วันพุธ ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
10เครื่องแต่งกายทำลายสุขภาพ ใส่นานยิ่งส่งผลเสีย-รีบเปลี่ยน

10เครื่องแต่งกายทำลายสุขภาพ ใส่นานยิ่งส่งผลเสีย-รีบเปลี่ยน

วันศุกร์ ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2559, 18.15 น.
Tag : กางเกง เครื่องแต่งกาย รองเท้า สุขภาพ สุขภาพกาย เสื้อผ้า เสื้อ
  •  

การแต่งตัวให้สวยงามและเหมาะสมกับสถานที่ เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของทุกคน ซึ่งเป็นการช่วยเสริมบุคลิกภาพความมั่นใจ แต่คุณหรือไม่ว่าเครื่องแต่งกายบางชนิดอาจนำมาพร้อมผลเสียทำลายสุขภาพของคุณได้

วันนี้เราจึงมี 10 เครื่องแต่งกายที่อาจทำลายสุขภาพของคุณ มานำเสนอ เพื่อให้คุณได้เลือกเครื่องแต่งกายได้อย่างถูกใจโดยไม่ส่งผลต่อสุขภาพ


1. กางเกงยีนส์ทรงเดฟ

กางเกงยีนส์ทรงเดฟจะบีบรัดเส้นประสาทในขาหนีบและขาทำให้เลือดไหลเวียนไปที่ขาท่อนล่างน้อยลงจนกล้ามเนื้อเสียหาย บวมและชา นอกจากนี้การสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไปจะทำให้เกิดการเสียดสีกับผิวหนังซึ่งอาจไปรบกวนเกราะป้องกันผิวที่ช่วยปกป้องคุณจากการติดเชื้อ ยิ่งไปกว่านั้นเสื้อผ้ารัดรูปจะทำให้คุณเหงื่อออกมากขึ้นจนกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อรา ไวรัส และแบคทีเรีย คุณอาจต้องใช้ยาแก้แพ้ ครีมต้านเชื้อราหรือยาปฏิชีวนะเพื่อกำจัดผื่นคัน หากต้องการใส่กางเกงยีนส์ทรงเดฟควรเลือกชนิดที่ยืดได้บ้าง ซักหลังใส่ทุกๆ 2-3 ครั้ง และหลีกเลี่ยงการนั่งยองเป็นเวลานานๆ

2. เสื้อรัดรูปและชุดกระชับสัดส่วน

ถุงน่องและชุดกระชับสัดส่วนที่ดูเหมือนว่าไม่มีอันตรายแต่พวกมันสามารถทำลายสุขภาพของคุณได้ไม่ต่างจากผ้ายีนส์ ชุดกระชับสัดส่วนที่รัดแน่นเกินไปจะบีบอวัยวะทำให้ปวดท้องและกรดไหลย้อน ทางที่ดีควรเลือกใส่เฉพาะในโอกาสพิเศษและจำกัดเวลาในการใส่ด้วย

3. ชุดจั๊มพ์สูทขาสั้น

แม้ว่าจะสวมใส่ง่ายแต่กลับยุ่งยากเวลาถอดเมื่อคุณต้องการเข้าห้องน้ำ ด้วยเหตุนี้อาจทำให้คุณเข้าห้องน้ำน้อยลง อั้นปัสสาวะจนทำให้เกิดอาการปวดเหนือกระดูกหัวหน่าวหรือที่หลังส่วนล่าง เป็นไข้ รู้สึกเจ็บปวดเวลามีเซ็กส์ รวมถึงอาการอื่นๆ ที่มาพร้อมกับการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ ดังนั้นคุณควรดื่มน้ำตามปกติและจัดเวลาเข้าห้องน้ำอย่างน้อยทุกๆ 3 ชั่วโมง

4. จีสตริง

เมื่อสายของกางเกงในจีสตริงสัมผัสกับจุดซ่อนเร้นของคุณอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียและไวรัสแพร่กระจาย ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อในช่องคลอดได้ ทางที่ดีคุณควรเลือกใส่กางเกงในที่พอดีตัวจะให้ผลดีมากกว่า

5. ชุดนอน

การเปลี่ยนชุดนอนมีความสำคัญไม่ต่างจากการเปลี่ยนชุดชั้นในโดยเฉพาะผู้ที่นอนโดยไม่สวมชุดชั้นใน คุณคงไม่อยากให้ชุดนอนสกปรกสัมผัสกับท่อปัสสาวะเนื่องจากเชื้อแบคทีเรียสามารถเพิ่มจำนวนขึ้นได้ในบริเวณนั้น การแก้ปัญหาง่ายๆ คือนอนในชุดนอนที่สะอาดทุกคืน (หรืออย่างน้อยก็ควรสวมชุดชั้นในที่สะอาด)

6. กางเกงเลกกิ้ง

กางเกงเลกกิ้งเป็นเสื้อผ้าที่แนบชิดร่างกายและเมื่อถูไปมากับผิวหนังจะยิ่งดูดซับเหงื่อและน้ำมันมากขึ้นซึ่งเป็นการสะสมสิ่งสกปรก ดังนั้นการใส่กางเกงเลกกิ้งไปออกกำลังกายติดต่อกันมากกว่า 2 ครั้งอาจทำให้เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา เช่น กลาก ผิวหนังลอกหรือตกสะเก็ด และมีผื่นคันได้

7. ชุดว่ายน้ำ

ชุดบิกินี่ท่อนล่างที่เปียกชื้นอาจจะกลายเป็นแหล่งสะสมของยีสต์และเชื้อแบคทีเรียเนื่องจากผ้าใยสังเคราะห์จะกักเก็บความชื้น แต่คุณไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการว่ายน้ำ แค่เปลี่ยนท่อนล่างออกทันทีที่ว่ายน้ำเสร็จ นอกจากนี้บิกินี่ท่อนล่างที่รัดแน่นจะลดการไหลเวียนของอากาศที่บริเวณหว่างขาและอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ ดังนั้นควรเลือกชุดว่ายน้ำให้พอดีตัว ปราศจากรอยกดทับบนผิวหนัง และมีความยืดหยุ่นเพื่อป้องกันการอุดตันของต่อมเหงื่อและตุ่มแดงคันจากการเสียดสี

8. กางเกงยีนส์

กางเกงยีนส์หรือกางเกงอื่นๆ ที่มีตะขอ หมุด กระดุม เนื่องจากโลหะเหล่านี้มีแนวโน้มว่าจะผสมนิกเกิลซึ่งทำให้เกิดการระคายเคืองผิวมากที่สุด รวมถึงอาจทำให้เกิดผื่นใต้สะดือด้วย ทางแก้คือ เคลือบหมุดโลหะด้วยน้ำยาทาเล็บหรือใช้กระดาษกาวแผ่นเล็กๆ ติดไว้ก็จะช่วยกั้นโลหะเหล่านี้จากผิวของคุณได้แล้ว

9. รองเท้าส้นสูง

การใส่รองเท้าส้นสูงเพียงไม่กี่ครั้งต่อสัปดาห์ในเวลาไม่กี่ปีอาจทำให้กล้ามเนื้อข้อเท้าไร้ความสมดุลและคุณอาจบาดเจ็บจากสาเหตุดังกล่าวได้ การยกส้นเท้า (ยืนเท้าเปล่าและเขย่งบนปลายเท้า) และการวางส้นเท้า (ยืนบนขอบบันไดและค่อยๆ ลดส้นเท้าลง) สามารถช่วยบำบัดได้

10. รองเท้าแตะ

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่ารองเท้าแตะเป็นศูนย์รวมของทุกสิ่งที่น่าขยะแขยงไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อราที่ทำให้เกิดการติดเชื้อได้หากหนังหุ้มด้านข้างเล็บหรือผิวหนังฉีกขาดและไม่มีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีเยี่ยม ยิ่งไปกว่านั้นรองเท้าแตะจะทำให้ปวดส้นเท้า นิ้วเท้าผิดรูป และส่งผลกระทบต่อท่าทางจนทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยและเจ็บปวดอื่นๆ ตามมา

ที่มา : issue247

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

ทหารไทย ทำลาย บันไดไม้ 1,181 ขั้น ของเขมร บน ปราสาทคนา

ธรรมนัส สวน เท้ง อยู่ในเวทีการเมืองมา ศัตรูหมู่มารในการเมือง จบไม่สวยสักคน เวรกรรมตามสนอง

อนุทิน ร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ จ่าเริง เพื่อนร่วมรบเผย ร้องเพลงที่แต่งให้ฟัง ก่อนขึ้นเนิน 350

กลาโหมกัมพูชา ส่งหนังสือทางการถึง กลาโหมไทย ขอเจรจาหยุดยิงตามกลไก GBC

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved