โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว กรุงเทพ ฟอร์จูน ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจัดงานประกวดแกะสลักผัก-ผลไม้ ผสานงานใบตองและดอกไม้สด ครั้งที่ 18  หัวข้อ “เฉลิมพระเกียรติพระนามยิ่งยศสิริกิติ์สถิตย์ไว้ในโลกา” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ คณะกรรมการตัดสินการประกวดได้รับเกียรติจากสำนักพระราชวัง วังจิตรลดา กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และจากสถาบันการศึกษา

อารยา อรุณานนท์ชัย ประธานจัดงานกล่าวว่า “วัตถุประสงค์การจัดประกวดครั้งนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา ในวันที่  12 สิงหาคม พ.ศ.2559 นี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่างๆ ไว้มากมาย รวมถึงการพระราชทานพระนามาภิไธยสิริกิติ์ ให้กับสถานที่ท่องเที่ยว เขื่อน พันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์ โดยผู้เข้าประกวดสร้างสรรค์ผลงานแกะสลักผัก-ผลไม้ ผสานงานใบตอง และดอกไม้สด ให้สอดคล้องกับหัวข้อการประกวด ซึ่งผู้ชนะการประกวดจะได้รับถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โล่รางวัลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประกาศนียบัตรอันทรงเกียรติ รางวัลเงินสด เหรียญที่ระลึกการประกวดและเสื้อที่ระลึก 84 พรรษา”

พิธีประกาศผลได้รับเกียรติจาก ท่านผู้หญิงภรณี มหานนท์ รองราชเลขานุการในองค์สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ มอบรางวัลตามลำดับ โดยมีทีมประกวดทั้งสิ้น 28 ทีม แบ่งเป็น 2 ประเภท ผลการตัดสินประเภทโรงแรมและบุคคลทั่วไป รางวัลชนะเลิศ ทีมปทุมธานี, รองชนะเลิศอันดับ 1 พลูแมน ขอนแก่น ราชาออร์คิด, รองชนะเลิศอันดับ 2 ชมรมกาโรงแรม จ.สมุทรปราการ, รางวัลชมเชย เทิดพระเกียรติ จ.น่าน และ ธิชานนท์ ส้มโต, รางวัลพิเศษ ครูโบ ดี เทรนเนอร์ ประเภทสถาบันการศึกษา รางวัลชนะเลิศ บานบุรี วิทยาลัยอาชีวศึกษานครปฐม, รองชนะเลิศอันดับ 1 เมืองหญิงกล้า หลานย่าโม วิทยาลัยอาชีวศึกษานครราชสีมา รองชนะเลิศอันดับ 2 โรงเรียนสาธิตเทศบาลเชตวัน, รางวัลชมเชย วิทยาลัยอาชีวศึกษา ธนบุรี, ทีมเกษมสำราญ ม.เกษมบัณฑิต, รางวัลพิเศษ โรงเรียนศรีสังวาล

ส่วนรางวัลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้แก่ วิทยาลัยอาชีวศึกษาเสาวภา ชื่อผลงาน “สายธารแห่งน้ำพระทัย” ความหมายของผลงานสื่อถึงพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย เปรียบเสมือนสายน้ำที่หล่อเลี้ยงปวงชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี  สุขล้น ด้วยน้ำพระราชหฤทัยทัยที่ทรงส่งเสริมอาชีพและอนุรักษ์ศิลปะของชาติให้คนไทยได้สืบสาน  

ผลงาน“สายธารแห่งน้ำพระทัย” รางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทาน

ท้ายสุด ศ.ดร.มณีรัตน์  สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา ประธานกรรมการตัดสิน เผยว่า “การตัดสินยากมาก ฝีมือคนรุ่นใหม่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เห็นแล้วก็น่าปลื้มใจที่คนรุ่นใหม่ไม่ทิ้งวิชาอันเป็นเอกลักษณ์ของไทย  เรากล้าพูดว่าวิชาแกะสลักมีมานานและไม่มีใครสู้เราได้ เมื่อเร็วๆ นี้ ทางชมรมแกะสลักของไทยเตรียมส่งเอกสารไปที่ยูเนสโก เพื่อขึ้นทะเบียนวิชาแกะสลักของไทย ซึ่งมีมาช้านานเป็นมรดกโลก ตรงนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำ อยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยผลักดันให้ยูเนสโกจดทะเบียนวิชาแกะสลักของไทยเป็นมรดกโลกเร็วๆ ถ้าเราไม่รีบรวบรวมหลักฐานและส่งจะไม่ทันที่อื่นๆ ซึ่งงานวันนี้ต้องขอบคุณผู้จัดงานมากๆ ซึ่งเราจะนำส่งผลงานแกะสลักเหล่านี้เป็นข้อมูลประกอบการขึ้นทะเบียนด้วยค่ะ”

ผู้สนใจสามารถชมผลงานย้อนหลังได้ที่ facebook.com/grandmercurebangkokfortune