ตะลอนเที่ยวสัปดาห์นี้ชวนคุณไปเที่ยวสองแบบสองสไตล์พร้อมๆ กัน โดยแห่งแรกจะชวนคุณไปดูละครเวทีเรื่อง ผ้าห่มผืนสุดท้าย ที่เมืองไทยรัชดาลัยเธียเตอร์
ละครเรื่องนี้สร้างขึ้นจากเรื่องราวของทหารผู้ไปปฏิบัติหน้าที่ในเขตสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย โดยผูกเรื่องให้เห็นถึงความไม่เข้าใจกันระหว่างพ่อผู้เป็นทหารกับลูกสาวที่ไม่ชอบให้พ่อพูดเสียงดังใส่ตลอดเวลา, พูดถึงความรักและความห่วงใยของแม่ที่มีต่อลูกชายที่ไปราชการชายแดน และพูดถึงความรักของหมอคนหนึ่งที่ต้องยอมไปเป็นทหาร เพื่อหวังชนะใจแฟนสาวที่คลั่งไคล้เครื่องแบบทหารอย่างมากมาย
แต่ทั้งหมดก็ได้ข้อสรุปตรงกันคือ ถึงแม้จะรักครอบครัวหรือรักคนรักมากมายสักเพียงใดก็ตาม แต่ด้วยหน้าที่ของความเป็นทหารอาชีพ ความรักชาติและความเสียสละเพื่อชาติจึงเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกที่ทหารจำเป็นต้องเลือกกระทำเป็นสิ่งแรกในภารกิจของทหาร (ขอย้ำว่าหน้าที่นี้เป็นของเฉพาะทหารซึ่งเป็นทหารอาชีพโดยแท้จริงเท่านั้น มิใช่ทหารจำพวกที่มีสันดานโจรคอยคุมซ่อง เรียกเก็บค่าคุ้มครอง และกรรโชกทรัพย์ตามตลาดหลายแห่งในเมืองไทย)
ฉากเปิดเรื่องด้วยหีบศพ 3 หีบที่มีธงไตรรงค์คลุม ทำให้ผู้ชมจำนวนไม่น้อยถึงกับน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว รวมถึงฉากเกือบสุดท้ายที่แสดงให้เห็นถึงการเสียสละอย่างยิ่งใหญ่ของนายทหารในฐานะหัวหน้าฐานปฏิบัติการที่ถูกผู้ก่อการร้ายโจมตี ซึ่งยอมสละแม้ชีวิตของตัวเองเพื่อให้เพื่อนและลูกน้องหลบหนีเอาตัวรอดออกจากฐานไป
ผ้าห่มผืนสุดท้าย เปิดแสดงถึงวันที่ 3 เมษายน ณ เมืองไทยรัชดาลัยเธียเตอร์ เปิดแสดงวันพฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ จองบัตรได้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ โทร.02-2623456
อ้อ! Mr.Flower มีบัตรละครเรื่องนี้แจกให้คุณที่ส่งข้อความสั้น (SMS)ไปที่เบอร์โทร.091-7233615 แจก 5 รางวัล รางวัลละ 2 ที่นั่ง เพียงขอให้คุณเล่าความประทับใจของคุณที่มีต่อทหารซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (เล่าเพียงสั้นๆ) แล้วจะคัดเลือกผู้โชคดีด้วยการจับสลาก แล้วจะแจ้งให้ผู้โชคดีไปรับบัตรที่หน้าโรงละคร
Mr.Flower คุยกับทหารซึ่งบาดเจ็บและพิการเนื่องจากการสู้รบเพื่อรักษาแผ่นดินไทยในเขตสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า วีรบุรุษเหล่านั้นบอกด้วยความภาคภูมิใจว่า “ถึงแม้จะรู้ว่าเป็นภารกิจที่เสี่ยงต่อชีวิตอย่างมาก แต่ก็ยินดีลงไปปฏิบัติหน้าที่ เพราะต้องการรักษาแผ่นดินไทยไว้ให้ลูกหลานในอนาคต” วีรบุรุษบางรายบอกว่า “ไม่ได้คิดว่าเมื่อลงไปปฏิบัติหน้าที่แล้วจะต้องบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ถ้าหากต้องเจ็บหรือต้องตายในหน้าที่ก็ยินดีเผชิญกับมัน เพราะผมเลือกทำหน้าที่ทหาร”
ขอฝากข่าวถึงแฟนคอลัมน์ว่า ทุกๆ ช่วงสิ้นเดือนกลุ่มของ Mr.Flower (ซึ่งมี สุชาติ ชวางกูร และดารานักแสดงอีกหลายรายร่วมอยู่ในคณะ) จะนำอาหารไปเลี้ยงทหารผู้บาดเจ็บและพิการซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่ตึกมหาวชิราลงกรณ์ ชั้น 5โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า คณะของเราร่วมกันเลี้ยงอาหารให้ทหารหาญมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2553 สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน หากคุณสนใจร่วมกิจกรรมนี้กับคณะของเรา โปรดติดต่อ โทร.091-7233615
เชิญร่วมเลี้ยงอาหารให้วีรบุรุษ ณ ตึกมหาวชิราลงกรณ์ ชั้น 5 ทุกช่วงสิ้นเดือน
ดูละครเสร็จสรรพแล้ว เราก็จะไปเที่ยวทะเลภาคตะวันออกด้วยกัน ไปชิมผลไม้สดๆ จากสวน ไปนอนเล่นที่ชายหาด และไปเล่นน้ำทะเลใสๆ
เมืองที่เราจะไปเที่ยวด้วยกันในวันนี้ ถือเป็นเมืองต้องห้าม แต่ต้องห้ามในที่นี้หมายถึงต้องห้ามพลาดการไปเยือน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กำหนดแนวคิดเมืองต้องห้ามพลาดเหล่านี้ไว้ทั้งหมด 12 จังหวัด คือ ลำปาง น่าน เพชรบูรณ์ เลย บุรีรัมย์ ราชบุรี สมุทรสงคราม จันทบุรี ตราด ชุมพร ตรัง และนครศรีธรรมราช
แต่วันนี้จะพาคุณๆ ไปเที่ยวจันทบุรี และตราด และขอแถม ระยองกับชลบุรีเข้าไปด้วย เพราะเป็นจังหวัดในเขตภาคตะวันออกด้วยกัน
เริ่มจากเกาะสีชัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี บนเกาะแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดคือ พระจุฑาธุชราชฐาน สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นที่ประทับในหน้าร้อน ปัจจุบันยังมีพระตำหนักวัฒนา พระตำหนักผ่องศรี เรือนอภิรมย์ และวัดอัษฎางค์นิมิตร และที่พลาดไม่ได้อีกแห่งหนึ่งบนเกาะสีชังคือช่องอิศริยาภรณ์ หรือช่องเขาขาด ตั้งอยู่ด้านหลังของเกาะ บริเวณแห่งนี้มีสะพานวชิราวุธทอดยาวเลียบเชิงเขาสำหรับเดินชมทิวทัศน์ทางทะเล และใช้เป็นที่ชมพระอาทิตย์ตก ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งพลับพลาที่ประทับทอดพระเนตรทิวทัศน์ของรัชกาลที่ 5
ช่องเขาขาด
และที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปถึง อ.สัตหีบ ชลบุรี ก็คือควรไปเที่ยวหาดเตยงาม หรืออ่าวตากัน ซึ่งเป็นเขตของกองทัพเรือ (หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน) หาดนี้มีทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใสแจ๋ว สอบถามข้อมูลการเข้าชมได้ที่สำนักงานกิจการท่องเที่ยวหาดเตยงาม กองทัพเรือ โทร.038-334188
หาดเตยงาม
หลายท่านอาจถามว่าทำไมไม่แวะพัทยา คำตอบคือ เพราะเชื่อว่าคุณๆ ไปพัทยาบ่อยมากแล้ว ดังนั้นจึงขอชวนคุณๆ ไปเที่ยวมิโมซา ซึ่งอยู่เลยหาดจอมเทียน พัทยาขึ้นไปไม่ไกลนัก มิโมซาตั้งอยู่ตรงข้างโรงแรมแอมบาสซาเดอร์ จอมเทียน ที่แห่งนี้จำลองรูปลักษณ์หมู่บ้าน Clomar เมือง Alsace ประเทศฝรั่งเศสมาเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์
มิโมซา
ต่อจากชลบุรีก็ไประยอง และจันทบุรีไปชิมผลไม้สดๆ อาทิ เงาะ ทุเรียน มังคุด จากสวนยายดา-เจ๊บุญชื่น ที่เขายายดา ต.ตะพง โทร.089-0431330 และที่สวนลุงทองใบ ต.ตะพง โทร.089-8106411 โดยคุณสามารถชิมผลไม้สดจากต้น ในรูปแบบบุฟเฟ่ต์ผลไม้ ราคาท่านละ 200 บาทเท่านั้น
ปิดท้ายกันที่ตราด ไปเที่ยวเกาะกูด เกาะที่ยังคงสภาพของธรรมชาติที่บริสุทธิ์ไว้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ เพราะยังมีป่าไม้ที่สมบูรณ์บนยอดเขาซึ่งเป็นจุดกำเนิดน้ำตกหลายแห่ง แต่ที่ขึ้นชื่อคือน้ำตกคลองเจ้า นอกจากเกาะกูดแล้วยังมีเกาะหมาก เป็นเกาะที่มีสวนมะพร้าวและสวนยางพาราร่มรื่นมาก ในท้องทะเลยังมีปะการังที่สมบูรณ์อีกด้วย
เกาะกูด
หลายคนเมื่อไปถึงตราดก็ต้องไปไหว้พระที่วัดบุปผาราม หรือวัดปลายคลอง ตั้งอยู่ที่หมู่ 3 บ้านปลายคลอง ถ.พัฒนาการปลายคลอง ต.วังกระแจะ อ.เมือง เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดในจังหวัดตราด สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา ช่วงรัชสมัยของพระเจ้าปราสาททอง (พ.ศ. 2191) วัดนี้มีโบราณวัตถุมากมาย อาทิ เครื่องถ้วยชามจีน และเครื่องถ้วยชามของยุโรป ที่งมได้จากเรือสำเภาโบราณซึ่งอับปางในเขตน่านน้ำจังหวัดตราด หลายคนชอบไปชมหมู่กุฏิทรงไทยหลังเล็ก ที่สร้างถูกต้องตามพระวินัยบัญญัติให้มีขนาดพอแค่พระภิกษุอยู่ได้เพียงรูปเดียวเท่านั้น
วัดบุปผาราม
แต่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือนเมืองตราดคือการไปนอนหมกทรายดำที่หาดทรายดำ อ.แหลมงอบ ถือเป็นหาดทรายดำ 1 ใน 5 แห่งบนโลกใบนี้ ทรายดำหรือไลโมไนต์เป็นทรายที่มีสีน้ำตาลแดงคล้ำจนเกือบดำ เป็นแร่ที่เกิดจากการย่อยสลายตัวของเปลือกหอยแล้วผสมกับควอตซ์ที่มีแร่เหล็กผสม
คุณๆ เห็นแล้วใช่ไหมครับว่า เมืองต้องห้ามเหล่านี้ ไม่ควรพลาดการไปเยี่ยมชมด้วยประการทั้งปวง บางคนนึกไม่ถึงว่ามีของดีๆ มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ อยู่ในเมืองเหล่านี้ นักเดินทางท่องเที่ยวจำนวนมากชื่นชอบกับเมืองต้องห้ามเป็นอย่างมาก เพราะเที่ยวได้สะดวก ผู้คนไม่แออัด ไม่ต้องแย่งกันกินแย่งกันเที่ยวเหมือนเช่นเมืองใหญ่ๆ ที่คุณๆ อาจคุ้นเคยเสียจนมองข้ามเมืองต้องห้ามไป
ลองกอง
ส้มโอ
มังคุด
เงาะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี