วันเสาร์ ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2568
กิ่งแก้ว อินหว่าง ประธานมูลนิธิศูนย์ศึกษาและส่งเสริมกิจกรรมสังคม, ทวีป จำเนียร ผู้แทนจากพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สุพรรณบุรี, บุษบา จิราธิวัฒน์, ดร.ชาติชายนรเศรษฐาภรณ์ ผู้บริหารกลุ่ม เซ็นทรัล ไพวรรณ พลวัน รองอธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการร่วมกันโชว์พืชผลเศรษฐกิจ
เพื่อส่งเสริมสิทธิความเสมอภาคและสร้างทัศนคติเชิงสร้างสรรค์ต่อคนพิการ เพราะคนพิการไม่ใช่ภาระของสังคม กลุ่มเซ็นทรัลจึงเดินหน้าส่งเสริมการ อบรม เพื่อสร้างอาชีพแก่คนพิการ ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ มีรายได้และมีวิชาชีพติดตัว ล่าสุดได้จัดให้มีการอบรมอาชีพ องค์กรแกนนำคนพิการในพื้นที่ 5 จังหวัดได้แก่ พระนครศรีอยุธยา, สระบุรี, นครปฐม, สมุทรสาคร และ สุพรรณบุรี พร้อมมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้ผ่านการฝึกอบรม ทั้ง 199 คน โดยมี ไพวรรณ พลวัน รองอธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ, กิ่งแก้ว อินหว่าง ประธานมูลนิธิศูนย์ศึกษาและส่งเสริมกิจกรรมสังคม ร่วมงานด้วย
บุษบา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัลในฐานะองค์กรภาคเอกชนเล็งเห็นถึงศักยภาพของคนพิการที่สามารถส่งเสริมและผลักดันให้มีบทบาททางสังคม ไม่ใช่ผู้มีปมด้อย แต่เป็นกลุ่มคนที่สังคมยอมรับและมีสิทธิเท่าเทียมไม่แตกต่างจากคนอื่นๆ รวมทั้งอยู่เคียงข้างให้กำลังใจแก่คนพิการให้ก้าวผ่านอุปสรรคทางร่างกาย และมีจิตใจที่เข้มแข็งสามารถอยู่ร่วมกันกับคนในสังคมได้อย่างเสมอภาคและมีความสุขทั้งนี้ กลุ่มเซ็นทรัลได้เริ่มส่งเสริมการสร้างอาชีพให้แก่ผู้พิการภายใต้การปฏิบัติตามมาตรา 35 ตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง รวมแล้วกว่า 868 คน รวมเป็นเงินสนับสนุนทั้งสิ้นมากกว่า 95 ล้านบาท
.jpg)
มอบประกาศนียบัตรแก่ผู้ผ่านการฝึกอบรม
และล่าสุด ปี 2559 ได้ร่วมกับ มูลนิธิศูนย์ศึกษาและส่งเสริมกิจกรรมสังคม และ องค์กรแกนนำคนพิการในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา, สระบุรี, นครปฐม, สมุทรสาคร และ สุพรรณบุรี จัดทำ โครงการเพิ่มโอกาสด้านประกอบอาชีพและการมีงานทำร่วมกับสถานประกอบการ ด้วยการให้การสนับสนุนการประกอบอาชีพสู่คนพิการที่ไม่มีอาชีพ เนื่องจากข้อจำกัดทางการศึกษาหรือสภาพร่างกาย ให้สามารถมีอาชีพอิสระหาเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ โดยบริษัทในเครือกลุ่มเซ็นทรัลได้ยื่นให้สิทธิคนพิการตามช่องทางมาตรา 35 แก่คนพิการในพื้นที่ 5 จังหวัดด้วยการสนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายเพื่อส่งเสริมอาชีพแก่คนพิการ จำนวน 199 คน เป็นจำนวนเงินมากกว่า 21 ล้านบาทซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2559 ส่งผลให้คนพิการที่เข้ารับการฝึกอบรมวิชาชีพมีรายได้เฉลี่ยต่อคนเพิ่มมากขึ้นจากเดิมประมาณ 4-5 เท่าตัว
.jpg)
บุษบา จิราธิวัฒน์
ทั้งนี้ได้จัดให้มีพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้ผ่านการฝึกอบรม ทั้ง 199 คน เป็นที่เรียบร้อยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยอาชีพที่ให้การสนับสนุน ประกอบด้วย โครงการฝึกอบรมหลักสูตรซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าและพลังงานทดแทน, การประยุกต์ใช้โซลาร์เซลล์เป็นพลังงานทดแทน, โครงการฝึกอบรมหลักสูตเศรษฐกิจพอเพียง อาทิ การปลูกพืชแบบผสมผสาน, เห็ดและการเพาะพันธุ์, ปุ๋ยกับการเกษตรสมัยใหม่,พืชเศรษฐกิจ, การผลิตน้ำสกัดชีวภาพ, โครงการฝึกอบรมหลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียง อาทิ การเพาะเลี้ยงไส้เดือนเพื่อผลิตปุ๋ยธรรมชาติ,วิธีการเลี้ยงไก่ไข่อินทรีย์, การขยายพันธุ์พืช,การปลูกมะนาว และผักปลอดสารพิษ, การผลิตปุ๋ยอินทรีย์กับการเกษตรทฤษฎีใหม่ การจัดการน้ำเพื่อการเกษตรอุปโภค บริโภค, การทำสารสกัดธรรมชาติไล่แมลง ผักกางมุ้งการปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่น พริก มะเขือ ถั่วฟักยาว เห็ด, การเพาะเลี้ยง กบ ปลานิล ปลาดุก, โครงการฝึกอบรมหลักสูตรการทำเบเกอรี่ 6 ชนิด คือ คุกกี้, เค้กและแยมโรล,พายและทาร์ต, ขนมปัง, โดนัท, ครัวซองท์และเดนิช,โครงการฝึกอบรมหลักสูตรการผลิตเครื่องเบญจรงค์ ตั้งแต่วิธีการผลิต การเขียนลาย การลงสี การเข้าเตาเผา จนออกมาเป็นเครื่องเบญจรงค์อันสวยงาม และโครงการส่งเสริมการประกอบอาชีพตู้น้ำมันหยอดเหรียญอัตโนมัติ ฯลฯ
นอกจากนี้ ยังได้ให้การช่วยเหลือคนพิการในรูปแบบอื่นๆ เช่น การออกแบบก่อสร้าง “อารยะสถาปัตย์” ภายในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า ให้มีทางลาด ขึ้น-ลง สัญจรภายนอกและภายในอาคาร มีลิฟต์โดยสารสำหรับผู้พิการ ห้องน้ำและที่จอดรถสำหรับผู้พิการ เป็นต้น และด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเทในการส่งเสริมและสนับสนุนคนพิการนี้เอง ส่งผลให้กลุ่มเซ็นทรัลได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ Disability Matters2015 องค์กรที่สนับสนุนโครงการเพื่อคนพิการยอดเยี่ยมแห่งปี จัดโดย Springboard Consulting ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยมอบให้กับ 3 โซนของโลก คือ อเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย แปซิฟิก ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลเป็น 1 ใน 2 องค์กรจากประเทศไทยเท่านั้น ที่คว้ารางวัลนี้มาครอบครองในระดับเอเชียแปซิฟิก อีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี