ในแวดวงธุรกิจระดับแนวหน้าของประเทศไทย “กลุ่มไมด้า” ของตระกูล “เอี้ยวศิวิกูล”เป็นหนึ่งกลุ่มธุรกิจเล็กๆ จาก จ.นครปฐมมีการเติบโตมาแบบก้าวกระโดดจากธุรกิจลิซซิ่งมาสู่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่ง วิสูตร เอี้ยวศิวิกูลได้รับความไว้วางใจให้นั่งเก้าอี้ CEO ของ บริษัท ไมด้า แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) ที่รุกคืบธุรกิจโรงแรม ล่าสุดเพิ่งจัดงานเปิดตัว เรดิสัน บลูรีสอร์ท หัวหิน โรงแรมหรูระดับห้าดาวแห่งแรกในเครือไมด้าที่ใช้เชนระดับโลกเข้ามาบริหาร
การได้เจอตัวผู้บริหารระดับสูงขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเจ้าตัวไม่ค่อยยอมออกสื่อเท่าไหร่นักพอสบโอกาสจึงขอเวลาสั้นๆ มานั่งพูดคุยทำความรู้จักกับผู้ชายที่ชื่อ วิสูตร เอี้ยวศิวิกูล
เพราะความเป็นตระกูลดังของจ.นครปฐมนามสกุล “เอี้ยวศิวิกูล” จึงถูกมองว่าเป็น “กลุ่มอิทธิพล” ที่หลายคนหวั่นเกรง คำถามแรกที่เลือกมาว่าเขารู้สึกอย่างไรที่ใครๆ ก็มองว่าเป็นผู้มีอิทธิพล
“เราเป็นนักธุรกิจธรรมดาๆ ไม่ได้มีอิทธิพลอะไร เราไม่ใช่นักเลงหรืออันธพาล แต่พื้นเพของเราคือเป็นคนนครปฐม พี่โต้ง-กมล คือผู้ก่อตั้งกลุ่มไมด้า ก็เริ่มจากทำธุรกิจเล็กๆ แล้วมันก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ขยายไปสู่ธุรกิจอื่นๆ แต่มีพี่น้องบางคนที่ลงเล่นการเมืองท้องถิ่น คนก็จับเอาสองด้านนี้มารวมกันแล้วบอกว่านามสกุลเรามีอิทธิพล แต่จริงๆ คือเราก็ทำธุรกิจไปตามปกติ ไม่ได้เอาการเมืองมาเกี่ยวข้อง”
ในข้อนี้ วิสูตร ยกตัวอย่างให้ภาพชัดเจนด้วยการทำงานของตัวเอง เพราะนอกจากเป็น CEO แล้ว อีกหนึ่งบทบาทเขาคือ กำนันตำบลลำพยา อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งเขาก็ทำงานทั้งสองหน้าที่นี้ควบคู่กันมานานเกือบ 20 ปี แล้ว
“ในฐานะกำนัน ผมคือเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชนในพื้นที่ให้เขาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เป็นงานที่ต้องเสียสละ ต้องอุทิศตน งานหลักๆก็เป็นการประชุมรับมอบนโยบาย คอยติดตามผลการทำงานให้เป็นไปตามนโยบายที่เราได้รับมา เวลาชาวบ้านมีงานอะไรเราก็ต้องไปเป็นประธาน เพราะว่ากำนันคือเจ้าหน้าที่รัฐที่อยู่ใกล้ตัวเขาที่สุด
ส่วนเรื่องธุรกิจ ต้องยอมรับความจริงอย่างว่าเงินเดือนเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรืองานราชการ ที่ไม่ใช่ตำแหน่งสูง อย่างผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ตำแหน่งเล็กๆ อย่างผมเงินเดือนก็ค่าแรงขั้นต่ำ ไม่ได้มากมาย ก็ต้องมีอาชีพเสริมเพื่อเลี้ยงครอบครัวกันทั้งนั้น อย่างผมอาจจะโชคดีหน่อยที่มีธุรกิจ แต่ผมไม่เอาธุรกิจมาปะปนกับงานราชการ ผมถือคติความซื่อสัตย์เป็นหลัก เป็นสิ่งที่พ่อแม่สอนมาตลอด เรามาทำงานรับใช้ประชาชนก็ต้องทำงานจริงจังไม่หวังผลประโยชน์ เสร็จจากงานราชการก็ไปทำธุรกิจแค่นั้นเอง”
ในส่วนของธุรกิจซึ่งปัจจุบันเข้าตลาดหลักทรัพย์ เป็นบริษัทจำกัดมหาชน หน้าที่หลักของ วิสูตร จึงเป็นเรื่องของการดูแลภาพรวมให้ธุรกิจดำเนินไปตามนโยบาย ซึ่งวิสูตรพูดติดตลกว่าดูเหมือนจะเป็นงานสบายแต่สำหรับที่ไมด้า แอสเซ็ท เป็นงานหนัก
“ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ถ้าเป็นพวกคอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร ก็ค่อนข้างชะลอ แต่ธุรกิจโรงแรมยังไปได้สวยอยู่ เพราะการท่องเที่ยวยังเป็นจุดแข็งของประเทศไทยอยู่ ปัจจุบันไมด้ามีโรงแรมที่ใช้ชื่อไมด้ามีทั้งหมด 8 แห่ง เราเพิ่งจะลุยธุรกิจโรงแรมในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี่เอง กับน้องใหม่ล่าสุดในเครือไมด้า เรดิสัน บลู รีสอร์ทหัวหิน เป็นแห่งแรกที่ใช้เชนเข้ามาบริหาร เรียกว่าเป็นโรงแรมระดับห้าดาวแห่งแรกของไมด้าด้วย เนื่องจากเรามองเห็นศักยภาพของเรดิสัน บลู ที่เชื่อมั่นว่าจะบริหารจัดการได้ตามเป้าหมายที่วางไว้”
ทุกวันนี้ วิสูตร ใช้เวลาทำงานหกวันต่อสัปดาห์ วันอาทิตย์ เป็นวันพักผ่อนที่ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและการออกกำลังกายกับกีฬาโปรดอย่างกอล์ฟ และมีของสะสมคือ พระเครื่อง
“มีไม่มากครับประมาณสองร้อยองค์ แต่ก็ไม่ใช่เซียนพระนะ เพียงแต่เวลาที่เอามาขัดๆ บ้างก็เพลินดี ส่วนใหญ่เป็นพระที่ผมบูชามาบ้าง คนรู้จักนำมามอบให้บ้าง บางคนก็เอามาฝาก แต่ผมจะถือว่าถ้าอยู่ในมือผมแล้วผมไม่ปล่อย จะดังหรือไม่ดังก็ตาม ราคาสูงสุดที่บูชามาก็แค่หลักหมื่น ที่พอจะมีชื่อเสียงก็เป็นพระเครื่องของนครปฐมบ้านเกิด อย่างเช่น หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา”
หลักในการชีวิตของ CEO แห่ง ไมด้า แอสเซ็ท วิสูตร บอกว่า ใช้หลักง่ายๆ คือ ความพอเพียง
“อย่างครอบครัวผมมีภรรยา ลูกสาว ลูกชาย คำว่าพอคือ เราไม่เจ้าชู้ ทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัว ดูแลให้ทุกคนครอบครัวสุขสบายเท่าที่จะทำได้ ในด้านการทำงานราชการก็คือซื่อสัตย์สุจริต ในด้านธุรกิจเราก็ทำธุรกิจอย่างตรงไปตรงมา เราไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง หลายคนมองมาทำธุรกิจระดับนี้ เป็นผู้บริหาร ต้องขับรถหรูราคาแพง ก็ไม่นะ ผมก็ใช้รถยี่ห้อธรรมดาๆใช้ชีวิตเรียบง่าย เพราะเรารู้จักพอ เมื่อรู้จักพอปัญหาก็จะไม่เกิด
จากเด็กนครปฐมที่เกิดมาจากครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวย แต่พ่อแม่ให้ความสำคัญในเรื่องการศึกษาส่งเสริมให้ลูกๆ ได้เรียนหนังสือ ร่วมกับพี่โต้ง-กมลช่วยกันทำธุรกิจจนมาถึงจุดนี้ได้ มาถึงวันนี้สำหรับผมก็พอใจแล้วนะ ถ้าถึงวันที่ต้องเกษียณ คือ มีคนที่ไว้ใจได้มาทำงานแทนผมก็หยุดทำงาน ไม่คิดจะเล่นการเมืองด้วย อยากพักผ่อนจริงๆ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี