เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เบตาดีน โทรตแคร์ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ชวนเหล่าคุณแม่ดูแลสุขภาพทางเดินหายใจลูกวัยซน ให้พร้อมสนุกกับทุกกิจกรรมสนุกๆ ในทุกสภาพอากาศ
ท่ามกลางอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยๆ ในประเทศไทยทำให้โอกาสเกิดการเจ็บป่วยในปัจจุบันนั้นมีเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะกับเด็กๆ ที่มักจะป่วยกันบ่อยๆ ตามสภาพอากาศที่แปรปรวน หนึ่งในโรคที่พบว่าเด็กๆ จะป่วยกันมากคือโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นปัญหาที่คุณแม่ๆ กังวลใจกันมากเป็นอันดับต้นๆ เบตาดีน® โทรตแคร์ ชวนบรรดาคุณแม่ มาเรียนรู้วิธีการดูแลสุขภาพทางเดินหายใจให้ลูกๆ เตรียมความพร้อมสำหรับทุกกิจกรรมสนุกๆ ในทุกสภาพอากาศ
ผศ.นพ.อาชวินทร์ ตันไพจิตร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโสตศอนาสิก ให้ข้อมูลว่า โรคระบบทางเดินหายใจที่พบได้บ่อย คือโรคที่เกิดจากการติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน เช่น หวัด ไข้หวัดใหญ่ ทอนซิลอักเสบ คอหอยอักเสบ กล่องเสียงอักเสบ หรือการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง เช่น หลอดลมอักเสบ ปอดบวม เป็นต้น ทั้งหมดนี้เป็นโรคที่หลายคนก็คงคุ้นเคยเป็นอย่างดี และสามารถติดต่อกันได้ โดยเฉพาะโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนบน ซึ่งการติดต่อกันนั้น สามารถติดต่อได้โดย ไอ จาม หรือสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วย เช่น น้ำมูก น้ำลาย ที่มีเชื้อโรคปนอยู่ ซึ่งการสัมผัสอาจจะสัมผัสโดยตรง หรือ สัมผัสทางอ้อมผ่านทางของใช้ แก้วน้ำ ช้อน ส้อม เป็นต้น
“โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจนั้นมากกว่าร้อยละ 80 ของผู้ใหญ่และเด็กเล็กนั้น มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัส รองลงมาคือแบคทีเรีย แต่ปัจจุบันนั้นเป็นที่น่ากังวลว่าคนจำนวนไม่น้อยนิยมใช้ยาปฎิชีวนะกันอย่างพร่ำเพรื่อ เพราะแท้จริงแล้วยาปฎิชีวนะนั้นจะฆ่าเฉพาะเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่สาเหตุหลัก และไม่เป็นประโยชน์แต่อย่างใดในกรณีติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุหลักของการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ ทั้งอาจจะส่งผลเสียต่อตัวผู้ป่วย โดยอาจเกิดผลข้างเคียงเช่น ผื่น ท้องเสีย หรือแพ้ยา อีกทั้งยังส่งผลต่อการดื้อยาของเชื้อแบคทีเรียให้เพิ่มมากขึ้น”
ทั้งนี้ การรักษาที่ถูกต้อง แบ่งเป็น 2 แนวทาง การรักษาประคับประคองตามอาการ เช่น ทานยาลดไข้ ยาลดน้ำมูก ยาบรรเทาอาการไอ
หรือการใช้สเปรย์พ่นคอสำหรับผู้ป่วยบางราย อย่างที่เราทราบว่าสาเหตุของการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนต้นเกิดจากไวรัส ดังนั้น การรักษา
ประคับประคองตามอาการจึงเป็นการรักษาส่วนใหญ่สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนต้น ยกเว้นกรณีของไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่อาจจะมีการให้ยาต้านไวรัสร่วมด้วย ขณะที่อีกแนวทางคือ การรักษาตามสาเหตุ ในกรณีที่สาเหตุของการติดเชื้อเกิดจากแบคทีเรีย แพทย์อาจเลือกใช้ยาปฏิชีวนะได้
ด้าน วราวรรณ จันทรสมบูรณ์ รองผู้อำนวยการแผนกคอนซูเมอร์ บริษัท มุนดิฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด ที่มาพร้อมผลิตภัณฑ์ใหม่ เบตาดีน โทรตสเปรย์ (BETADINE THROAT SPRAY) และ เบตาดีน การ์เกิล (BETADINE GARGLE) กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโทรตแคร์ทั้งสองแบบนี้ มีส่วนผสมสำคัญคือตัวยาโพวิโดน-ไอโอดีน ที่สามารถฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ได้ในวงกว้าง ทั้งไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อรา ใช้สำหรับรักษาอาการระคายคอ เจ็บคอ ความรู้สึกไม่สบายที่คอ หากใช้ตั้งแต่เริ่มมีอาการป่วย ก็จะป้องกันการลุกลามของการติดเชื้อได้ โดยสามารถใช้กับเด็กตั้งแต่อายุ 6 ขวบขึ้นไป
“การใช้สเปรย์พ่นคอ และการกลั้วคอ เป็นอีกหนึ่งในวิธีการดูแลตัวเองเมื่อเริ่มมีอาการป่วย อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยเองก็ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ใช้หน้ากากอนามัย เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อ ปิดปากและจมูก เมื่อ ไอ จาม ดื่มน้ำให้เพียงพอแยกของใช้ส่วนตัว เช่นผ้าเช็ดหน้า แยกภาชนะสำหรับบริโภค เช่น แก้วน้ำ ช้อน ส้อม และงดไม่สูบบุหรี่ หากอาการยังไม่ดีขึ้นก็ควรไปพบแพทย์”
ด้าน คุณแม่เกศราภรณ์ เอี่ยมศิริธนากร ที่ควงคู่มากับ น้องมะลิ เล่าให้ฟังว่า “กิจกรรมที่น้องมะลิชอบก็คือ การเล่นกีฬากับร้องเพลง การดูแลสุขภาพจึงสำคัญมากๆ เพราะเวลามะลิป่วย เขาก็จะหมดสนุก โดยเฉพาะการร้องเพลง เพราะว่าถ้าไอ เจ็บคอ หรือเป็นหวัด เขาก็จะใช้เสียงได้ไม่เต็มที่ วันนี้ก็ได้ทราบวิธีการดูแลที่ถูกต้องและจะได้นำไปใช้แน่นอน”
ส่วนคุณแม่ลูกสาม นันทนัช มงคลรัตนชาติ แชร์ประสบการณ์ให้ฟังว่า “ลูกชายคนโตเป็นนักกีฬาของโรงเรียน ชอบเล่นบาสและตีกอล์ฟมาก อีกกีฬาที่เขาชอบก็คือ ฮอกกี้น้ำแข็ง มีการซ้อมเกือบทุกวัน ส่วนลูกชายคนเล็กก็เริ่มชอบเล่นฮอกกี้น้ำแข็งตามพี่ชายไปแล้ว ส่วนลูกสาวคนกลางก็มีความชอบหนีไม่พ้นความหนาวเย็นเช่นกันนั่นก็คือ ไอซ์สเก็ต ลูกทั้งสามคนไม่ค่อยมีปัญหาสุขภาพ เพราะเป็นนักกีฬา ออกกำลังกายเป็นประจำอยู่แล้ว ส่วนคุณแม่ก็จะดูแลเรื่องอาหารเป็นหลัก ให้เขาทานอาหารที่มีประโยชน์ทั้งมื้อหลักและของทานเล่น ส่วนที่กังวลก็เป็นเรื่องการเจ็บป่วยจากอากาศที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาชอบเล่นกีฬาที่อยู่บนลานน้ำแข็งและอากาศเย็นก็ต้องใส่ใจเรื่องนี้มากๆ คอยสังเกตเขาว่ามีอาการที่ฟ้องว่ากำลังจะป่วยหรือเปล่า”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี