‘วัน-ภาดาท์ วรกานนท์’ นักบริหารสาวรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

‘วัน-ภาดาท์ วรกานนท์’ นักบริหารสาวรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

วันเสาร์ ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.

(ซ้าย) พิธีกรรายการ ขิม-ทิพย์ลดา พูนศิริวงศ์ และ วัน-ภาดาท์ วรกานนท์

เป็นนักบริหารที่มีความสามารถอีกคน สำหรับ “วัน-ภาดาท์ วรกานนท์” ผู้อำนวยการฝ่ายสายงานภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร บริษัท เฟรเกรนท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม สร้างคอนโดมิเนียมประหยัดพลังงาน ลดโลกร้อน รายแรกในประเทศไทย ทางรายการ “ผู้หญิงแนวหน้ากับคุณแหน”ทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทางสถานี TNN2 ช่อง 784 ช่วง Focus On พิธีกร “ขิม-ทิพย์ลดา พูนศิริวงศ์” ได้ตามไปพูดคุยด้วย


วัน-ภาดาท์ วรกานนท์ เล่าว่า “วันจบมัธยมฯ จากวัฒนาวิทยาลัย แล้วก็ไปเรียนต่อที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรียนปริญญาโทใบแรกที่คณะเศรษฐศาสตร์สาขาสิ่งแวดล้อม จุฬาฯ แล้วก็ไปต่อปริญญาโทอีกใบที่ มหาวิทยาลัยเยล สาขาสิ่งแวดล้อมเหมือนกันค่ะ ตอนที่เข้าอักษรศาสตร์ ก็ได้รับทุนโครงการช้างเผือก เป็นโครงการภาษาและวรรณคดีไทย ของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้เข้าเรียนที่คณะอักษรศาสตร์ ก็เป็นการสอบข้อเขียน แล้ววันเป็น1 ใน 10 คนของประเทศที่สอบเข้าเรียนได้

สำหรับเรื่องธุรกิจที่รับผิดชอบและบริหารอยู่ในขณะนี้ ปัจจุบันดูแลธุรกิจของ บริษัท เฟรเกรนท์ พร็อพเพอร์ตี้ เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ สร้างคอนโดมิเนียม ปัจจุบันมีโครงการอยู่ในกรุงเทพฯ หลายแห่งด้วยกันไม่ว่าจะเป็นที่สุขุมวิท เพชรบุรีตัดใหม่ รวมไปถึงพัทยา นาจอมเทียน ด้วย ทั้งหมดมีประมาณ6 โปรเจกท์

ความพิเศษของ เฟรเกรนท์ ที่พิเศษและแตกต่างกว่าคอนโดมิเนียมอื่นๆ นั้น พูดตรงๆ ว่าเราอาจจะเป็นคอนโดมิเนียมน้องใหม่ ในวงการอสังหาริมทรัพย์ เพราะว่าเราก็อยู่ในวงการนี้มาประมาณ 10 ปีนิดๆ โดยที่คนอาจจะยังไม่ค่อยรู้จักเรา เราก็เลยมองว่าเราจะทำอย่างไรให้ทุกคนรู้จักเราได้ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องหาจุดยืนที่มีความโดดเด่นและแตกต่าง

แล้วก็มองว่าการที่ทำคอนโดมิเนียมที่เน้นในเรื่องการประหยัดพลังงาน นอกจากจะเป็นสิ่งที่ดีในการช่วยโลกเรา ช่วยประเทศของเราแล้ว ยังเป็นผลดีกับลูกบ้านในอนาคต เราจึงเน้นคอนเซ็ปต์ในเรื่องอีโคอินเนอร์เวทีฟลิฟวิ่ง หมายความว่าอะไร อีโค หมายความว่าเราเน้นเรื่องการประหยัดพลังงาน เน้นการเบียดเบียนธรรมชาติให้น้อยลง เน้นเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ส่วน อินเนอร์เวทีฟ ก็คือเราเน้นเรื่องการนำนวัตกรรมต่างๆ ที่มาใช้สำหรับการประหยัดพลังงาน การดูแลอาคาร เราจะเน้น 2 ตัวนี้เป็นหลัก ผลประโยชน์ก็คือ เพื่อลูกบ้านในระยะยาวนั่นเอง เช่น คอนโด เซอร์เคิลลิฟวิ่ง โปรโตไทป์ ซึ่ง โปรโตไทป์ หมายถึงเป็นคอนโดมิเนียมต้นแบบของเรา คือเราพยายามคิดหานวัตกรรม ไม่ว่าจะไปต่างประเทศใช้เวลาเกือบ 9 เดือน ในการที่จะทำคอนโดเซอร์เคิล2 นี้ขึ้นมา แล้วก็พยายามหานวัตกรรมที่มีอะไรที่เป็นประโยชน์กับลูกบ้าน มีอะไรที่เป็นประโยชน์กับโลกนี้

โดยทั่วไปจะเห็นว่าไม่ค่อยมีคอนโดมิเนียมที่เป็นกระจกทั้งหมด ส่วนใหญ่จะเป็นสำนักงานออฟฟิศมากกว่า แต่คอนโดมิเนียมแห่งนี้เป็นกระจกทั้งหมด เป็นคอนโดมิเนียมที่ใช้กระจก2 ชั้น กระจก 2 ชั้นดีอย่างไร ก็คือดีในแง่ของการช่วยลดปริมาณแสงแดด ปริมาณยูวีที่จะผ่านเข้ามาในอาคาร นั่นหมายความว่าลูกบ้านที่มาอยู่ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์แรงมากๆ เพื่อให้ความเย็นแรงมากๆ มันก็จะประหยัดไฟในระยะยาว

รวมไปถึงเราคำนึงว่า ปกติชีวิตของคนที่อยู่คอนโดมิเนียมเขาจะต้องซื้อน้ำดื่มเป็นขวดขึ้นมา เราก็คิดว่าเอ๊ะทำอย่างไร เราจะช่วยลดปริมาณขวดพลาสติกให้น้อยลง รวมไปถึงลดความยุ่งยากในการที่ลูกบ้านจะต้องขนน้ำขึ้นมาเราก็เลยติดตั้งเครื่องกรองน้ำที่ได้มาตรฐานในการที่ลูกบ้านเราสามารถดื่มน้ำจากก๊อกได้เลย

อีกอันหนึ่งที่เราภูมิใจก็คือว่า ปกติแอร์คอมเพรสเซอร์มันก็จะปล่อยพลังงานความร้อนออกมา ทีนี้เราก็หานวัตกรรมในการที่จะกักเก็บพลังงานความร้อนตรงนี้ นำไปรีฮีทเครื่องทำน้ำอุ่น ซึ่งปกติเครื่องทำน้ำอุ่น ถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมาก อันนี้ก็อาจจะพูดได้ว่าคืนนี้ถ้านอนเปิดแอร์ที่คอนโดมิเนียมเรา ตื่นเช้ามาสามารถอาบน้ำอุ่นฟรี มันอาจจะเป็นอะไรเล็กๆ น้อยๆ แต่ว่าเมื่อรวมกันเป็นปีหรือหลายปีแล้ว มันก็ช่วยประหยัดค่าไฟได้ในระยะยาว

น่าจะเรียกได้ว่าเราเป็นคอนโดมิเนียมแห่งแรกในประเทศไทย ที่ประหยัดพลังงาน เพราะว่าเท่าที่ดูก็ยังไม่เห็นว่ามีใครทำมากมายขนาดนี้ สำหรับคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ แล้วก็เราอาจจะไม่ได้พูดคนเดียว จริงๆ แล้วต้องเรียนว่าเราได้รับรางวัลจากกระทรวงพลังงานในฐานะที่เป็นอาคารขนาดใหญ่ ที่สามารถประหยัดพลังงานได้ถึง 30% เรามีใบรับรองจากกระทรวงพลังงาน เพราะฉะนั้นเราสามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำ

เรื่องแรงบันดาลใจที่ทำให้ชอบสิ่งแวดล้อมนั้น อาจจะเป็นเรื่องของสมัยเด็กๆ อายุประมาณ 18 ปี อยู่ที่คณะอักษรศาสตร์ อยู่ดีๆ ก็รู้สึกว่าเหมือนกรุงเทพฯ ทำไมถึงอากาศเริ่มเป็นพิษ แล้วคลองมันก็เริ่มดำสกปรก และก็เหม็น รู้สึกว่าเราอยากจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯ จะทำอย่างไรได้ ก็เลยคิดว่าเราจะต้องเป็นผู้ว่าฯ กทม. วันหนึ่งจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตอนนั้นก็เลยมีความใฝ่ฝันว่าโตมาฉันจะเป็นผู้ว่าฯ กทม.ให้ได้ ก็เป็นจุดเริ่มต้นว่าโอเคเราอยากเปลี่ยนแปลง เราอยากช่วยเหลือสังคม ในด้านของสิ่งแวดล้อม

พอเรียนจบอักษรศาสตร์ วันมีโอกาสได้เข้าไปทำงานที่สภาพัฒน์ ก็เหมือนเป็นหน่วยงานที่เป็นสมองของประเทศ ในการพิจารณาโครงการต่างๆ และก็ในทุกๆ โครงการก็จะมีส่วนที่ต้องพิจารณาด้านสิ่งแวดล้อม(EIA) วันก็ได้มีโอกาสในการดูแลส่วนนั้น ก็รู้สึกชอบมากและอยากมีความรู้มากกว่านั้น เพราะจบอักษรศาสตร์จริงๆ ก็ไม่ได้เรียนสิ่งแวดล้อมก็เลยอยากจะไปหาความรู้เพิ่มเติม เลยไปเรียนต่อปริญญาโทที่เศรษฐศาสตร์ สาขาสิ่งแวดล้อม และหลังจากนั้นก็อยากรู้มากไปกว่านั้นอีก ก็เลยไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเยล ที่สหรัฐอเมริกา เรียนเรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อม ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นของการที่มาสนใจอย่างจริงจังเรื่องสิ่งแวดล้อม

รู้สึกว่าดีใจแล้ว วันมีโอกาสดีมากๆ คือบอกตัวเองว่าจริงๆ แล้วถ้าเราอยากเปลี่ยนแปลงสังคมเปลี่ยนแปลงโลก เราไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นนักการเมือง หรือไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ว่าฯ หรือผู้บริหารระดับสูงมากของประเทศ จริงๆ เราแค่เป็นผู้ประกอบการรายเล็กๆ แล้วเราตั้งใจในส่วนที่เราทำให้ดีที่สุด อย่างน้อยมันก็เปลี่ยนแปลงโลก ถึงมันจะเป็นจุดจุดหนึ่งในสังคมที่มองลงมา แต่ถ้าเกิดเราเป็นต้นแบบทำให้คนอื่นเขาคิดตาม แล้วก็ทำตามเรา สุดท้ายสังคมมันก็จะแผ่กว้าง แล้วมันก็จะดีขึ้นโดยรวม

สำหรับ เฟรเกรนท์ จริงๆ งานหลักของเรา เราก็ทำพร็อพเพอร์ตี้ แล้วก็ขายคอนโดมิเนียม งานรองคือ เราอาจจะเป็นน้องใหม่ คนรู้จักเราน้อย เราก็เลยคิดว่าเราจะลุกขึ้นมาทำกิจกรรมให้คนรู้จักเรามากขึ้น ล่าสุดเรามีโปรเจกท์ที่สุขุมวิท 36 ตรงรถไฟฟ้าบีทีเอสทองหล่อ คือเราตั้งใจว่าจะสร้างคอนโดมิเนียมที่ผสมผสานนวัตกรรมที่จะเปลี่ยนไลฟ์สไตล์คนเมือง แต่ว่าขณะนี้เรายังไม่ได้ใช้ที่ดินนี้เราก็เลยคิดว่าอยากจะนำที่ดินมาสร้างความสุข เป็นที่สำหรับสร้างแรงบันดาลใจ ให้คนได้มาพักผ่อนหย่อนใจ เพราะที่ตรงนั้นต้นไม้ใหญ่มากและเราได้ไปรู้จักกับนักจัดตลาดมืออาชีพ เราก็ได้คุยกัน และให้เขามาจัดตลาดตรงนี้ร่วมกับเราและเราเรียกพื้นที่ตรงนี้ว่าเฟรเกรนท์ พาร์คตลาดนี้เหมือนเป็นตลาดนัดที่รวมของแฟชั่นและก็อาหารที่น่ารักๆ น่ากิน ที่สมัยนี้คนจะทานจะต้องถ่ายรูป และของส่วนใหญ่ก็จะพรีเซ็นต์ออกมาให้รูปแบบที่สวยงาม ตลาดก็จะเป็นคอนเซ็ปต์แนวที่แบบมาช็อป ชิม ชิล ในสวนหย่อมใจกลางเมืองและก็เป็นตลาดที่มาแล้วสร้างแรงบันดาลใจให้รู้สึกว่าเราได้ใกล้ชิดธรรมชาติ อยากทำอะไรที่มันสัมผัสกับธรรมชาติมากขึ้น ตลาดจะเปิดทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เป็นเวลา 10 สัปดาห์จนถึงวันที่ 17 กรกฎาคม 2559

นอกจากนี้ เราก็มี เฟรเกรนท์คอฟฟี่อีกด้วย จุดเริ่มต้นมาจากตอนแรกเราทำเหมือนคอฟฟี่ช็อปเล็กๆ สำหรับให้ลูกค้าเวลาแวะมาเยี่ยมชมโครงการ ตอนหลังเรารู้สึกว่ากาแฟที่เราไปเอามา เป็นกาแฟของชาวเขาแถวเชียงใหม่ ที่ดอยปู่หมื่น คือเมื่อก่อนคนแถวนี้เขาปลูกฝิ่นกัน แล้วตอนหลังเขาเปลี่ยนมาปลูกเมล็ดกาแฟเพื่อตามรอยพระราชดำริ แล้วเรารู้สึกว่าเราอยากซัพพอร์ทเขา ให้เขาไม่กลับไปปลูกฝิ่นอีก แล้วกาแฟของเขาก็อร่อยด้วย เราก็เลยพยายามคุยกับเขาว่าเราจะขอรับเมล็ดกาแฟของเขามาขาย ก็เลยเปิดร้านขายเป็นเรื่องเป็นราวก็ดีนะคะ รู้สึกเป็นกาแฟที่ช่วยสร้างอาชีพ ปัจจุบันเราก็มีคอฟฟี่ช็อปเล็กๆ อยู่ที่เซอร์เคิล คอนโดมิเนียม ตรงเพชรบุรีตัดใหม่ แล้วอีกที่คือตลาดตรงเฟรเกรนท์ พาร์ค สุขุมวิท 36ก็สามารถแวะไปเยี่ยมชมได้

ส่วนเรื่องหลักการในการดำเนินชีวิตและประกอบธุรกิจ อย่างที่บอกไปว่าเราเน้นเรื่องใส่ใจทรัพยากรธรรมชาติ แล้วก็ในเรื่องการอนุรักษ์พลังงาน คือลึกๆ มันเป็นความภูมิใจของเรามากๆ ต่อให้ไม่มีใครมาบอกให้เราทำ เราก็อยากทำอยู่แล้ว แล้วก็อันหนึ่งที่อยากจะบอกให้เป็นข้อคิดก็คือ ถ้าเราอยากจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงโลก เปลี่ยนแปลงสังคม เราไม่ต้องรอว่าเราต้องมีจังหวะหรือเวลา หรือว่ามีหน้าที่การงานที่ใหญ่โต เราเริ่มต้นด้วยตัวเราเอง เริ่มต้นด้วยธุรกิจเล็กๆ ของเรา วันว่าวันหนึ่งสิ่งเล็กๆ ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้

เรื่องแผนการในอนาคต ปัจจุบันเราก็ยังทำในแนวของคอนโดมิเนียมอยู่ อนาคตเราก็อาจจะทำบ้านเดี่ยวบ้าง แต่ว่าในแผนระยะใกล้ยังไม่มี แต่ด้วยสิ่งหนึ่งที่จะไม่เปลี่ยนก็คือคอนเซ็ปต์ของบริษัท อย่างไรเราก็คงจะเน้นไปในแนวอีโคอินเนอร์เวทีฟลิฟวิ่งเหมือนเดิม”

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top