วันอาทิตย์ ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2568
สถาบันอยุธยาศึกษาน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ในโอกาสที่สถาบันอยุธยาศึกษาโดย ดร.จงกล เฮงสุวรรณ ได้นำคณาจารย์และนักวิชาการไปศึกษาดูงานด้านประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมอาเซียนที่อินโดนีเซียเมื่อวันที่๒๖-๓๐ตุลาคมที่ผ่านมานั้น คณะฯที่เดินทางไปครั้้งนี้ได้ร่วมกันน้อมสำนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ มหาสถูปโบโรบูดูร์ ( Chandi Borobudur) หรือ บาราบูดูร์ ในภาษาอินโดนีเซีย และ บุโรพุทโธหรือบรมพุทโธในภาษาไทย ซึ่งเป็นพุทธสถานที่พระองค์ได้เคยเสด็จมาทอดพระเนตรสถานที่แห่งนี้ในอดีต
พระบรมพุทโธหรือบูโรบูดูว์ แห่งนี้เป็นสถานศักด์สิทธิ์ของศาสนาพุทธนิกายมหายาน ที่มีชื่อเสียงของประเทศอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ภาคกลางของเกาะชวา บนที่ราบเกฑุ ทางฝั่งขวาใกล้กับแม่น้ำโปรโก ห่างจากยอกยาการ์ตาไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ๔๐ กิโลเมตร สร้างขึ้นโดยกษัตริย์แห่งราชวงศ์ไศเลนทร์ เป็นสถูปแบบมหายาน สันนิษฐานว่าสร้างราวคริสต์ศตวรรษที่ ๗-๘ หรือราว พุทธศักราช ระหว่างปี พ.ศ. ๑๒๙๓-๑๓๙๓ ตั้งอยู่ทางภาคกลางของเกาะชวา นับเป็นพุทธสถานแห่งเดียวที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้บุโรพุทโธเป็นแหล่งมรดกโลกเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๔ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่๑๕" ที่เมืองคาร์เทจ ประเทศตูนิเซียภายใต้ชื่อ "กลุ่มวัดบูโรบูดูร์”ที่ เป็นตัวแทนในการแสดงผลงานชิ้นเอกที่จัดทำขึ้นด้วยการสร้างสรรค์อันชาญฉลาดของมนุษย์ เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลยิ่ง ผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อมาในด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ประติมากรรม สวน และภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้อง หรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือบนพื้นที่ใดๆ ของโลกซึ่งทรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมและ มีความคิดหรือความเชื่อที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์ หรือมีความโดดเด่นยิ่งในประวัติศาสตร์
.jpg)
สถาบันอยุธยาศึกษาน้อมสำนึกในพระมหากรุณา
มหาสถูปของพุทธสถานแห่งนี้สร้างขึ้นด้วยหินภูเขาไฟประมาณ ๒ ล้านตารางฟุต มีลักษณะเป็นสถูปขนาดใหญ่ที่มีรูปทรงแบบปิรามิด ตั้งบนฐานสี่เหลี่ยม กว้างด้านละ ๑๒๑ เมตร สูง ๔๐๓ ฟุต มีลานเป็นชั้นลดหลั่นกัน ๘ ชั้น และชั้นจำนวนทั้ง๘ นั้นได้ให้๕ ชั้นล่างมีบริเวณลาน ๔ เหลี่ยม ส่วน๓ชั้นบนเป็นลานวงกลม สามวงล้อมรอบยอดสถูปที่อยู่ตรงกลางและบนลานกลมชั้นสูงสุดนั้นมีสถูปตั้งสูงต่อขึ้นไปอีก ๓๑.๕เมตร นับ เป็นมหาสถูปที่มีระเบียงซ้อนกันเป็นชั้นๆลดหลั่นตามลำดับตกแต่งภาพสลัก ๒๖๗๒ ชิ้น และ พระพุทธรูป ๕๐๔ องค์ สำหรับ มหาสถูปหรือโดมกลางชั้นบนสุดเป็นอรูปภูมินั้นล้อมรอบด้วยพระพุทธรูป๗๒ องค์(พระมหาไวโรจนะ) โดยให้พระพุทธรูปปางธรรมจักรมุทรานั้นอยู่ภายในเจดีย์โปร่งที่เจาะช่องเป็นรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ซึ่งตั้งรอบล้อมสถูปที่ตั้งอยู่บนสุด ชั้นบนสุดของมหาสถูปนี้ถือว่าเป็นส่วนยอดสุดของวิหาร มีลักษณะเป็นฐานวงกลมใหญ่ของเจดีย์ประธาน ที่มีลักษณะเป็นดอกบัวขนาดใหญ่ อยู่กลางหุบเขา หรือจักรวาล ซึ่งเป็นส่วนที่ไม่มีภาพสลัก ปรากฏเพื่อแสดงให้รู้ว่าได้หลุดภพภูมิตามลำดับชั้นคือ กามภูมิ (มนุษิพุทธ) รูปภูมิ(ธยานิพุทธ) และอรูปภูมิ(อาทิพุทธ) มาแล้วจนถึงชั้นสูงสุดของพุทธศาสนา เป็น นิพพาน โดยเฉพาะภาพสลักที่ลานประทักษิณนั้นแสดงภาพของภพภูมิอย่างน่าสนใจ กล่าวคือชั้นล่างสุดเป็นเรื่องของมนุษย์ภูมิจากคัมภีร์กรรมวิภังค์และชั้น๑เป็นพุทธประวัติฝ่ายมหายานของพระศากยมุนีคือลลิตวิสตระ ชั้น๒-๔ เป็นชั้นอรูปภูมิแสดง เรื่อง พระสุธนมุ่งหวังตรัสรู้จากโพธิสัตว์องค์สำคัญเช่น พระไมเตรยะ พระอวโลกิเตศวร พระมัญชุศรี เป็นต้นจาก”คันธวยุหสูตร”โดยมีพระธยานิพุทธประดิษฐานในซุ้มประจำทิศ ซึ่งต้องขอขอบคุณ ช่างภาพมือดี ธนิสร เพชรถนอม ผู้ร่วมเดินทางไปบันทึกข้อมูลด้วยกันในสถานที่เป็นปฐมภูมิแห่งพุทธสถานสำคัญซึ่งเป็นต้นแบบของพุทธสถานในประเทศอาเซียน
.jpg)
บูโรบูดูร์
.jpg)
บูโรบูดูร์
.jpg)
เสด็จบูโรบูดูร์
.jpg)
เจดีย์รอบลานวงกลม
.jpg)
ช้้นล่างสุดของบูโรบูดูร์
.jpg)
พระพุทธรูปในซุ้ม
.jpg)
พระพุทธรูปรอบฐานสี่เหลี่ยม
.jpg)
ภาพสลักในชั้้นประทักษิณ
.jpg)
.jpg)
มหาสถูปแห่งพุทธสถาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี