที่ 4,500 ตารางเมตร ส่วนของอาคาร 3-4 ใช้จัดแสดงนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจและโครงการในพระราชดำริพื้นที่ 3,000 ตารางเมตรและยังมีลานอเนกประสงค์ เป็นส่วนจัดกิจกรรม พื้นที่ 3,500 ตารางเมตร
ภาพที่มีอยู่ทุกบ้าน
อาคารของหอจดหมายเหตุแห่งชาตินี้กรมศิลปากรต้องการให้เป็นหอสมุดจดหมายเหตุแห่งชาติที่สมบูรณ์ที่สุดในการเก็บรวบรวมเอกสารสำคัญของชาติเกี่ยวกับพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและพระบรมวงศานุวงศ์ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการศึกษา ค้นคว้า วิจัยให้แก่หน่วยงานราชการ เอกชน นิสิต นักศึกษาและประชาชนทั่วไป ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงวัฒนธรรม และกรมศิลปากร เมื่อสร้างเสร็จแล้ว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จฯ ทรงเปิดหอจดหมายเหตุเฉลิมพระเกียรติเมื่อวันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ.2553
รัชกาลที่ 9 ทรงพระเยาว์
ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อได้ว่า เอกสารจดหมายเหตุในรัชกาลที่ 9 และพระบรมวงศานุวงศ์จึงเป็นมรดกสำคัญของแผ่นดิน แม้จะเป็นสัญลักษณ์ของการสื่อสาร ซึ่งถูกบันทึกอยู่ในรูปของวัสดุต่างๆ เช่น ตัวอักษร ภาพวาด ภาพถ่าย ลายเส้น เสียง และภาพเคลื่อนไหว ที่บันทึกลงบนกระดาษในรูปของเอกสาร เช่น หนังสือ, แผนที่, แผนผัง, หรือการสื่อสารที่บันทึกในแถบแม่เหล็ก แผ่นครั่ง แผ่นโลหะ และเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ เช่น แผ่นเสียง, เทปเสียง, เทปวีดิทัศน์,CD-R, DVD-R, SD Card, MD Card, Data Tape เป็นต้น ล้วนจะถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบ มีการดูแลและสามารถให้บริการการเรียนรู้ได้ พร้อมกับได้มีการบันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากการบริหารงานทั้งภาครัฐและเอกชน บันทึกผลการดำเนินงานและเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ซึ่งเป็นหลักฐานชั้นต้นที่นำไปใช้อ้างอิงและวิเคราะห์ได้ในทุกสาขาวิชา เป็นคลังความรู้ที่มีค่าต่อหน่วยงานราชการและประชาชนที่มีการศึกษาเรียนรู้ในอนาคตด้วย
หนังสือเฉลิมพระเกียรติที่จัดทำเผยแพร่
หอจดหมายเหตุเฉลิมพระเกียรติฯ นี้ จึงเป็นแหล่งความรู้ของชาติแห่งเดียวที่รวบรวมจัดเก็บ จัดแสดง ให้บริการสืบค้น และอนุรักษ์เอกสารที่เกี่ยวเนื่องในพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ อาทิ พระราชหัตถเลขา พระบรมราโชวาท พระราชดำรัส พระราชนิพนธ์ ภาพเขียนฝีพระหัตถ์ พระบรมฉายาลักษณ์ แถบบันทึกพระสุระเสียง ฯลฯ ตลอดจนเอกสารการดำเนินงานตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและโครงการเฉลิมพระเกียรติต่างๆ เพื่อให้เป็นเอกสารสำคัญของชาติ สามารถให้ข้อมูลความรู้และให้เยาวชนรุ่นหลังได้ซาบซึ้งถึงพระปรีชาสามารถ ในการปกครองแผ่นดิน รวมไปถึงความจงรักภักดีของพสกนิกรชาวไทยที่มีต่อพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ตลอดไป
หอจดหมายเหตุเฉลิมพระเกียรติฯ
ผู้สนใจนั้นสามารถเข้าชมได้ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-16.30 น. หากจะขอเข้าศึกษาค้นภาพ,จดหมายเหตุ, และเข้าชมเป็นหมู่คณะนั้นติดต่อล่วงหน้าก่อนเข้าชม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี