สภากาชาดไทย เป็นองค์กรสาธารณกุศลของประเทศไทย เป็นที่พึ่งของผู้ด้อยโอกาส โดยเฉพาะที่ประเทศเกิดภัยพิบัติ สภากาชาดไทยจะเข้าไปมีบทบาทในการช่วยเหลือ บรรเทาทุกข์ โดยมีพันธกิจหลัก 4 ด้าน ได้แก่ การบริการทางการแพทย์และสุขภาพอนามัย การบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย การบริการโลหิต และการส่งเสริมคุณภาพชีวิต และเรามักจะได้เห็น “อาสากาชาด” คือ บุคคลที่มีจิตอาสาเข้ามาช่วยงานสภากาชาดไทยในยามที่ต้องการกำลังคน แต่เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะรู้ว่า สภากาชาดไทย รวมถึงสภากาชาดทั่วโลกยังมี “อาสายุวกาชาด” เยาวชนที่มีจิตอาสาเข้ามาเป็นกำลังสำคัญในกิจการสภากาชาดไทย ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ สำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย และ บีมายเกสท์ ฉบับนี้ “ธัญ ถาวร” ตัวแทนอาสายุวกาชาด จะพาเราไปรู้จัก “อาสายุวกาชาด” ให้มากขึ้น
ธัญ ถาวร หนุ่มน้อยหน้าใส กำลังศึกษาอยู่ที่คณะนิเทศศาสตร์ สาขามัลติมีเดีย ปี 3 มหาวิทยาลัยรังสิต และเขายังมีตำแหน่ง “รองกุลบุตรกาชาด ประจำปี 2555” อีกด้วย ธัญ เล่าให้ฟังถึงการได้มาเป็น “อาสายุวกาชาด” ว่า เมื่อเยาวชนชาย-หญิงที่มาสมัครคัดเลือกกุลบุตร-กุลธิดากาชาด ประจำปี 2555 นั้น ทุกคนจะต้องเขียนใบสมัครเป็น “อาสายุวกาชาด” อยู่แล้ว ไม่ว่าจะได้รับคัดเลือกให้เป็นกุลบุตร-กุลธิดากาชาดหรือไม่ก็ตาม ซึ่งในการทำหน้าที่กุลบุตร-กุลธิดากาชาด คือ การสร้างภาพลักษณ์ เป็นทูตในการประชาสัมพันธ์กิจการของสภากาชาดไทย แต่สำหรับการเป็นอาสายุวกาชาด เป็นการทำหน้าที่ของอาสาสมัครที่ส่งเสริมสนับสนุนกับพันธกิจของสภากาชาดไทยนั่นเอง
“แรกๆ ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจถึงการเป็นอาสายุวกาชาด แต่เมื่อได้มีการอบรม ได้ทำความรู้จักกับสำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย และการทำหน้าที่อาสายุวกาชาด ทำให้รู้ว่า งานของอาสายุวกาชาด เป็นงานที่ปลูกฝังให้เด็กๆ หรือเยาวชนในวัยอย่างพวกผมมีจิตอาสา ที่จะเป็นผู้ให้ รู้จักการแบ่งปัน การช่วยเหลือดูแลผู้อื่น
กิจการยุวกาชาดไทย ได้รับการสถาปนาขึ้นเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2465 โดย จอมพลสมเด็จเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์กรมพระนครสวรรค์วรพินิต อุปนายก ผู้อำนวยการ สภากาชาดสยาม มีวัตถุประสงค์เพื่อปลูกฝังเยาวชนให้มีอุดมคติในศานติสุข มีความรู้ความชำนาญ ในการรักษาอนามัยของตนเองและส่งเสริมอนามัยของผู้อื่น รู้จักบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ และรู้จักสร้างสัมพันธภาพอันดีต่อผู้อื่น
ปัจจุบันมีสำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย เป็นผู้ดูแลกิจการยุวกาชาด 2 ส่วน ได้แก่ “ยุวกาชาด” คือ นักเรียนที่เรียนหลักสูตรยุวกาชาดของกระทรวงศึกษาธิการ และอีกส่วนหนึ่งที่เรียกว่า “อาสายุวกาชาด” ซึ่งเปิดรับเยาวชนชาย-หญิง ที่มีอายุระหว่าง 15-25 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาถึงระดับอุดมศึกษา หรือเทียบเท่าทั้งในสถานศึกษาและนอกสถานศึกษาที่มีจิตอาสา โดยผู้ที่เข้ามาเป็น อาสายุวกาชาด จะได้รับการปลูกฝังให้มีความรู้ ความเข้าใจในหลักการและอุดมการณ์ของกาชาด ในด้านมนุษยธรรม การดูแลสุขภาพอนามัย การบริการอาสาสมัคร และการส่งเสริมการมีสัมพันธภาพที่ดี มีศรัทธาต่อกาชาด และเข้าร่วมกิจกรรมกาชาดได้อย่างต่อเนื่องอย่างที่ ธัญ เป็นอยู่
“งานหลักๆ ของอาสายุวกาชาด คือ การไปบำเพ็ญประโยชน์หรือไปบรรเทาทุกข์ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในสภากาชาดไทย เช่น ไปมอบเครื่องกันหนาว มอบสิ่งของอุปโภค-บริโภคให้กับผู้ประสบภัย ในกิจกรรมของสำนักงานบรรเทาทุกข์ และประชานามัยพิทักษ์ รณรงค์ให้คนมาร่วมบริจาคเงิน บริจาคโลหิต บริจาคอวัยวะ กิจกรรมฟื้นฟูจิตใจให้กำลังใจ ดูแลผู้สูงอายุเด็กกำพร้า ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส อย่างผมมีความสามารถพิเศษในด้านสร้างความบันเทิง ก็จะไปร้องเพลงสร้างความสุข
ในแต่ละสถานที่ที่ผมได้มีโอกาสเข้าไปทำหน้าที่อาสายุวกาชาด ผมได้ประสบการณ์ดีๆ ได้มิตรภาพจากเพื่อนๆ ที่เป็นอาสายุวกาชาดด้วยกัน ที่สำคัญคือทำให้เรามีจิตอาสา”
เมื่อเอ่ยถึงคำว่า “จิตอาสา” ในทัศนคติของ อาสายุวกาชาดคนนี้ เขาบอกว่า คือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ทำอะไรก็ได้ที่ทำให้ผู้อื่นมีความสุข คลายจากความทุกข์ยากที่เขาเผชิญอยู่ เพียงแค่ได้เห็นรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ของเขาเหล่านั้น ก็ทำให้ตนเองมีความสุขแล้ว
“จากคนที่เคยมองโลกในแง่ลบ แต่เมื่อมาเป็นอาสายุวกาชาดทำให้ผมมองโลกในแง่บวกมากขึ้น ทำให้ผมรู้ว่าในสังคมไทยยังมีอะไรให้เรียนรู้อีกเยอะเมื่อเรามองโลกในแง่บวกแล้ว มันก็จะยิ่งบวกๆ ขึ้นไป แม้ในบ้างครั้งเราจะมีใครคิดกับเราในแง่ลบ อย่างน้อยที่สุดเราก็รู้ว่าเราได้ทำสิ่งดีๆ ให้กับสังคม และทำให้ผมคิดได้ว่าเมื่อเราจะทำดีแล้ว ไม่ว่าผลตอบรับที่กลับมาจะเป็นบวกหรือลบ ก็ไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อคนอื่นบ้าง แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม”
นอกจากการได้ไปบำเพ็ญประโยชน์และบรรเทาทุกข์ ในฐานะอาสายุวกาชาดแล้ว ธัญ ยังมีความภูมิใจที่เขาได้มีส่วนสร้างจิตอาสารุ่นใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นกับสังคมไทยอีกด้วย
“ผมมีน้องๆ ที่เป็นแฟนเพจในเฟซบุ๊คของผมอีกด้วย พอผมไปทำงานที่ไหนก็จะเอารูปไปลงในเฟซบุ๊ค ก็มีน้องๆ เขาสนใจมาถามว่าผมไปทำอะไรที่ไหน พอบอกว่าผมไปทำงานอาสายุวกาชาด เขาก็สนใจตามมาช่วยงานด้วย แม้เขาจะไม่ได้เป็นอาสายุวกาชาดแต่ก็มาทำด้วยความที่เขามีจิตอาสา และเห็นผมเป็นไอดอลที่จะทำประโยชน์เพื่อสังคม ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกภูมิใจในตัวเองที่ว่ามีคนเห็นผมเป็นตัวอย่างที่ดีของเขา และอยากเป็นเหมือนผม ยิ่งทำให้เรามีกำลังใจที่จะทำสิ่งดีๆ มากขึ้นด้วย”
ในวันที่ 27 มกราคม 2556 จะเป็นวันครบรอบวันสถาปนายุวกาชาดไทย ปีที่ 91 สำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย จึงได้จัดกิจกรรมแสดงพลังของอาสายุวกาชาด ในการมีจิตอาสาช่วยเหลือภารกิจของสภากาชาดไทย ภายใต้คำขวัญ “TRCY 91 : Youth on the move-91 ปี พลังอาสายุวกาชาด สภากาชาดไทย เพื่อภารกิจสภากาชาดไทย” ภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการกำเนิดยุวกาชาด ภารกิจของอาสายุวกาชาดทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค กิจกรรมพลังอาสายุวกาชาดร่วมบริจาคโลหิต ดวงตา และอวัยวะ การประกวดขบวนพาเหรด Youth on the move การแข่งขันการปฐมพยาบาล การประกวดนักข่าวอาสายุวกาชาด RCY News และกิจกรรมบันเทิงจากดาราศิลปินมากมาย ตลอดจนการรับสมัครอาสายุวกาชาด ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 26 มกราคม 2556 ตั้งแต่เวลา 6.00-16.00 น. ณ บริเวณหน้าอาคาร ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ถนนอังรีดูนังต์
“น้องๆ เพื่อนๆ ที่อยากได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่หาซื้อไม่ได้ในท้องตลาด ลองมาสมัครเป็นอาสายุวกาชาด กับสำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย แล้วคุณจะรู้ว่าประสบการณ์ดีๆ ที่คุณจะได้รับนั้นมันมีค่ามากแค่ไหน กับการที่คุณได้เป็นผู้ให้”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี