วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
แพทย์แนะวิธีดูแลตัวเองของผู้ป่วยเบาหวาน

แพทย์แนะวิธีดูแลตัวเองของผู้ป่วยเบาหวาน

วันศุกร์ ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.
Tag : ผู้ป่วยเบาหวาน แพทย์
  •  

พญ.ณัฐกานต์ มยุระสาคร

แพทย์ด้านต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิสมโรงพยาบาลพระรามเก้า เผยปัจจัยเสี่ยงของโรคเบาหวาน นอกจากพันธุกรรมแล้ว ปัจจัยสิ่งแวดล้อมและวิธีการดำเนินชีวิต เช่น การเลือกรับประทานอาหาร น้ำหนักตัวเกิน ไม่ออกกำลังกาย หรือมีภาวะความดันโลหิตสูงและไขมันในเลือดสูง ก็สุ่มเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานเช่นกัน เมื่อร่างกายขาดพลังงานจึงรู้สึกเพลีย อยากกินอาหารหวาน และน้ำตาลสูงในเลือดที่สูงเกินจะถูกขับออกทางปัสสาวะ จึงมีอาการปัสสาวะบ่อย คอแห้ง หิวน้ำ และน้ำหนักลด พร้อมแนะวิธีดูแลตัวเองเมื่อป่วยเป็นเบาหวาน สิ่งที่ต้องหมั่นทำ คือ ดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้น และทานอาหารคาร์โบไฮเดรตให้เพียงพอ

แพทย์หญิงณัฐกานต์ มยุระสาครแพทย์ด้านต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิสมโรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่า ผู้ป่วยเบาหวานควรมีความรู้ในการดูแลตัวเอง ได้แก่ การเลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสม หมั่นออกกำลังกายตามความแข็งแรง ควบคุมน้ำหนักตัว รับประทานยาหรือฉีดยาตามคำแนะนำแพทย์ และมาพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ หนึ่งในการดูแลตนเองที่ผู้ป่วยเบาหวานควรรู้ คือ การดูแลตนเองเมื่อมีภาวะเจ็บป่วยเฉียบพลัน เช่น การติดเชื้อ การผ่าตัด อุบัติเหตุ หรือได้รับยาบางชนิดที่มีผลต่อน้ำตาลในเลือด ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนต่างๆ เพื่อต่อสู้กับเชื้อโรคกับอาการเจ็บป่วยนั้นๆ มีผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นหรือลดลงผิดปกติ รวมทั้งอาการเจ็บป่วยมีผลต่อปริมาณอาหารที่รับประทานทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดแกว่ง


นอกจากคนไข้จะเจ็บป่วยจากโรคนั้นๆ แล้ว อาจมีภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลันจากระดับน้ำตาลในเลือด ได้แก่ 1.Diabetic ketoacidosis
คือ ภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูงร่วมกับเลือดเป็นกรด มักตรวจพบระดับน้ำตาลในเลือดมากกว่า 250 มก./ดล. อาการ ได้แก่ กระหายน้ำ
คอแห้ง อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน หอบเหนื่อย ลมหายใจมีกลิ่นผลไม้ จนถึงซึม หมดสติได้2.Hyperglycemia hyperosmolar nonketotic syndrome (HHNS) ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงร่วมกับภาวะ osmolarity (ความเข้มข้นเลือด) สูงมักพบในผู้สูงอายุที่คุมเบาหวานได้ไม่ดี มีภาวะเจ็บป่วยเฉียบพลัน ร่วมกับภาวะขาดน้ำรุนแรง ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่า 600 มก./ดล. บางรายที่เป็นมาก อาจมีความดันโลหิตต่ำ ความรู้สึกตัวจะค่อยๆ ลดลง จนโคม่าได้ 3.Severehypoglycemia ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำรุนแรง จนผู้ป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เช่นมีอาการสับสน เป็นลม หมดสติ ชักเกร็ง กระตุก จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากผู้อื่น และอาการดีขึ้นเมื่อระดับน้ำตาลปกติ มักพบเมื่อระดับน้ำตาลในเลือด 50 มก./ดล. หรือต่ำกว่า

สำหรับข้อควรปฏิบัติยามเจ็บป่วยสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน (Sick-day rules) เมื่อเกิดภาวะเจ็บป่วยเฉียบพลัน สิ่งที่ต้องหมั่นทำ คือ ดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้น ชั่วโมงละครึ่งถึงหนึ่งแก้ว(ถ้าไม่มีข้อห้าม เช่น โรคหัวใจ โรคไต) เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ และช่วยขับน้ำตาลส่วนเกินและคีโตนไปทางปัสสาวะ ควรตรวจระดับน้ำตาลในเลือดที่ปลายนิ้วบ่อยขึ้น (ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่หนึ่งควรจะตรวจทุกๆ 4 ชั่วโมง และตรวจคีโตนในปัสสาวะ สำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่สอง ควรตรวจอย่างน้อย 3 เวลาก่อนอาหารและก่อนนอน) ทานอาหารคาร์โบไฮเดรตให้เพียงพอหากไม่สามารถรับประทานอาหารปกติได้ แนะนำให้รับประทานอาหารอ่อนย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก น้ำข้าวผสมเกลือเล็กน้อย แครกเกอร์ ขนมปัง โยเกิร์ต นมหรือน้ำเต้าหู้

ที่สำคัญ อย่าหยุดยาด้วยตนเอง ในกรณีที่ผู้ป่วยมีความต้องการซื้อยาจากภายนอกโรงพยาบาล ควรแจ้งประวัติโรคประจำตัวและรายชื่อยาที่ใช้อยู่แก่เภสัชกรหรือแพทย์ทุกครั้ง เนื่องจากยาปฏิชีวนะบางชนิดทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้ ควรงดออกกำลังกายพักผ่อนให้เพียงพอ อาการที่ควรมาโรงพยาบาล ได้แก่ มีไข้ 2 วันแล้วยังไม่ทุเลา หรือมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง รับประทานอาหารไม่ได้เลยนานกว่า 6 ชั่วโมง ตรวจพบคีโตนในปัสสาวะ (ระดับปานกลางหรือตั้งแต่ 2+ ขึ้นไป)ระดับน้ำตาลจากเลือดปลายนิ้วก่อนอาหารมากกว่า 240 มก./ดล. แม้ปรับยากินหรือยาฉีดอินซูลินแล้ว มีอาการของภาวะขาดน้ำเช่น ริมฝีปากแห้งแตก หรืออาการรุนแรงเช่น หอบเหนื่อย แน่นหน้าอก หายใจมีกลิ่นผลไม้และสิ่งที่ผู้ป่วยต้องเตรียมข้อมูลเมื่อมาพบแพทย์ คือ รายชื่อยา อาการเจ็บป่วย ปริมาณอาหารที่กินได้ น้ำหนักตัวปกติ และระดับน้ำตาลในเลือดช่วงเจ็บป่วยมาด้วยเพื่อให้แพทย์วินิจฉัย

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

อนุทิน ลงนามเปิดจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 บึงกาฬ-บอลิคำไซ เริ่มพรุ่งนี้

พ่อใจสลาย บ้านของขวัญลูก11เดือน ถูกเขมรยิง BM-21 พังทลายในพริบตา

กลิ่นหึ่งโรงพัก! สาวแสบพกไอซ์-ยาบ้า เยี่ยมผัวหน้าห้องขัง หวังให้เสพแก้ลงแดง

กัมพูชายอมถอย! เลิกตื๊อคุยมาเลย์ ยอมมาคุยจันทบุรี ไทยย้ำเงื่อนไขเหล็ก 3 ประการ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved