คุณเชื่อไหมว่าหากถามคำถามกับคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กๆ และวัยรุ่น หรือแม้แต่ต่อให้ถามกับผู้ที่อายุประมาณ 30-40 ปีด้วยก็ตามว่า วันสงกรานต์คือวันอะไรมีความสำคัญอย่างไร มีความเป็นมาอย่างไร และชาวไทยควรทำอะไรในวันสงกรานต์
ผู้คนจำนวนมากที่คุณถามคำถามนี้อาจไม่สามารถตอบได้ตรงประเด็น และหลายคนคงจะตอบได้แค่เพียงว่า ก็เป็นวันเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน บางคนอาจตอบว่า เป็นวันที่สามารถจะแต่งตัวแบบวาบหวิวแล้วรอให้คนอื่นสาดน้ำ หรือบางคนก็อาจจะตอบว่าเป็นวันหยุดราชการต่อเนื่องหลายวัน ฯลฯ
แต่ก็อาจจะมีบางกลุ่มตอบได้ว่า วันสงกรานต์ถือเป็นประเพณีเก่าแก่ของสังคมไทย และผู้คนในดินแดนอุษาคเนย์ ที่เรียกว่าประเพณีตรุษสงกรานต์ หมายถึงช่วงเวลาของการส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ตามปฏิทินจันทรคติ คือ วันแรม 15 ค่ำ เดือน 4 แต่ต่อมาวันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ของไทยก็ปรับเปลี่ยนไปตามแบบความนิยมของประเทศตะวันตก คือ ถือเอาวันที่ 1 มกราคมเป็นวันขึ้นปีใหม่ (เริ่มใช้เมื่อปี พ.ศ. 2483)
สำหรับคนไทยในยุคอดีตจะให้ความสำคัญกับวันสงกรานต์มาก โดยจะพร้อมใจไปทำบุญตักบาตรที่วัดเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ก่อพระเจดีย์ทราย สรงน้ำพระพุทธรูปประจำหมู่บ้าน สรงน้ำพระสงฆ์ รดน้ำขอพรผู้หลักผู้ใหญ่ผู้เฒ่าผู้แก่ที่ตนเองนับถือ และมีการละเล่นสนุกสนาน อาทิ รำวง เล่นเข้าทรงแม่ศรี เล่นสะบ้า เล่นลูกช่วง เป็นต้น
สมัยก่อนนั้นเมื่อใกล้จะถึงวันสงกรานต์ ผู้คนก็จะทำความสะอาดบ้านเรือน ข้าวของเครื่องใหญ่เป็นการใหญ่ ญาติพี่น้องที่แยกย้ายไปทำมาหากินต่างถิ่นก็จะพร้อมใจกลับบ้านไปรวมญาติพร้อมเพรียงกัน รวมถึงพร้อมใจร่วมกันทำความสะอาดสถานที่สาธารณะประจำชุมชน เช่น วัด และลานชุมชน นอกจากนี้ยังตระเตรียมเสื้อผ้าชุดที่เห็นว่าสวยงามที่สุดเพื่อจะสวมใส่ไปทำบุญทำทาน และเตรียมเสื้อผ้าใหม่ๆ ไปมอบให้ผู้ใหญ่ในวันรดน้ำขอพรวันสงกรานต์ แต่ที่สำคัญและขาดไม่ได้ในอดีตคือ การเตรียมอาหารคาวหวานสุดพิเศษไปเพื่อทำบุญ และจะมีการทำขนมประจำเทศกาลสงกรานต์ คือ ข้าวเหนียวแดง (นำไปทำบุญในวันตรุษ) และกะละแม (นำไปทำบุญในวันสงกรานต์)
เมื่อทำบุญเสร็จสรรพแล้ว แต่ละครอบครัวก็จะนิมนต์พระสงฆ์ไปทำพิธีบังสุกุลอุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้ว เพื่อแสดงความระลึกถึงและความกตัญญูกตเวที และยังมีการปล่อยนกปล่อยปลาให้เป็นอิสระและรอดพ้นจากความตาย
หากย้อนไปดูภาพอดีตจะเห็นว่าวันสงกรานต์นั้นเป็นวันที่น่าสนใจมาก เพราะเป็นการแสดงออกซึ่งความมีน้ำใจ ความกตัญญูกตเวที เวลาจะรดน้ำขอพรจากผู้ใหญ่ก็จะรดน้ำที่มือของท่าน ครั้นเมื่อจะรดน้ำผู้อื่น ก็จะรดที่ไหล่หรือบ่า ก่อนจะรดน้ำก็ต้องขออนุญาตก่อน ไม่ใช่เอาน้ำใส่ถังแล้วยกขึ้นสาดเหมือนกับไล่หมูไล่หมาแบบในยุคนี้ หากไม่รู้จักกันก็ต้องขออนุญาตก่อนจะรดน้ำ ไม่ใช่เห็นใครเดินมาก็สาดน้ำใส่เขาไปจนมั่วไปหมด และน้ำที่ใช้รดในวันสงกรานต์ก็ต้องเป็นน้ำสะอาด ผสมน้ำอบน้ำปรุง ลอยดอกมะลิ ไม่ใช่ตักน้ำจากที่ไหนก็ไม่รู้ไปสาดใส่คนทั่วไปอย่างสะเปะสะปะ
ดังนั้นสงกรานต์จึงเป็นประเพณีที่งดงาม อ่อนหวาน เอื้ออาทร เป็นวันทำบุญทำทาน เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวที แสดงความเคารพซึ่งกันและกันของเพื่อนมนุษย์ในสังคม โดยใช้น้ำที่เย็นฉ่ำและหอมหวนเป็นเครื่องเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างกัน
นั่นคือสงกรานต์ในอดีตของไทย ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปจนแทบจะหาความดีงามแบบเดิม ๆ ไม่ได้อีกต่อไป เราจึงพบเห็นว่าคนไทยและคนต่างชาติที่มาเล่นสงกรานต์ในยุคนี้ต่างสาดน้ำใส่กันอย่างบ้าคลั่งไร้รสนิยม
เรื่องสำคัญนี้หน่วยงานของรัฐบาลที่ดูแลขนบประเพณีแท้ๆ ของไทยควรจะต้องเร่งรณรงค์ให้ผู้คนเข้าใจประเพณีสงกรานต์ตามแบบฉบับที่ดีงามของไทยให้เป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวาง ไม่ใช่เน้นการขายความสนุกที่ไม่คำนึงถึงความงดงามของขนบประเพณีเพียงเพื่อคิดหวังจะกวาดรายได้เข้าประเทศจนลืมคำนึงถึงความเหมาะสมดีงาม
สำหรับวันมหาสงกรานต์ปีนี้ตรงกับวันพุธที่ 13 เมษายน เวลา 20 นาฬิกา 36 นาที 36 วินาที ตามปฏิทินจันทรคติตรงกับวันพุธ ขึ้น 7 ค่ำ เดือนห้า ปีวอก นางสงกรานต์นามว่า มณฑาเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกจำปา อาภรณ์แก้วไพฑูรย์ ภักษาหารนมเนย หัตถ์ขวาทรงเหล็กแหลม หัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จไสยาสน์ลืมเนตรมาเหนือหลังคัสพะ (ลา) ซึ่งเป็นพาหนะ เกณฑ์พิรุณศาสตร์ ปีนี้ จันทร์ เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 500 ห่า ตกในเขาจักรวาล 200 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 150 ห่า ตกในมหาสมุทร 100 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 50 ห่าเกณฑ์ธาราธิคุณ ชื่อวาโย (ธาตุลม) มีน้ำพอประมาณ แต่พายุจัด เกณฑ์นาคราชให้น้ำปีวอก นาคราชให้น้ำ 2 ตัว ทำนายว่า ฝนต้นปีน้อย กลางปีงาม แต่ปลายปีมาก เกณฑ์ธัญญาหารชื่อ ลาภะ ข้าวกล้าในนาจะได้ 10 ส่วน เสียเพียงส่วนเดียว ธัญญาหาร มังสาหารบริบูรณ์ ประชาชนทั้งหลายจะอยู่เย็นเป็นสุข วันเถลิงศกตรงกับวันเสาร์ที่ 16 เมษายน เวลา0 นาฬิกา 34 นาที 12 วินาที ตามปฏิทินจันทรคติตรงกับวันศุกร์ ขึ้น 9 ค่ำ เดือนห้า ปีวอก
หลายคนถามว่าสงกรานต์ปีนี้เราจะไปไหนกันดี ก็ขอตอบว่า ทั่วประเทศไทยล้วนจัดงานสงกรานต์กันทั้งสิ้น แต่ที่โด่งดังก็คือ ที่เชียงใหม่ โดยเฉพาะรอบๆ คูเมือง ส่วนที่กรุงเทพฯ ก็ต้องที่ถนนข้าวสาร ส่วนที่หนองคายก็ที่วัดโพธิ์ชัย ที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระใส ส่วนที่พระนครศรีอยุธยาก็จัดในเขตเมืองหลวงเก่า ส่วนที่สมุทรปราการก็ต้องที่พระประแดง ลงไปหาดใหญ่ สงขลาก็มีงานสงกรานต์มิดไนท์ ที่บางแสน ชลบุรี ก็มีงานวันไหล ก่อเจดีย์ทราย เป็นต้น
เทศกาลสงกรานต์เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 เมษายนเป็นต้นไป ส่วนใหญ่จะสิ้นสุดงานในวันที่ 15 เมษายน แต่บางแห่งก็เริ่มงานตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน เช่นที่ขอนแก่น เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน และบางแห่งมีเทศกาลสงกรานต์ล่าออกไปโดยเริ่มช่วงวันที่ 22-24เมษายนเช่นที่พระประแดง เป็นต้น
หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องสถานที่จัดงานสงกรานต์ โปรดติดต่อสอบถามจาก โทร.1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี