ปราสาทเทพบิดรและเจดีย์ทอง
วันจักรีที่ผ่านมานั้นปราสาทเทพบิดรในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว นั้นได้เปิดให้ประชาชนได้สักการะพระบรมรูปของสมเด็จบูรพกษัตริยาธิราชในพระบรมราชวงศ์จักรีที่เสด็จสวรรคตไปแล้ว รวม 8 รัชกาล ในสมัยต้นรัตนโกสินทร์นั้นได้มีการสถาปนาพระบรมรูป 3 รัชกาล คือ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระปฐมราชวงศ์จักรี พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยและพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ในลักษณะเปลือยพระองค์ท่อนบนและทรงครุยกรองทองถือพระแสงขรรค์ชัยศรี ประดิษฐานอยู่ในหอพุทธปรางค์ และมีเหตุการณ์ที่ต้องอัญเชิญประดิษฐานในพระที่นั่งองค์อื่นอยู่หลายครั้ง ด้านหน้าปราสาทเทพบิดรนั้นมีพระเจดีย์สีทองสององค์ เป็นเจดีย์แบบย่อไม้สิบสอง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดให้สร้างขึ้นตามประเพณีโบราณที่นิยมให้เป็นเจดีย์คู่หน้าของวัด เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับสมเด็จพระชนกนาถ (ทองดี) และสมเด็จพระชนนี (ดาวเรือง)
กรอบซุ้มประดิษฐานพระปฐมกษัตริย์ราชวงศ์จักรี (ร.1)
ปราสาทเทพบิดรองค์นี้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้สร้างขึ้นใหม่ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อปี พ.ศ.2398 เดิมชื่อว่าพุทธปรางค์ปราสาท โดยมีพระราชประสงค์ที่จะอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานในปราสาทแห่งนี้ให้เสมอกับพระธรรม ครั้นเมื่อสร้างเสร็จแล้วปรากฏว่าภายในปราสาทคับแคบเกินไปไม่พอประกอบพิธีสำคัญได้ จึงได้ระงับที่จะอัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานตามพระราชดำริเดิมได้ ปราสาทเทพบิดรแห่งนี้จึงมิได้ทำประโยชน์อันใด ภายหลังพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 พระองค์ทรงเห็นว่า พระบรมรูปหล่อเท่าพระองค์จริงของสมเด็จบูรพกษัตริยาธิราชแห่งบรมราชวงศ์จักรี ซึ่งเดิมนั้นได้อัญเชิญประดิษฐานอยู่ในที่ต่างๆ กัน ไม่สะดวกแก่การประกอบพระราชพิธีและการเข้าเฝ้าฯถวายความสักการะของอาณาประชาราษฎร์ทั่วไป พระองค์จึงโปรดให้บูรณะหอพุทธปรางค์ปราสาทแล้วอัญเชิญพระบรมรูปหล่อรวม 5 รัชกาล คือ นับแต่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จนถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ทรงสถาปนาขึ้นใหม่อีกองค์มาประดิษฐานในปราสาทแห่งนี้ พร้อมทั้งพระราชทานนามว่า“ปราสาทเทพบิดร” พร้อมกับได้ตั้งพระราชพิธีสักการะพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพกษัตริยาธิราชในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2461 ครั้งนั้นทรงมีประกาศให้วันดังกล่าวเป็น“วันจักรี”
พระบรมรูปราชวงศ์จักรี
พระบรมรูปของสมเด็จพระบูรพกษัตริยาธิราชแห่งพระบรมราชวงศ์จักรีที่ประดิษฐานในปราสาทเทพบิดรนั้นมี 8 พระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ครองราชย์ 28 ปี พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ครองราชย์ 15 ปี พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ครองราชย์ 27 ปี พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ครองราชย์ 18 ปีเศษ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ครองราชย์ 42 ปี พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ครองราชย์ 15 ปีเศษ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ครองราชย์ 9 ปี และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ครองราชย์ 12 ปี รวม 8 รัชกาลด้วยกัน ปราสาทเทพบิดรนี้เดิมเปิดให้มีการสักการบูชาเพียงวันเดียวคือวันจักรีในวันที่ 6 เมษายน ของทุกปี ในรัชกาลปัจจุบันโปรดเกล้าฯให้เปิดปราสาทเทพบิดรให้ประชาชนทั่วไปเข้าสักการะสมเด็จพระบูรพกษัตริยาธิราชในวันนักขัตฤกษ์ที่สำคัญเพิ่มขึ้น ดังนั้นในวันเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้จึงเป็นโอกาสที่ชาวไทยทุกคนจะได้สักการะและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งสมเด็จพระกษัตริยาธิราชพร้อมกัน
พระบรมรูปสมเด็จพระบูรพกษัตริยาธิราช
กรอบซุ้มประดิษฐาน รัชกาลที่ 2-3
ดาวเพดานในปราสาทเทพบิดร
พระบรมรูป รัชกาลที่ 1
พระบรมรูป รัชกาลที่ 4
พระบรมรูป 3 รัชกาลทรงครุยกรองทอง
พระราชิพิธีสักการะพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพกษัตริยาธิราช
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี