วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568
มูลนิธิประชาธิปก-รำไพพรรณี ได้จัดทำ เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ในรัชสมัยรัชกาลที่ 7 ออกมาชุดหนึ่ง ใช้ชื่อว่า “มองอดีตเล็งอนาคต : การปฏิรูปในสมัยรัชกาลที่ 7”มีด้วยกัน 6 เล่ม ซึ่งทั้ง 6 เล่มถือเป็นงานวิจัยของมูลนิธิ เขียนโดยนักวิชาการที่แตกต่างกันไป มีเนื้อหาในเชิงวิเคราะห์ภูมิหลังและภาพรวมของประวัติศาสตร์ในยุคสมัยของพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 โดยการค้นหาจะอยู่ในกรอบของแนวคิดหลักคือ ความต่อเนื่องในการเปลี่ยนแปลงของรัชสมัย, การพัฒนาการในประเทศจากบริบททั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยไม่เน้นในเรื่องของการเมือง แต่มุ่งเน้นในภาคส่วนของ เศรษฐกิจ การศึกษา สังคม และวัฒนธรรม ดังต่อไปนี้
“เรื่องเศรษฐกิจไทยในสมัยรัชกาลที่ 7” เขียนโดย “พอพันธ์ อุยยานนท์”บอกเล่าให้ทราบถึงการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจแบบอนุรักษ์นิยม
“เรื่องการศึกษาในสมัยรัชกาลที่ 7” เขียนโดย “เปรมา สัตยาวุฒิพงศ์” บอกเล่าถึง การดำเนินงานด้านการศึกษาที่สืบต่อเนื่องมาจากการปฏิรูปการศึกษาในรัชสมัยของรัชกาลที่ 5
“เรื่องการต่างประเทศในสมัยรัชกาลที่ 7” เขียนโดย “ธีระ นุชเปี่ยม” บอกเล่าให้รู้ถึง ตัวตนของคนไทยในสายตาของชาวต่างประเทศ
“เรื่อง ฝรั่งมองไทย ในสมัยรัชกาลที่ 7” เขียนโดย “ธีระนุชเปี่ยม” บอกเล่าถึงการรับรู้ของชาวต่างชาติที่มองเห็นคนไทยในยุคนั้น
“เรื่องประชาธิปกกาลสมัย ในกระแสการประวัติศาสตร์” เขียนโดย “วีรวัลย์ งามสันติกุล” กล่าวถึงความเปลี่ยนแปลงของสยามประเทศในช่วง 9 ปีแรก
“เรื่อง ฝรั่งเศสส่องสังคมสยามในรัชกาลที่ 7” เขียนโดย “ประหยัด นิชลานนท์/รัชาพร ฤทธิจันทร์ เป็นภาพของประเทศสยาม และชาวสยามในสายตาของคนฝรั่งเศส
หนังสือชุดนี้ ทั้ง 6 เล่ม นอกจากจะให้ความรู้ความเข้าใจในช่วงเวลาหนึ่งของประเทศไทยแล้ว ยังเป็นหนังสือที่ คนไทยทุกคนควรจะได้เรียนรู้เพื่อให้เข้าใจประเทศไทยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
.jpg)
ทำปัญหารักให้เป็นความเข้าใจ
จากคำถามของแฟนเพจนับแสน
“ตื่นเถอะค่ะ! ชะนีขา” เขียนโดย“หมอตุ๊ด” หรือ
นายแพทย์อุเทน บุญอรณะ ราคา 99 บาท เป็นเรื่องราวของการตอบข้อข้องใจในปัญหาเรื่องรักๆ ใคร่ๆ จากแฟนเพจ “หมอตุ๊ด” ที่มีผู้ติดตามกว่า 2 แสนคน เนื้อเรื่องจะมาจากคำถามยอดฮิตที่หลายคนที่มีปัญหาเรื่องรักมักประสบพบเจอแล้วถามมา เพื่อขอคำตอบ อาทิ “ทำไมเขาหายไปคะ?” “เขาชอบหนูจริงๆ หรือเปล่า?” “ทำไมเขาต้องหลอกหนู?” หรือ “ทำยังไงหนูถึงจะลืมเขาสักที?” โดยหมอตุ๊ดจะตอบแบบเล่าเรื่องที่มีทั้ง อรรถรสความบันเทิง อาจมีสำนวนจิกกัดบ้างเล็กน้อย ผสมกับความรู้ทางการแพทย์ที่มีประโยชน์ ตบท้ายด้วยคำแนะนำที่จริงใจ แล้วทุกปัญหารักที่หนักใจ จะกลายเป็นเรื่องฮาๆ เปลี่ยนจากคำว่า “ทำไม” เป็นคำว่า “เข้าใจ”
.jpg)
เปิดเคล็ดลับง่ายๆ ให้เด็กกินอาหารได้อร่อย
จากครอบครัวพุงกะทิที่รักษาห่วงใยสุขภาพ
“ครอบครัวพุงกะทิ” เป็นหนังสือการ์ตูนสำหรับเด็กที่อ่านสนุกให้ความรู้ในเรื่องของการกินและการรักษาสุขภาพ เขียนโดยนักเขียนชาวเกาหลี แปลเป็นไทยโดย “จิราวรรณมาลองฟองท์” จำหน่ายเล่มละ 158 บาท เนื้อหาจะกล่าวถึง การนำเสนอเคล็ดลับให้บรรดาพ่อแม่ที่มีลูกกินอาหารยาก และไม่ชอบกินอาหารที่มีคุณภาพต่อร่างกาย ให้หันมาสนใจกับการกินอาหารที่ดี มีประโยชน์ต่อร่างกาย ด้วยภาพการ์ตูนพร้อมเรื่องราวที่สนุกสนานให้เด็กต้องติดตามอ่าน และได้ความรู้ ความเข้าใจติดตัวมาว่า อาหารที่อร่อยและมีสุขภาพที่ดีต่อร่างกายนั้นเป็นเช่นไร
.jpg)
พบกับความสำเร็จแม้ชีวิตจะติดอยู่ในกรอบ
ด้วยความมุ่งมั่น อดทนทำให้เธอพบแสงสว่าง
“ชีวิตที่ไม่ได้เลือกของสายสุดา” เขียนโดย “ศรีสมรมณีรัตน์” เป็นเรื่องของหญิงสาวที่ ไม่มีอิสรภาพในการดำรงชีวิต เพราะต้องอยู่ในกรอบและกฎเกณฑ์ที่ผู้ใหญ่วางเอาไว้ให้เธอเดิน ไม่ว่าจะเป็นการ หาคู่ครอง การดำเนินชีวิต แต่ด้วยความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ที่เธอจะก้าวขึ้นไปหาความสุขให้กับตัวเองให้ได้ แม้จะต้องอยู่ภายใต้กรอบที่เข้มงวด และสุดท้ายด้วยความมานะอดทน เธอก็สามารถก้าวพ้นปัญหาต่างๆ ขึ้นไปพบกับความสำเร็จของชีวิตได้ ทั้งในเรื่องของความรัก การดำเนินชีวิต และการวางอนาคตให้กับตัวเอง จำหน่ายเล่มละ 185 บาท
.jpg)
สองพิสดาร ตำนานยุทธ์ เล่มจบ
ปิดตำนานกลียุคที่ทำให้เกิดผู้กล้า
“สองพิสดาร ตำนานยุทธ์” จากบทประพันธ์ของ “เจิ้งฟง” แปลเป็นไทยโดย “กิตติพิรุณ” จำหน่ายเล่มละ220 บาท วางแผงเล่มที่ 6 ซึ่งเป็นเล่มจบบริบูรณ์ของนิยายเรื่องนี้ อันเป็นการปิดตำนานของจอมยุทธ์ผู้กล้าที่เกิดขึ้นมากมายในช่วงที่บ้านเมืองเกิดกลียุค จากนวนิยายจีนกำลังภายในเรื่องนี้ ส่งให้ชื่อเสียงของ เจิ้งฟง ได้รับการขนานนามจากนักอ่าน ว่า เขาคือ กิมย้งหญิง แห่งนวนิยายกำลังภายในของนักอ่านในยุคปัจจุบัน ธีมของเรื่องกล่าวถึง เรื่องราวของเด็กสองคนที่ต้องพบกับความเร้นแค้นของสังคมในช่วงแผ่นดินจีนเกิดกลียุค ที่บ่มเพาะให้เขาทั้งสองกลายเป็นวีรบุรุษคู่หนึ่งในประวัติศาสตร์จอมยุทธ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี