วันเสาร์ ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
ว้าว!!'วอลนัท'สารพัดประโยชน์ ทานดีช่วยร่างกายแกร่งไกลโรค

ว้าว!!'วอลนัท'สารพัดประโยชน์ ทานดีช่วยร่างกายแกร่งไกลโรค

วันเสาร์ ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, 17.09 น.
Tag :
  •  

สำหรับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก หรือกำลังลดความอ้วนอยู่ คงรู้ดีว่า ถั่ววอลนัท เป็นหนึ่งในอาหารเยี่ยมที่ควรรับประทาน ซึ่งถั่ววอลนัทไม่ได้มีเพียงแค่ประโยชน์ด้านการลดน้ำหนักเพียงอย่างเดียว แต่ยังคุณสมบัติโดดเด่นช่วยป้องกันโรคร้ายหลายชนิดได้อีกด้วย

วันนี้เราจึงมี 10 ประโยชน์ที่คุณจะได้จากการทานวอลนัท มานำเสนอ คุณสมบัติเด่นจนเมื่อคุณอ่านจบอาจต้องรีบหาถั่วชนิดนี้มาทานโดยไว


1. ลดคอเลสเตอรอล

ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเผยว่า วอลนัทอุดมไปด้วยโฟเลท วิตามินอี และไขมันชนิดดี ที่แม้จะเป็นถั่วที่ให้แคลอรีค่อนข้างสูง และไม่พบว่าวอลนัทเป็นส่วนเร่งน้ำหนักตัวให้เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

นอกจากนี้นักวิจัยจาก Yale University Prevention Research Center ได้เผยข้อมูลการทดลองว่า กลุ่มอาสาสมัครที่รับประทานวอลนัทจำนวน 2 ออนซ์ หรือประมาณ 56 กรัม เป็นประจำทุกวัน ในระยะเวลานาน 6 เดือน จะมีระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะไม่ได้คุมอาหารอื่นๆ ร่วมด้วยก็ตาม ดังนั้นนักวิจัยจึงการันตีว่าวอลนัทสามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้จริง และจะดีมากหากรับประทานวอลนัทประมาณ 1 กำมือต่อวัน

2. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ

วอลนัทเป็นพืชตระกูลถั่วที่อุดมไปด้วยโปรตีน มีไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งนอกจากจะช่วยลดระดับของคอเรสเตอรอลแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจได้ สอดคล้องกับงานวิจัยที่ระบุว่าวอลนัทเป็นพืชตระกูลถั่วที่มีประโยชน์มากสำหรับหัวใจ อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยปกป้องเยื่อบุหลอดเลือดแดงที่อาจเกิดการอุดตันจนทำให้หัวใจวายได้อีกด้วย

3. ช่วยลดน้ำหนัก

วอลนัทปริมาณ 1 ออนซ์ หรือราวๆ 28 กรัม มีปริมาณไฟเบอร์อยู่ 2 กรัม โปรตีน 4 กรัม และกรดไขมันโอเมก้า 3 2.5 กรัม จึงนับว่าเป็นอาหารที่ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องได้ โดยเฉพาะคนที่กำลังควบคุมอาหาร การรับประทานวอลนัท 1 กำมือต่อวัน จะช่วยให้คุณควบคุมแคลอรีของอาหารที่จะทานเข้าไปได้ดียิ่งขึ้น

4. ลดความเสี่ยงโรคอ้วนลงพุง

สารต้านอนุมูลอิสระและคุณสมบัติต้านการอักเสบในวอลนัท เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยต่อต้านความเสี่ยงโรคอ้วนลงพุงได้ อีกทั้งโปรตีนและไฟเบอร์ในวอลนัทยังช่วยให้รู้สึกอิ่มท้อง ส่งผลให้คุมอาหารได้ดีขึ้น

5. ป้องกันโรคเบาหวาน

ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ลงใน Journal of Nutrition เผยว่า อาสาสมัครที่รับประทานวอลนัทปริมาณ 28 กรัม เป็นเวลา 2 ครั้งต่อสัปดาห์ มีแนวโน้มลดความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ราว 24% เลยล่ะ

6. ป้องกันความจำเสื่อม

Dr. Abha Chauhan และคณะจาก New York State Institute ได้ทดลองให้หนูกินวอลนัทเป็นประจำและพบว่า วิตามินอีและฟลาโวนอยด์ในวอลนัทมีส่วนช่วยทำลายอนุมูลอิสระและเคมีร้ายบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับโรคสมองเสื่อม ทำให้หนูทดลองที่มีภาวะสมองเสื่อมมีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

7. ลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านม

นักวิจัยจาก Marshall University พบว่า หากรับประทานวอลนัทเป็นประจำทุกวัน ในปริมาณไม่ต่ำกว่า 56 กรัม จะช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมได้ โดยอ้างจากการทดลองให้หนูกินวอลนัททุกวัน ซึ่งผลปรากฏว่า หนูทดลองมีแนวโน้มเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมลดลง และมีจำนวนเนื้องอกลดจำนวนลง อีกทั้งหนูที่ถูกวินิจฉัยว่ามีเนื้องอกอยู่ในตัว เนื้องอกเหล่านั้นก็มีขนาดเล็กลงด้วย

8. ลดความเครียด

วอลนัทมีสรรพคุณเจ๋งตรงที่ช่วยลดความตึงเครียดได้ เพราะทั้งไฟเบอร์ สารต้านอนุมูลอิสระ กรดไขมันไม่อิ่มตัว โอเมก้า 3 และอัลฟา-ลิโนลินิค ที่มีอยู่ในวอลนัท เป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยลดระดับความดันโลหิต แถมยังช่วยคงระดับความดันโลหิตให้อยู่ในภาวะสมดุลอีกต่างหาก

9. แก้ปัญหานอนไม่หลับ

ในวอลนัทนั้นมีสารเมลาโทนินอยู่ โดยสารเมลาโทนินนี้เป็นตัวที่คอยควบคุมนาฬิกาชีวิตคุณ ช่วยให้คุณนอนหลับและตื่นได้ตามเวลาปกติ ไม่เกิดอาการนอนไม่หลับ นอนไม่พอ ดังนั้นหากจะบอกว่าวอลนัทเป็นอาหารที่ช่วยให้นอนหลับสบายก็คงไม่ผิดนัก

10. บำรุงเชื้ออสุจิให้แข็งแรง

ทีมนักวิจัยของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเผยให้ทราบว่า การทานวอลนัททำให้เชื้ออสุจิของผู้ชายแข็งแรงขึ้นได้จริง โดยอ้างอิงจากการสำรวจที่แบ่งผู้ชายออกเป็น 2 กลุ่มด้วยกัน ซึ่งผู้ชายกลุ่มแรกจะต้องรับประทานวอลนัททุกวันติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือน ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งนั้นไม่ให้รับประทานวอลนัทหรือถั่วชนิดอื่น ๆ เลย ผลปรากฏว่า เชื้ออสุจิของผู้ชายกลุ่มแรกมีความสมบูรณ์และแข็งแรงมากกว่าเชื้ออสุจิของผู้ชายกลุ่มที่สองอย่างเห็นได้ชัด

ที่มา : healthkapook

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

เรืองไกร นำทีม 22 ขุนพล กทม. พลังประชารัฐ สมัครชิงชัยเก้าอี้

อนุดิษฐ์ นำทัพ กล้าธรรม สมัคร สส. กทม. 33 เขต ขอโอกาสประชาชน

'อภิสิทธิ์' นำทัพ ปชป. บุกสนามกทม.33เขต ไหว้พระแม่ธรณีฯ เอาฤกษ์เอาชัยก่อนลงสมัคร

'เอกนัฏ-ศุภมาส'นำทีมภูมิใจไทย ชูสัญลักษณ์'พลัส' ลั่น!เป็นความหวังที่ปลายอุโมงค์ของคนกรุง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved