จากลูกไม้ใต้ต้นจามจุรีต้นใหญ่ ที่ถูกปลุกปั้นให้เจริญงอกงาม เติบโตจนเป็นต้นจามจุรีที่แข็งแรง ผลิดอกออกผลที่มีคุณภาพอย่าง ผศ.ดร.สิริอรเศรษฐมานิต ผู้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมากว่า 1 ปี หลังจากที่สั่งสมประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถในต่างแดนมากว่า 10 ปี เพื่อกลับมาทำตามความฝันยังสถานที่ที่เรียกว่า “บ้าน” อีกครั้ง
ผศ.ดร.สิริอร เศรษฐมานิต ประธานคณะกรรมการบริหารหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สั่งสมความรู้และประสบการณ์จากรั้วจามจุรี มาตั้งแต่เยาว์วัยโดยมีคุณพ่อเป็นหนึ่งในผู้ปลุกปั้นให้เธอเลือกก้าวเข้ามาในรั้วจามจุรีครั้งแล้วครั้งเล่า กับความภาคภูมิใจที่ไม่มีวันหมด
“คือเราเรียนโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา ยาวมาถึงชั้นมัธยมศึกษา คุณพ่อก็ยังเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ด้วย เรียกว่าเป็นลูกหม้อของจุฬาฯ เลยก็ว่าได้ ซึ่งเป้าหมายในชีวิตตอนนั้นก็เหมือนเด็กทั่วไป คืออยากเรียนที่จุฬาฯ แล้วเราก็สอบติดหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต เลือกเรียนสาขาการตลาด คือเป็นการเรียนอย่างมีความสุขมาก เพราะทางบ้านตามใจอยู่แล้ว ว่าอยากเรียนอะไรก็ให้เรียน ท่านมักจะสนับสนุนเราอยู่เสมอ”
หลังจากคว้าปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ 1 และเข้าสู่ชีวิตการทำงานได้ระยะหนึ่งจึงตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโท โดยได้รับทุน “ฟุลไบรท์” ซึ่งเป็นทุนให้เปล่าของประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางไปศึกษาต่อด้านบริหารธุรกิจ ที่ University of Oregon ในเมืองยูจีน สหรัฐอเมริกา และต่อด้วยปริญญาเอกที่Portland State University สหรัฐอเมริกา ในด้าน Systems Science ด้วยเหตุผลที่เธอมองว่าเป็นหลักสูตรทางด้านวิทยาศาสตร์ที่สามารถเข้ามาช่วยในงานด้านธุรกิจได้ด้วย
“ตอนนั้นได้คุยกับอาจารย์ที่เคยสอน คณะบัญชีฯ จุฬาฯ ท่านแนะนำว่า ด้าน Supply Chain จะมีความสำคัญมากในอนาคต แล้วทาง Portland StateUniversity ก็มีสาขาทางด้านนี้พอดี เลยรู้สึกว่ามันค่อนข้างลงตัว เลยมุ่งมั่นที่จะเรียนที่นี่ ซึ่งส่วนใหญ่ที่เรียนก็จะเป็นพวกคอร์สเวิร์ก และต้องทำงานกับอาจารย์ คือทุนนี้ต้องทำงานด้วย เรียนไปด้วย คือการเป็น TA (Teaching Assistant) หรือ RA (Research Assistant) ให้กับอาจารย์เป็นสิ่งที่ดีมากเลยนะ เพราะทำให้เราได้ลองสอน ได้ทำวิจัย รวมถึงได้เป็นติวเตอร์ จากตรงนั้นนี่แหละ ที่ทำให้รู้สึกว่าอยากเป็นอาจารย์ เพราะมีโอกาสได้ฝึกสอนคลาสหนึ่งที่มีนักศึกษาเป็นคนตาบอด ทำให้รู้เลยว่าการที่มองไม่เห็นมันเป็นอะไรยากมากๆ แล้ววิชาที่เราสอนตอนนั้น คือ Operations Management มีเนื้อหาที่เป็นรูปภาพกราฟิก ก็ยังคิดว่าเราจะอธิบายอย่างไร ถึงแม้ที่นี่จะมีศูนย์สำหรับคนตาบอด มีอักษรเบรลล์ช่วยก็ตาม ดังนั้น การที่สอนให้เขาเข้าใจ มันเป็นอะไรที่ดีมาก คือตอนที่เราสอนยังไม่เท่าไหร่ แต่ตอนที่เราได้เห็นคนเข้าใจในสิ่งที่เราสอนเนี่ย เราชอบมาก ไม่สามารถมีอะไรมาเทียบได้อีกแล้ว”
แม้จะไปศึกษาต่อในต่างประเทศกว่า 10 ปี ก็ไม่ได้ทำให้เธออยากที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่สหรัฐอเมริกาแบบถาวร เพราะในใจตระหนักเสมอว่าต้องกลับ “บ้าน” โดยเฉพาะบ้านหลังใหญ่ที่ชื่อว่า “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย”
“ต้องบอกว่าเรารักและภูมิใจในสถาบันมาก ที่นี่มีพระคุณ เราเติบโตมาได้ก็เพราะที่นี่ เรารู้สึกว่าที่นี่คือบ้านของเรา เราก็อยากจะตอบแทน พอได้เข้ามาทำงาน ตอนแรกเราคิดว่าเป็นอาจารย์จะสบาย ไม่จริงเลยค่ะ เรามีทั้งหน้าที่หลักอย่างการเรียนการสอน มีงานวิจัย เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ พัฒนาตัวเอง และก็ยังมีงานด้านดูแลนิสิต ที่นอกเหนือจากวิชาการด้วย เรามองว่าสอนด้านวิชาการอย่างเดียวไม่พอ นิสิตเราต้องการทำกิจกรรม ต้องการโค้ชในเรื่องอื่นๆ พยายามหาสิ่งใหม่ๆ ให้เด็กได้เรียนรู้ พอเด็กจบไปแล้วกลับมาเล่าให้ฟังว่า ได้ใช้ที่เราสอนด้วย ได้เห็นเด็กเติบโตก้าวหน้า เราก็มีความสุข รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนักเรียนตลอดเวลา”
ในวันนี้ ผศ.ดร.สิริอร ยังมีอีกหนึ่งบทบาทที่เพิ่มเข้ามา คือตำแหน่ง ประธานคณะกรรมการบริหารหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต คณะบัญชีฯ จุฬาฯ ควบคู่ไปกับหน้าที่ของอาจารย์ด้านวิชาการที่เธอรัก ซึ่งหน้าที่สำคัญหลักๆ ของประธานหลักสูตรฯ คือ การตัดสินใจและแก้ปัญหา เพื่อให้หลักสูตรดำเนินและพัฒนาต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยบทพิสูจน์การทำงานของเธอกับการได้รับรางวัล “Thailand’s Most Admired Brand” ที่น่าเชื่อถือที่สุด ตลอด 10 ปีอย่างต่อเนื่อง
“ส่วนในบทบาทของอาจารย์ สิ่งหนึ่งที่พยายามเตือนตัวเอง คืออะไรที่เราไม่เข้าใจ หรือตอนที่เรา เป็นนิสิตเราสงสัย ตอนนี้เราจะพยายามอธิบาย เพราะเรามาถึงจุดนี้ที่เป็นผู้ใหญ่ที่มองเห็นอะไรมาเยอะ และก็เข้าใจในจุดนั้นแล้ว แต่ตอนเป็นเด็กมันไม่เห็น ไม่เข้าใจ เลยพยายามมองกลับไปว่า ตอนเด็กๆ เราเป็นอย่างไร เราสงสัยอะไร เราอยากได้อะไร และก็พยายามจะคืนตรงนั้นกลับไปให้เด็กๆ ดีกว่า”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี