วันพุธ ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568
การแต่งตัวให้สวยงามและเหมาะสมกับสถานที่ เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของทุกคน ซึ่งเป็นการช่วยเสริมบุคลิกภาพความมั่นใจ แต่คุณหรือไม่ว่าเครื่องแต่งกายบางชนิดอาจนำมาพร้อมผลเสียทำลายสุขภาพของคุณได้
วันนี้เราจึงมี 10 เครื่องแต่งกายที่อาจทำลายสุขภาพของคุณ มานำเสนอ เพื่อให้คุณได้เลือกเครื่องแต่งกายได้อย่างถูกใจโดยไม่ส่งผลต่อสุขภาพ

1. กางเกงยีนส์ทรงเดฟ
กางเกงยีนส์ทรงเดฟจะบีบรัดเส้นประสาทในขาหนีบและขาทำให้เลือดไหลเวียนไปที่ขาท่อนล่างน้อยลงจนกล้ามเนื้อเสียหาย บวมและชา นอกจากนี้การสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไปจะทำให้เกิดการเสียดสีกับผิวหนังซึ่งอาจไปรบกวนเกราะป้องกันผิวที่ช่วยปกป้องคุณจากการติดเชื้อ ยิ่งไปกว่านั้นเสื้อผ้ารัดรูปจะทำให้คุณเหงื่อออกมากขึ้นจนกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อรา ไวรัส และแบคทีเรีย คุณอาจต้องใช้ยาแก้แพ้ ครีมต้านเชื้อราหรือยาปฏิชีวนะเพื่อกำจัดผื่นคัน หากต้องการใส่กางเกงยีนส์ทรงเดฟควรเลือกชนิดที่ยืดได้บ้าง ซักหลังใส่ทุกๆ 2-3 ครั้ง และหลีกเลี่ยงการนั่งยองเป็นเวลานานๆ
2. เสื้อรัดรูปและชุดกระชับสัดส่วน
ถุงน่องและชุดกระชับสัดส่วนที่ดูเหมือนว่าไม่มีอันตรายแต่พวกมันสามารถทำลายสุขภาพของคุณได้ไม่ต่างจากผ้ายีนส์ ชุดกระชับสัดส่วนที่รัดแน่นเกินไปจะบีบอวัยวะทำให้ปวดท้องและกรดไหลย้อน ทางที่ดีควรเลือกใส่เฉพาะในโอกาสพิเศษและจำกัดเวลาในการใส่ด้วย
.jpg)
3. ชุดจั๊มพ์สูทขาสั้น
แม้ว่าจะสวมใส่ง่ายแต่กลับยุ่งยากเวลาถอดเมื่อคุณต้องการเข้าห้องน้ำ ด้วยเหตุนี้อาจทำให้คุณเข้าห้องน้ำน้อยลง อั้นปัสสาวะจนทำให้เกิดอาการปวดเหนือกระดูกหัวหน่าวหรือที่หลังส่วนล่าง เป็นไข้ รู้สึกเจ็บปวดเวลามีเซ็กส์ รวมถึงอาการอื่นๆ ที่มาพร้อมกับการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ ดังนั้นคุณควรดื่มน้ำตามปกติและจัดเวลาเข้าห้องน้ำอย่างน้อยทุกๆ 3 ชั่วโมง
4. จีสตริง
เมื่อสายของกางเกงในจีสตริงสัมผัสกับจุดซ่อนเร้นของคุณอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียและไวรัสแพร่กระจาย ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อในช่องคลอดได้ ทางที่ดีคุณควรเลือกใส่กางเกงในที่พอดีตัวจะให้ผลดีมากกว่า
.jpg)
5. ชุดนอน
การเปลี่ยนชุดนอนมีความสำคัญไม่ต่างจากการเปลี่ยนชุดชั้นในโดยเฉพาะผู้ที่นอนโดยไม่สวมชุดชั้นใน คุณคงไม่อยากให้ชุดนอนสกปรกสัมผัสกับท่อปัสสาวะเนื่องจากเชื้อแบคทีเรียสามารถเพิ่มจำนวนขึ้นได้ในบริเวณนั้น การแก้ปัญหาง่ายๆ คือนอนในชุดนอนที่สะอาดทุกคืน (หรืออย่างน้อยก็ควรสวมชุดชั้นในที่สะอาด)
6. กางเกงเลกกิ้ง
กางเกงเลกกิ้งเป็นเสื้อผ้าที่แนบชิดร่างกายและเมื่อถูไปมากับผิวหนังจะยิ่งดูดซับเหงื่อและน้ำมันมากขึ้นซึ่งเป็นการสะสมสิ่งสกปรก ดังนั้นการใส่กางเกงเลกกิ้งไปออกกำลังกายติดต่อกันมากกว่า 2 ครั้งอาจทำให้เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา เช่น กลาก ผิวหนังลอกหรือตกสะเก็ด และมีผื่นคันได้
.jpg)
7. ชุดว่ายน้ำ
ชุดบิกินี่ท่อนล่างที่เปียกชื้นอาจจะกลายเป็นแหล่งสะสมของยีสต์และเชื้อแบคทีเรียเนื่องจากผ้าใยสังเคราะห์จะกักเก็บความชื้น แต่คุณไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการว่ายน้ำ แค่เปลี่ยนท่อนล่างออกทันทีที่ว่ายน้ำเสร็จ นอกจากนี้บิกินี่ท่อนล่างที่รัดแน่นจะลดการไหลเวียนของอากาศที่บริเวณหว่างขาและอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ ดังนั้นควรเลือกชุดว่ายน้ำให้พอดีตัว ปราศจากรอยกดทับบนผิวหนัง และมีความยืดหยุ่นเพื่อป้องกันการอุดตันของต่อมเหงื่อและตุ่มแดงคันจากการเสียดสี
8. กางเกงยีนส์
กางเกงยีนส์หรือกางเกงอื่นๆ ที่มีตะขอ หมุด กระดุม เนื่องจากโลหะเหล่านี้มีแนวโน้มว่าจะผสมนิกเกิลซึ่งทำให้เกิดการระคายเคืองผิวมากที่สุด รวมถึงอาจทำให้เกิดผื่นใต้สะดือด้วย ทางแก้คือ เคลือบหมุดโลหะด้วยน้ำยาทาเล็บหรือใช้กระดาษกาวแผ่นเล็กๆ ติดไว้ก็จะช่วยกั้นโลหะเหล่านี้จากผิวของคุณได้แล้ว

9. รองเท้าส้นสูง
การใส่รองเท้าส้นสูงเพียงไม่กี่ครั้งต่อสัปดาห์ในเวลาไม่กี่ปีอาจทำให้กล้ามเนื้อข้อเท้าไร้ความสมดุลและคุณอาจบาดเจ็บจากสาเหตุดังกล่าวได้ การยกส้นเท้า (ยืนเท้าเปล่าและเขย่งบนปลายเท้า) และการวางส้นเท้า (ยืนบนขอบบันไดและค่อยๆ ลดส้นเท้าลง) สามารถช่วยบำบัดได้
10. รองเท้าแตะ
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่ารองเท้าแตะเป็นศูนย์รวมของทุกสิ่งที่น่าขยะแขยงไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อราที่ทำให้เกิดการติดเชื้อได้หากหนังหุ้มด้านข้างเล็บหรือผิวหนังฉีกขาดและไม่มีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีเยี่ยม ยิ่งไปกว่านั้นรองเท้าแตะจะทำให้ปวดส้นเท้า นิ้วเท้าผิดรูป และส่งผลกระทบต่อท่าทางจนทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยและเจ็บปวดอื่นๆ ตามมา
ที่มา : issue247
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี