วันอังคาร ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
เรื่องควรรู้...โรคติดเชื้อ  ภายหลังการปลูกถ่ายอวัยวะ

เรื่องควรรู้...โรคติดเชื้อ ภายหลังการปลูกถ่ายอวัยวะ

วันอังคาร ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.
Tag : ปลูกถ่ายอวัยวะ โรคติดเชื้อ
  •  

การปลูกถ่ายอวัยวะ เป็นศาสตร์ทางการแพทย์ที่มีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา โดยในปัจจุบันสามารถทำการปลูกถ่ายอวัยวะได้หลายส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น หัวใจ ปอด ตับ ไต เป็นต้น ซึ่งศาสตร์ของการปลูกถ่ายอวัยวะถือว่าเป็นความสำเร็จสำคัญทางการแพทย์ที่ทำให้ผู้ป่วยมีชีวิตอยู่ได้ยาวขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตามปัญหาสำคัญที่พบภายหลังการปลูกถ่ายอวัยวะ คือ ภาวะติดเชื้อ ซึ่งถือได้ว่าเป็นภาวะแทรกซ้อนสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะทุพพลภาพหรือเสียชีวิตได้

สำหรับในประเทศไทย ไต (kidney) เป็นอวัยวะที่มีการปลูกถ่ายมากที่สุด ไตเป็นอวัยวะหนึ่งในระบบปัสสาวะ และเป็นอวัยวะสำคัญไม่แพ้สมองและหัวใจ ไตเปรียบเสมือนเครื่องกรองสุดพิเศษ ทำหน้าที่กรองน้ำ เกลือแร่ รักษาระดับน้ำและสารเกลือแร่ในร่างกายรวมถึง คัดสารเคมีส่วนเกิน สารคัดหลั่ง ของเสียต่างๆ ออกจากร่างกาย โดยขับออกมาในรูปของน้ำปัสสาวะ ปกติแล้วคนเราจะมีไตอยู่สองข้างซ้ายขวา ทว่าไตเพียงข้างเดียวก็เพียงพอในการทำหน้าที่ได้เช่นกัน แต่หากไตทำหน้าที่ผิดปกติไป จนเกิดภาวะไตวายเรื้อรัง ทางออกหนึ่งนอกจากการฟอกเลือดก็คือ การเปลี่ยนไต


รศ.พญ.สิริอร วัชรานานันท์ อายุรแพทย์ที่ปรึกษาด้านโรคติดเชื้อภายหลังการปลูกถ่ายอวัยวะ โรงพยาบาลพระราม 9 ให้ข้อมูลว่า จากรายงานของสมาคมปลูกถ่ายอวัยวะแห่งประเทศไทย พบว่าปัญหาการติดเชื้อถือว่าเป็นภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญที่สุดอันหนึ่ง ภายหลังจากการผ่าตัดปลูกถ่ายไต ซึ่งไม่แตกต่างจากรายงานทางการแพทย์ของประเทศอื่น ศาสตร์ทางด้านการติดเชื้อภายหลังการปลูกถ่ายอวัยวะ ถือได้ว่าเป็นเรื่องใหม่ทางการแพทย์ ที่มีรายละเอียดในการดูแล แตกต่างจากภาวะติดเชื้อในคนไข้ทั่วๆ ไป พบว่าการติดเชื้อในผู้ป่วยคนไทย แตกต่างจากผู้ป่วยทางตะวันตกภูมิประเทศ ภูมิอากาศ อุบัติการณ์ของโรคติดเชื้อในพื้นที่ ความเชื่อ การใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน

“ก่อนการปลูกถ่ายอวัยวะ ไม่ว่าจะเป็น ไตหรืออวัยวะอื่นๆ ควรจะมีการวางแผนในทีม เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ โดยควรจะมีการประเมินผู้ป่วยเป็นรายๆ ไป ตั้งแต่ก่อนการเปลี่ยนอวัยวะ เมื่อคนไข้เข้ามาพบแพทย์สิ่งแรกต้องมีการสกรีนและการทำความเข้าใจกับคนไข้ ทั้งในเรื่องการผ่าตัด และการรักษาภายหลังการปลูกถ่ายอวัยวะ โดยแพทย์โรคติดเชื้อ สามารถมีบทบาทในการช่วยประเมินความเสี่ยงและวางแผนในการป้องกันและรักษาโรคร่วมไปกับแพทย์ในทีม เบื้องต้นต้องมีการซักประวัติหรือตรวจสอบประวัติ การตรวจร่างกาย และการตรวจเลือดของผู้รับบริจาค (ขึ้นกับว่าผู้บริจาคมีชีวิตหรือเสียชีวิต) และรับบริจาค กรณีมีความผิดปกติจากการตรวจเบื้องต้นที่ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ แพทย์โรคติดเชื้อควรมีบทบาทในการช่วยวางแนวทางรักษาหรือตัดสินใจในการปลูกถ่ายอวัยวะด้วย การทำงานคัดกรองผู้ป่วยและอวัยวะว่ามีความพร้อมต่อการปลูกถ่ายหรือไม่นั้น พยาบาลผู้ประสานงานโครงการปลูกถ่ายอวัยวะต้องทำงานหนักตลอด 24 ชั่วโมง โดยการทำงานเป็นทีมร่วมกับทางทีมแพทย์ และได้รับความร่วมมือจากศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย และโรงพยาบาลผู้ให้บริจาค ในการประสานงานและให้ข้อมูลของผู้ป่วยที่เป็นประโยชน์ในการต้องเตรียมความพร้อมในทีม อย่างตลอดเวลา”

รศ.พญ.สิริอร วัชรานานันท์ 

ทั้งนี้ โดยทั่วไปการติดเชื้อในช่วง 6-12 เดือนแรกภายหลังการปลูกถ่ายอวัยวะนั้น อาจจะต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะถือว่าเป็นช่วงที่ร่างกายมีภูมิต้านทานต่ำกว่าช่วงอื่นๆ จากขนาดของยากดภูมิต้านทานที่สูงกว่าช่วงอื่นๆ เพื่อป้องกันการต่อต้านอวัยวะใหม่ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ง่ายและอาจจะมีความรุนแรงของการติดเชื้อที่สูงขึ้น เนื่องจากภูมิคุ้มกันในร่างกายที่ต่ำลง จะทำให้เชื้อโรคแบ่งตัวได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น โดยที่อาการนำในช่วงแรกของผู้ป่วยอาจจะน้อยมาก แต่ในทางตรงกันข้าม การดำเนินโรคอาจจะรวดเร็วจนถึงชีวิตได้ ทั้งนี้สาเหตุโรคติดเชื้อที่พบได้ อาจจะไม่ใช่เพียงแค่เชื้อแบคทีเรียเหมือนที่พบได้บ่อยในคนปกติ แต่กลับมีความเสี่ยงต่อเชื้ออื่นๆ ได้แก่ เชื้อไวรัส เชื้อรา เชื้อไมโคแบคทีเรียม เชื้อหนอนพยาธิ เชื้อโปรโตซัว หรืออาจจะเป็นเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อยาปฏิชีวนะหลายชนิด เป็นต้น ซึ่งระดับความรุนแรงของเชื้อแต่ละชนิดก็มีความแตกต่างกันออกไป การป้องกันการติดเชื้อจึงมีความสำคัญ ไม่ว่าจะด้วยการให้ยาป้องกัน การเจาะเลือดตรวจติดตามปริมาณเชื้อไวรัส และการวินิจฉัยโรคติดเชื้อเหล่านี้จึงจำเป็นต้องอาศัยผู้ชำนาญและห้องปฏิบัติการที่มีศักยภาพในการตรวจวิเคราะห์เชื้อได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด

นอกจากนี้ การให้ความรู้และแนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันการติดเชื้อในผู้ป่วยแต่ละรายก็เป็นสิ่งสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยหลายรายที่บ้านทำสวน หรือมีอาชีพทางการเกษตร ก็ต้องแนะนำการปฏิบัติตัว ว่าจะทำอย่างไรเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่น สวมถุงมือยางและใช้ผ้าปิดปาก จมูก เพื่อป้องกันการติดเชื้อรา จากดิน ปุ๋ย หรือมูลสัตว์ปีก หรือคำแนะนำเรื่องการรับประทานอาหารที่ถูกสุขอนามัย และอาหารที่ปรุงสุกสะอาด ไม่ควรรับประทานผักดิบ ไข่ดิบ เพราะอาจมีเชื้อที่ติดมาและทำความสะอาดไม่หมด และการรับประทานยาอย่างเหมาะสมภายหลังจากการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ ผู้ป่วยอาจต้องรับประทานยาหลายชนิด โดยเฉพาะยาที่มีฤทธิ์ในการกดภูมิต้านทานของร่างกาย เพื่อป้องกันมิให้ร่างกายมีปฏิกิริยาต่อต้านไตใหม่ที่ได้รับ

ดังนั้น แพทย์จึงจำเป็นต้องพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับชนิดของยา รวมถึงวิธีรับประทานยาที่ถูกต้องรวมถึงผลข้างเคียงของยา ผู้ป่วยไม่ควรขาดยา โดยเฉพาะยากดภูมิคุ้มกัน และที่สำคัญเวลาไม่สบายไม่ควรไปซื้อยามารับประทานเอง หรือปรับขนาดของยารับประทานโดยที่แพทย์ไม่ได้สั่ง รวมถึงควรงดการกินอาหารเสริมบางอย่างที่ไม่ได้ปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะอาจจะมีผลเปลี่ยนแปลงระดับของยากดภูมิคุ้มกัน

ล่าสุด รศ.พญ.สิริอร วัชรานานันท์ หนึ่งในแพทย์ไทยที่เข้าร่วมเสวนาและแลกเปลี่ยนความรู้ในงานการปลูกถ่ายตับที่ National University of Singapore ประเทศสิงคโปร์ ศาสตร์ในเรื่องการปลูกถ่ายอวัยวะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และได้แชร์ประสบการณ์ความรู้เรื่องการติดเชื้อที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยไทย ทั้งปัจจัยเสี่ยงและการดำเนินโรค และก็ได้รับทราบข้อมูลว่า สิงคโปร์ได้เริ่มทำการปลูกถ่ายตับในผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีที่มีภาะวะตับวายจากตับอักเสบซีแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีและท้าทายที่ศาสตร์ของวงการนี้ได้เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยที่มีโรคซับซ้อนทางการแพทย์ได้มีโอกาสต่อชีวิตตัวเองได้ยืนยาวขึ้น โดยความร่วมมือของสหสาขาทางการแพทย์ สำหรับในประเทศไทย ได้มีการเริ่มการปลูกถ่ายอวัยวะอื่นๆ มากขึ้นในโรงเรียนแพทย์และมีการกระจายการปลูกถ่ายไตไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศมากขึ้น ภาวะแทรกซ้อนทางการติดเชื้อที่เป็นปัญหาที่สำคัญ จะสามารถลดทอนให้เบาลงได้ จากการป้องกัน การให้ความรู้กับผู้ป่วย การเข้าถึงการรักษาพยาบาลและรักษาได้ทันท่วงที

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

อุทยานฯเขาพระวิหารอ่วม ยันด้วยภาพความเสียหาย อาคารพังยับ-ระเบิดตกค้าง

เฉลยข้อสงสัย แก้วใส่น้ำเย็น ใส่ของปิ้งย่างได้ไหม

เที่ยงวันนี้ ครบ 72 ชม. กองทัพ กองทัพ พบ ทหารกัมพูชาเคลื่อนไหวในหลายพื้นที่

เท่าพิภพ กลับคำพูด สมัคร สส กทม เขต 33 แทน บุญฤทธิ์

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved