วนเวียนอยู่ในสายเทคโนโลยี ดิจิตอล ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับด้านพัฒนาการศึกษาได้เลย จนกระทั่งมาเป็น “คุณพ่อมือหนึ่ง” ของลูกหญิงชาย ที่อยู่ในวัยเรียนรู้ จึงทำให้ สร้างบุญ แสงมณี มองหาสิ่งที่จะมาช่วยให้ลูกรักทั้งสองเติบโตขึ้นมาในสังคมที่เต็มไปด้วยการแข่งขันได้อย่างมีคุณภาพจนได้รู้จักกับ “Bricks 4 Kidz” สถาบันพัฒนาทักษะเด็กวัย 1-13 ปี จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเขามองว่าสิ่งนี้แหละที่เด็กๆ วัยนี้ควรได้รับ
สร้างบุญ อธิบายว่า Bricks 4 Kidz เป็นหลักสูตรการเรียนรู้แบบ Edutainment จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เน้นส่งเสริมพัฒนาการเด็กทั้งทางร่างกาย สมอง และทักษะทางสังคมควบคู่กันไป โดยใช้การเรียนรู้ผ่านการเล่นต่อตัวต่อเลโก้ ในหัวข้อการเรียนรู้ต่างๆ ที่เด็กสนใจ เช่น จักรวาล สิ่งก่อสร้าง และสวนสนุก เป็นต้น โดยชิ้นงานต้นแบบหรือ Model Plan ที่นำมาให้เด็กๆ ต่อนั้น ออกแบบมาเป็นพิเศษโดยวิศวกร สถาปนิกและนักการศึกษา เพื่อให้เด็กๆ ได้รับความสนุกและความรู้ ฝึกทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ การทำงานเป็นทีม ช่วยให้การต่อเลโก้เป็นการเล่นเพื่อการเรียนรู้อย่างแท้จริง
“Bricks 4 Kidz เป็นหลักสูตรที่พัฒนาคิดตามแนวคิด STEM Education ก็คือ Science วิทยาศาสตร์, Technology เทคโนโลยี, Engineering วิศวกรรมศาสตร์ และ Mathematics คณิตศาสตร์ ซึ่งบ้านเรารู้จักคำนี้กันมาไม่นาน แต่ในต่างประเทศใช้แนวคิด STEM Education มาพัฒนาหลักสูตรการศึกษากันมานานแล้ว และ Bricks 4 Kidz ก็ได้นำมาใช้เช่นกัน แต่หลักสูตรไม่ได้มุ่งเน้นว่าเด็กที่มาเรียนเพื่อให้ได้วิชาการ แต่เราต้องการเสริมทักษะให้เด็กคิดอย่างเป็นระบบและสอดแทรกความรู้ที่เหมาะสมตามช่วงวัยของเขา ผ่านการต่อเลโก้ เช่น การต่อกังหันลม เด็กๆ จะได้เรียนรู้ว่า ต้องใช้เลโก้ขนาดใด จำนวนเท่าไร จึงจะสามารถต่อเป็นกังหันลมได้ เมื่อต่อได้แล้วจะมีการติดมอเตอร์เพื่อให้กังหันลมหมุนได้ เชื่อมต่อการเรียนรู้เรื่องพลังงานลม คำศัพท์ง่ายๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือหากเด็กๆ ไม่สามารถทำให้กังหันลมหมุนได้ ก็จะให้เขาได้ใช้ความคิดในการแก้ไขปัญหา”
หลักสูตรของ Bricks 4 Kidz เป็นหลักสูตรที่เหมาะกับเด็กวัย 1-13 ปี โดยแบ่งเป็นคลาสตามช่วงอายุ เช่น คลาส Parent & Child สำหรับเด็ก 1-3 ปี เน้นการพัฒนาการด้านต่างๆ ทั้งกล้ามเนื้อมัดเล็ก กระตุ้นจินตนาการ เน้นการสื่อสารและสายสัมพันธ์ระหว่างคุณพ่อ คุณแม่ และลูกน้อย ผ่านการเรียนรู้เรื่องสี รูปทรง มิติสัมพันธ์ หรือเด็กโตมีคลาส Junior Robotics ให้เด็กๆ ได้สนุกกับการสร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์ควบคุมโมเดลเลโก้ พร้อมฝึกจัดระบบความคิดและทักษะการแก้ปัญหา
“ในหลักสูตร Bricks 4 Kidz ไม่มีการวัดผลสำเร็จเหมือนกับการเรียนในโรงเรียนกวดวิชาทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่ พ่อแม่คาดหวังคือให้ลูกๆ ได้รับความสนุกสนานและสาระไปพร้อมๆ กัน ซึ่ง 2 ปีกว่าที่ผมนำฟีดแบ๊ก Bricks 4 Kidz เข้ามาเปิด มี 6 สาขา สิ่งที่เราได้รับกลับมาคือ คุณพ่อคุณแม่จะบอกว่าลูกรู้จักที่จะคิดอย่างเป็นระบบ การแก้ไขปัญหา บางคนจะทำอะไรก็มีการวางแผน และส่วนใหญ่ที่มาเรียนก็จะเรียนต่อเนื่อง แสดงว่าหลักสูตรนี้ตอบโจทย์คุณพ่อคุณแม่ได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ช่วยให้เขาสามารถประสบความสำเร็จได้ เพราะรู้จักการวางแผนที่จะเดินไปให้ถึงเป้าหมายได้”
ในมุมมองของผู้บริหารสถาบันการเสริมทักษะการเรียนรู้ สร้างบุญ ให้ความเห็นเกี่ยวกับระบบการศึกษาไทยที่น่าสนใจว่า....“ระบบการศึกษาของไทยยังเน้นวิชาการ เด็กต้องไปเรียนกวดวิชาเพื่อสอบแข่งขัน แต่ความเป็นจริงความรู้มันไม่จำเป็นต้องวิชาการตลอดเวลา มันสามารถเก็บเกี่ยวได้จากสิ่งรอบๆ ตัว ยกตัวอย่าง ผมเคยไปเที่ยวสเปนมีสถาปัตยกรรมชื่อ ซากราดาฟามีเลีย (Temple Expiatori de la Sagrada Família) เป็นสถาปัตยกรรมประจำเมืองบาร์เซโลนา ออกแบบโดย อันตอนี เกาดี สถาปนิกชาวคาตาลัน เป็นผลงานที่เกาดีออกแบบโดยใช้แรงบันดาลใจจากต้นไม้ เพราะในช่วงวัยเด็กเกาดีมีปัญหาสุขภาพ จึงไม่ได้ไปโรงเรียน แต่ใช้ชีวิตอยู่กับต้นไม้ในสวน แต่เขาก็สามารถออกแบบงานศิลปะที่ใช้หลักการยืนต้นของต้นไม้ออกมาได้อย่างสวยงาม นี่เป็นสิ่งที่ผมอยากให้เด็กๆ มีการเรียนรู้จากการสังเกต เรียนรู้โดยการทดลองลงมือทำ ไม่ใช่การเรียนแต่วิชาการตำรา แต่เมื่อถึงเวลาไม่สามารถคิดที่จะนำไปปรับใช้ได้”
ดังนั้นในฐานะคุณพ่อที่มีลูกสาววัย 8 ขวบ และลูกชาย 6 ขวบ สร้างบุญ จึงพยายามที่จะปลูกฝังให้ลูกๆ “คิดอย่างเป็นระบบ” และไม่เลี้ยงลูกแบบประคบประหงมจนเกินไป
“ผมพยายามบาลานซ์ในการเลี้ยงลูก ถ้าลูกอยากได้สิ่งของสักอย่าง เราจะมีข้อกำหนด เช่น ให้เขาทำงานง่ายๆ สะสมแต้ม เพื่อแลกกับของที่เขาอยากได้ อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ ผมจะสอนลูกให้รู้จักวิธีหาเงิน มากกว่าวิธีใช้เงิน ให้เขาคิดว่าจะทำอย่างไรให้ได้เงินมาซื้อของในสิ่งที่ตัวเองต้องการ อย่างลูกชายคนเล็ก เขาชอบเลี้ยงต้นกระบองเพชร ผมก็ให้ไอเดียว่า เราจะสามารถสร้างรายได้จากกระบองเพชรที่มีอยู่อย่างไร เขาก็ไปหาข้อมูลว่าจะตัดต่อกิ่งกระบองเพชรอย่างไร ให้มีรูปทรงแปลกๆ หรือมีดอกสีสวยๆ ที่จะเพิ่มจำนวนเพื่อนำไปขาย หรือเมื่อไม่กี่วัน ก็ให้ลูกสาวลองตั้งโต๊ะขายขนมอยู่หน้าบ้าน ก็ขายไม่ได้หรอก บ่นร้อน ผมก็สอนลูกว่า แล้วจะทำอย่างไรให้ขายได้ ขายที่ไหนดีที่จะไม่ร้อน เห็นไหมว่ากว่าพ่อจะหาเงินได้แต่ละบาทมันไม่ได้ง่าย เราต้องอดทน ลูกบอกว่างั้นเดี๋ยวลองเปลี่ยนที่ขายไปเรื่อยๆ เริ่มจากไปขายที่ Bricks 4 Kidz ไม่ร้อนด้วย ไม่เสียค่าที่มีขนมให้ลูกค้าทดลองชิม ทำป้ายสวยๆ ติดถุงขนมอันนี้ก็คิดแบบเด็กๆ 8 ขวบ แต่อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าเขามีความคิด มีการวางแผน ผมก็สนับสนุนให้เขาทำอย่างที่วางแผนไว้”
ท้ายที่สุดคุณพ่อในยุค Gen Y คนนี้ ย้ำว่าการปลูกฝังลูก เตรียมความพร้อมให้ลูกเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอย่างคนมี “ความคิด” และ “แก้ไขปัญหาเป็น” เป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้เขาเหล่านั้น เติบโตขึ้นเป็น “คนคุณภาพ” ของสังคมและประเทศชาติต่อไปในอนาคต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี