ขี้เรื้อนเปียก หรือโรคขี้เรื้อนขุมขน หรือ Canine demodicosis
โรคขี้เรื้อนเปียกนี้ เป็นโรคไรขี้เรื้อนที่มักพบการติดเชื้อแบคทีเรียร่วม ด้วย จึงทำให้ผิวหนังแดง แฉะ และมีตุ่มหนอง จึงถูกเรียกชื่อตามอาการว่า “ขี้เรื้อนเปียก” ครับ
สาเหตุ :
โรคขี้เรื้อนเปียกนี้ เป็นโรคผิวหนัง พบได้บ่อยในสุนัข มีสาเหตุมาจาก “ไรขี้เรื้อนขุมขน” ที่มีชื่อว่า demodectic mange มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า demodex canis ซึ่งมีขนาดเล็กมาก ต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ขยายถึง 400 เท่า จึงจะเห็นได้ชัด มีลักษณะคล้ายแท่งบุหรี่ชิการ์หรือ ตัวหนอน ยาว 0.02-0.05 ซม. มีขาอยู่ที่อก 4 คู่ ไรชนิดนี้อาศัยอยู่ที่ “รูขุมขน” (hair follicle) เป็นส่วนใหญ่ และพบบ้างที่ “ต่อมไขมัน” (sebaceous gland) โดยจะอาศัยกิน น้ำเหลือง (sebum) และเซลล์เนื้อเยื่อ ที่ตายแล้ว (cell debris) เป็นอาหาร พบได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิดแตกต่างกันไป
ในลูกสุนัข ขี้เรื้อนเปียกนี้อาจติดต่อจากแม่ได้ แต่จะไม่ติดต่อไปยังสุนัขตัวอื่นในสุนัขที่โตแล้ว ซึ่งไรชนิดนี้สามารถ
พบได้ในสุนัขปกติ (โดยไม่มีรอยโรคใดๆ ที่ผิวหนัง) มีข้อสันนิษฐานว่า การเกิดโรคนั้นเกี่ยวข้องกับระดับภูมิคุ้มกัน ความเครียด และการได้รับอาหารคุณภาพต่ำเป็นประจำ อาจเกิดจากกรรมพันธุ์ โดยเฉพาะในช่วงที่มีสภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น สุนัขที่มีการป่วยเรื้อรัง หรือการได้รับยาในกลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ในระดับสูงหรือติดต่อกันนาน รวมถึงช่วงที่ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ช่วงการเป็นสัด หรือตั้งท้องนั้น ตัวไรจะเพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็วและก่อให้เกิดปัญหาขึ้นได้
อาการ :
ขี้เรื้อนขุมขนนี้ เกิดได้ 2 ลักษณะ
แบบที่ 1 คือ แบบเฉพาะที่ จะเกิดรอยโรคเพียงไม่กี่ตำแหน่ง เช่น บริเวณใบหน้า รอบตา ลำตัว ขา จะพบว่ามีอาการขนร่วงเป็นหย่อมๆ พบสะเก็ดรังแค ผิวหนังมีสีเข้มขึ้น มักไม่มีอาการคัน หรือมีการอักเสบของผิวหนังที่ไม่รุนแรง ซึ่งส่วนใหญ่แม้ไม่ได้รับการรักษาก็จะหายหรือดีขึ้นเองตามสภาพภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น
แบบที่ 2 เป็นส่วนที่จะพัฒนาความรุนแรงของโรคขึ้น เป็นแบบกระจายทั่วตัว แบบนี้จะแสดงความรุนแรงของโรคมากขึ้นทั่วตัว โดยเฉพาะ ใบหน้า รอบปาก และปลายเท้า ซึ่งสุนัขจะคันมากและเกาจนผิวหนังถลอก อักเสบ แดง มีหนองและน้ำเหลืองแฉะทั่วตัว มีกลิ่นเหม็น เนื่องจากมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย
สายพันธุ์ที่พบได้บ่อย :
พบได้บ่อยในสุนัขพันธุ์บ๊อกเซอร์ ชิวาวา เชาเชา ชิห์สุ โดเบอร์แมน อัลเซเชียน อเมริกันพิทบูลเทอเรียร์ ชาไป่ และปั๊ก เป็นต้น
ติดตามตอนจบ สัปดาห์หน้า
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร. ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี