สำหรับคนที่ไม่รู้จักสาธารณรัฐอินเดีย หรือประเทศอินเดีย เมื่อได้ยินคำชวนว่าไปเที่ยวอินเดียกันไหม เกือบทุกคนจะแสดงอาการประหลาดใจ แล้วถามว่า ไปทำไม ไปดูอะไร อินเดียมีอะไรหรือ หรือบางคนที่วิตกจริตมากเกินไปก็จะบอกว่า ไม่เอาหรอก มีแต่ขอทาน แล้วสถานที่ต่างๆ ก็เต็มไปด้วยความสกปรก ไม่ไปหรอก
นั่นแสดงให้เห็นว่าผู้ตอบเช่นนั้นคงจะมีความรู้และความเข้าใจเรื่องราวของประเทศอินเดียไม่มากนัก แล้วก็คงจะได้รับแต่ข้อมูลซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริงมาโดยตลอด
ไม่มีใครปฏิเสธว่าอินเดียมีคนขอทานมาก แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าอินเดียมีมหาเศรษฐีลำดับที่ไม่เกิน 50 ของโลกอยู่ด้วย 2 รายคือ Mukesh Ambani อายุ 60 ปี ทำธุรกิจด้านปิโตรเคมีคอล น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และอีกรายคือ Dilip Shanghvi อายุ 62 ปี ทำธุรกิจด้านเภสัชกรรม และยังมีมหาเศรษฐีอีกมากมาย (ข้อมูลจาก Forbes list of Indian billionaires 2017)
อย่างไรก็ตาม การที่เราจะตัดสินใจไปเที่ยวอินเดียนั้นมิได้เกี่ยวกับความจนหรือความรวยของใคร แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการไปชมความงามด้านต่างๆ ของอินเดียมากกว่า ซึ่งก็ต้องบอกว่าอินเดียมีสถานที่ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากมายจริงๆ ส่วนผู้ที่ทราบประวัติศาสตร์ของอินเดียตั้งแต่ยุคโบราณช่วงประมาณ 1,500 ปีก่อนคริสตกาล ก็จะทราบว่าชาวดราวิเดียน และชาวอารยัน ได้เริ่มก่อกำเนิดอารยธรรมต่างๆ บนลุ่มแม่น้ำสินธุ ครั้งต่อมาในรัชสมัยของพระเจ้าอโศกมหาราช แห่งอาณาจักรเมารยะก็ได้สร้างความรุ่งเรืองให้กับอินเดียอย่างมาก โดยเฉพาะในด้านพุทธศาสนา ส่วนในสมัยราชวงศ์โมกุลก็ได้ขยายอิทธิพลของศิลปวัฒนธรรมโมกุลออกไปอย่างกว้างขวาง อาทิ ด้านการปกครอง ด้านภาษา ด้านศิลปะ และสถาปัตยกรรม จนกระทั่งศาสนาอิสลามได้เข้ามามีอิทธิพลเหนืออินเดียในยุคต่อมา ครั้นในคริสต์ศตวรรษที่ 17 อังกฤษเริ่มเข้าไปมีอิทธิพลในอนุทวีป โดยเริ่มจากการค้าขาย แล้วเปลี่ยนเป็นการครอบครองดินแดนอินเดียในที่สุด แต่สุดท้ายชาวอินเดียก็ได้ลุกขึ้นต่อต้านการปกครองของอังกฤษโดยการนำของมหาตมะคานธี จึงทำให้อินเดียได้รับเอกราช แล้วสถาปนาเป็นสาธารณรัฐอินเดีย ดินแดนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศประชาธิปไตยซึ่งมีประชากรมากที่สุดในโลก
เกริ่นมานาน สรุปว่าทริปนี้เราจะไปเที่ยวกรุงนิวเดลีกันครับ เริ่มกันที่ศูนย์กลางการเมืองการปกครองของอินเดียคือ ราษฎร์ปติภวัน (Rashtrapati Bhavan) คือทำเนียบประธานาธิบดีอินเดีย ที่แห่งนี้คือวังของอุปราชในยุคที่อังกฤษปกครองอินเดีย ภายในมีห้อง 340 ห้อง สร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อ ค.ศ.1929 เป็นสถาปัตยกรรมผสมระหว่างตะวันตกกับโมกุล จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือโดมเแบบอินเดียที่ทำด้วยทองแดงอยู่เหนือห้องโถง Durbar Hall ส่วนด้านหน้าของทำเนียบประธานาธิบดีนั้นเป็นอาคารทำการของหน่วยราชการสำคัญ นอกจากอาคารที่งดงามแล้วสถานที่แห่งนี้ยังมีสวนดอกไม้ที่ชื่อสวนโมกุล มีเนื้อที่ 350 เอเคอร์ (ประมาณ 886 ไร่) ส่วนปลายถนนที่อยู่ตรงกันข้ามกับทำเนียบประธานาธิบดีคือ India Gate หรือประตูเมืองอินเดีย ก่อสร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ทหารที่เสียชีวิตในสงครามสำคัญๆ ของอินเดีย ความสูงของประตูนี้คือ 42.3 เมตร ตรงกลางประตูมีกระถางหินทรายแดงที่จุดไฟลุกโชติช่วงตลอดเวลา ซึ่งจุดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475 มีจารึกภาษาฮินดีว่า อมรชวารชโยติ (แปลว่าความโชติช่วงของทหารผู้ไม่เคยดับสูญ)
จริงๆ แล้วในกรุงนิวเดลีมีที่เที่ยวอีกมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์มหาตมะคานธี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินเดีย ป้อมแดง (ลา ขีลา) ป้อมแดงใช้เป็นที่จัดพิธีวันประกาศเอกราชของอินเดีย (วันที่ 15 สิงหาคม) ป้อมแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังของพระเจ้าชาห์ เชฮัน แห่งราชวงศ์โมกุล ผู้ทรงให้สร้างทัชมาฮาล และสถานที่สำคัญอีกแห่งคือ กุตับมีนาร์ (Qutab Minar) คือหอสูงของพระเจ้ากุตับอุดดิน ไอบัก มีนาร์ (บางก็เรียกว่า ปฤถวีสตัมภ์) แรกเริ่มสร้างในรัชสมัยพระเจ้าปฤถวีราช ผู้ทรงนับถือฮินดู แต่ต่อมาในสมัยพระเจ้ากุตับอุดดิน ไอบัก ผู้ทรงนับถืออิสลามได้ทรงสร้างต่อเติม แล้วกษัตริย์ในยุคต่อ ๆ มาได้ทรงให้ต่อเติมอีกสองครั้ง จนถึงยุคกษัตริย์ฟิโรซ ชาห์ แห่งราชวงศ์ตุกลัขได้ทรงสร้างจนมีรูปลักษณ์ดังปรากฏในปัจจุบัน นับเป็นสถาปัตยกรรมผสมระหว่างฮินดูกับอิสลามที่ลงตัวมากที่สุด หอนี้สูง 238 ฟุต แบ่งเป็น 5 ชั้น มีบันได 379 ขั้น แต่ปัจจุบันห้ามเข้าไปในตัวหอ
ส่วนวัดสำคัญซึ่งเป็นของฮินดูคือ วัดลักษมีนารายัน สร้างเมื่อ พ.ศ.2481 สร้างเพื่อบูชาพระนารายณ์ และพระลักษมี และยังมีเทพองค์สำคัญอีกหลายองค์ประดิษฐานในวัดนี้ เช่น พระกฤษณะ พระพิฆเนศ และหนุมาน
และยังมีสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้เลยสำหรับผู้นิยมเดินตลาด นั่นก็คือ ตลาดจันปาท (Janpath) ซึ่งอยู่กลางกรุงนิวเดลี ใกล้กับ Central Park ตลาดนี้มีข้าวของสารพัดประดามีวางขายกันอย่างเอิกเกริก ชวนให้ซื้อหาเป็นยิ่งนัก สนนราคาก็เป็นไปตามใจคนขายและคนซื้อ เพราะสามารถต่อรองกันได้อย่างสนุกสนาน
ขอบอกตรงๆ ว่าอินเดียมีความน่าสนใจมากมายเกินจะบรรยายได้หมดในเวลาเพียงสั้นๆ เพราะฉะนั้นอย่ากลัวอินเดียเลยครับ ลองไปเที่ยวสักครั้งแล้วคุณจะติดใจ ไม่เชื่อลองดูนะครับ
หากสนใจไปเที่ยวอินเดียแบบได้สัมผัสอินเดียทุกแง่ทุกมุมที่ดีงามและประเทืองปัญญา โปรดติดต่อ Mr.Flower ที่ 091-7233615
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี