ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร พร้อมด้วย มร.โยชิฮิโระ ฮาชิโมโตะ, ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ และ มร.โรเบิร์ต อู ร่วมกันเปิดตัวภาพยนตร์ท่องเที่ยว 8K
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ ชาร์ป จัดงาน “เปิดตัวภาพยนตร์ท่องเที่ยว 8K” ภายใต้โครงการ “Amazing Thailand Amazing8K” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ในธีม “Changing the World with 8K” ซึ่งถ่ายทำโดยใช้กล้องวีดีโอเทคโนโลยีชาร์ป 8K ตัวแรกของโลก ที่ให้ภาพคมชัดเสมือนจริง และมีความละเอียดกว่าโทรทัศน์แบบ Full HD ถึง 16 เท่า โดยมีดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วย ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, มิสเตอร์ โยชิฮิโระฮาชิโมโตะ กรรมการผู้บริหาร สำนักงานประธานกรรมการ บริษัท ชาร์ป สำนักงานใหญ่ ร่วมงาน ณ ห้องโถง ชั้นล็อบบี้ อาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร
ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ภาพยนตร์ส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 8K เรื่องแรกของภูมิภาคอาเซียน จะเป็นปรากฏการณ์สำคัญในแวดวงการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว ที่สร้างประสบการณ์ใหม่ น่าตื่นตาตื่นใจ สร้างแรงบันดาลใจ และเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้ออกเดินทางมาชื่นชมความงดงามที่ไม่สิ้นสุดของเมืองไทย ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่างบริษัท ชาร์ป ไทย จำกัด และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภายใต้โครงการ “Amazing Thailand Amazing 8K” โดยการนำเทคโนโลยีล่าสุดของชาร์ป “8K Ecosystem” มาใช้ในการจัดทำภาพยนตร์ประชาสัมพันธ์ เพื่อช่วยนำเสนอภาพความสวยงามของประเทศไทยในมิติใหม่ ที่ให้ความคมชัดสูงสุดเสมือนจริงอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนซึ่งภาพยนตร์ดังกล่าวจะนำไปเผยแพร่ผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ต่างๆ ของ ททท. และผ่านจอภาพ SHARP AQUOS 8K Series ของชาร์ป ที่มีเครือข่ายเข้าถึงผู้บริโภคจำนวนมาก โดยเฉพาะในตลาดเอเชียและอาเซียน
มิสเตอร์ โยชิฮิโระ ฮาชิโมโตะ
ด้าน มิสเตอร์ โยชิฮิโระ ฮาชิโมโตะ กรรมการผู้บริหาร สำนักงานประธานกรรมการ บริษัท ชาร์ป สำนักงานใหญ่ เผยว่า ชาร์ป ได้ดำเนินการตามที่ประกาศวิสัยทัศน์ทางธุรกิจไว้ คือ “Changing the World with 8K” โดยคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดสำหรับโทรทัศน์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ ชาร์ป ได้ดำเนินงานมากกว่าครึ่งศตวรรษ นับตั้งแต่ได้มีการพัฒนาและเปิดตัวโทรทัศน์เครื่องแรกของประเทศญี่ปุ่นในปี ค.ศ.1953 สำหรับเทคโนโลยี 8K พบว่าภาพที่ปรากฏบนจอมีความใกล้เคียงและชัดเจนราวกับภาพจริงที่มองเห็นด้วยตาเปล่ามากที่สุด และเหตุผลที่เราเลือกประเทศไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียน ก็เพราะประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อีกทั้ง ยังมีวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์อันยาวนาน ที่อยากให้คนทั่วโลกได้รับรู้
กล้อง 8K ตัวแรกของโลกที่ใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์ท่องเที่ยวไทย
ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. เผยว่า ความร่วมมือในโครงการ “AmazingThailand Amazing 8K” ถือเป็นมิติใหม่ของการนำเทคโนโลยีชั้นนำแห่งอนาคตมาเป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว เพื่อนำเสนอภาพความสวยงามและเสน่ห์ของแหล่งท่องเที่ยว วิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรมในประเทศไทย โดยทีม ททท. และชาร์ป จากไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการถ่ายทำด้วยเทคโนโลยี 8K ได้ร่วมเดินทางไปบันทึกภาพบรรยากาศความสนุกสนานในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทย ในวันที่ 12-17 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา เช่น วัดโพธิ์ชัยจ.หนองคาย, วัดมหาธาตุ วัดไชยวัฒนาราม และวัดใหญ่ชัยมงคล อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา รวมไปถึงการเล่นน้ำสงกรานต์ที่ถนนข้าวสาร และถนนสีลม นอกจากนี้ ยังเดินทางไปบันทึกภาพในสถานที่มีความงดงาม และโดดเด่น เช่น วัดม่วง จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อใหญ่ พระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก พระพุทธไสยาสน์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พระปรางค์วัดอรุณราชวราราม และสีสันยามค่ำคืนของถนนเยาวราช ย่านราชประสงค์ ตลาดนัดรถไฟ รัชดา ซึ่งเสน่ห์เหล่านี้ถูกนำมาถ่ายทอดสู่สายตาผู้ชมในรูปแบบของภาพยนตร์ท่องเที่ยวความละเอียด 8Kที่ให้มิติของความคมชัดและความจัดจ้านครบถ้วนของเฉดสีต่างๆ สูงกว่าเทคโนโลยี Full HD ถึง 16 เท่า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี