หากรู้จักแหล่งโบราณคดีบ้านทุ่งตึกแล้วไม่เลยต่อไปที่คลองท่อม ก็เหมือนเดินทาง ไม่ถึงที่สุดของเมืองท่าโบราณสุวรรณภูมิ ที่นั่นมีร่องรอยที่เป็นหลักฐานบอกถึงความเป็นชุมชนค้าขายขนาดใหญ่ทางใต้ ฝ่ายเผยแพร่ และประชาสัมพันธ์ กรมศิลปากร ช่างมีใจเอื้อเฟื้อทำให้ไม่ละเว้นสถานที่ดังกล่าวไปได้ง่ายๆ ชุมชนโบราณคลองท่อมนั้นถูกความเป็นแหล่งลูกปัดกลบความสำคัญของคลองท่อมที่ เคยเป็นเส้นทางน้ำให้เดินทางเข้ามายังชุมชนแห่งนี้ได้ ถามว่าทำไมต้องมาที่แห่งนี้ คำตอบก็คือคลองท่อมในอดีตเป็นแหล่งผลิตสิ่งของมีค่าเช่นเครื่องประดับ และใช้แทนเงินตราแลกเปลี่ยนกับสิ่งของมีค่าจากที่อื่น ที่รู้จักกันมากคือ ลูกปัด สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ที่จังหวัดกระบี่ ประมาณเส้นละติจูดที่ 7 องศา 55 16” เหนือ และลองติจูดที่ 99 องศา 9 49” ตะวันออก
“ควนลูกปัด” เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันเมื่อมีการขุดพบลูกปัดแก้วสีต่างๆ จำนวนมากบนเนินดินใกล้วัดคลองท่อม สมัยก่อนไม่มีใครสนใจด้วยมีจำนวนมากจนมองไม่มีค่าอะไร ประกอบมีความเชื่อว่าเป็นของโบราณจึงไม่มีใครสนใจและเห็นว่าเป็นของโบราณจึงเกรงกลัวอาเพศที่จะเกิดขึ้นภายหลัง ควนนี้มี “ลำคลอง” ไหล ผ่านส่วนจะสร้างตำนานโยงหาความหมายให้เป็นคลองที่มีต้นกระท่อมหรือทุ่ม ความหมายว่า ทิ้งร้าง จนเลือนมาเป็นท่อมก็ว่ากันไปตามถนัด แม้แต่เรื่องสู้รบในสงครามแล้วหนีกันเข้ามาด้วยก็จ้อกันไป ไม่ขอสรุป
ลักษณะการเป็นเนินหรือควนเป็นเนินราบมีความสูง 8 เมตร จากระดับน้ำทะเล ไม่มีคูน้ำคันดินหรือคูเมือง ที่ราบนี้กว้างประมาณครึ่งตารางกิโลเมตรมีสวนยางพารา สวนผลไม้ ป่าละเมาะและบ้านเรือนชาวบ้าน ด้านตะวันออกเป็นแนวสูงต่อจากไหล่เขาเนินด้านเหนือไปสิ้นสุดกลางบริเวณที่ ราบต่ำ ทางใต้และตะวันตกเป็นที่ราบมีลำคลองไหลผ่านเรียกชื่อในปัจจุบันว่าคลองท่อม เมื่อสำรวจทางโบราณคดีพบว่าบริเวณแห่งนี้มีมนุษย์อาศัยอยู่มาก่อนแล้ว ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ โดยอาศัยอยู่ตามป่าเขาใกล้เคียงจากบริเวณอ่าวพังงาลงมาถึงบริเวณเขาขนาบน้ำ ถ้ำเสือ ถ้ำหลังโรงเรียนทับปริก ถ้ำอ่าวโกบหน้าชิง ล้วนเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ทั้งสิ้น ชุมชนคลองท่อมเดิมอยู่ใกล้ทะเล มีลำคลองไหลผ่าน จึงอยู่ในเส้นทางการเดินข้ามแหลมจากตะวันตกไปตะวันออก จึงเป็นเส้นทางผ่านไปมาค้าขายของบรรดาพ่อค้าชาติต่างๆ ได้แก่ อินเดีย อาหรับ เปอร์เซีย เป็นต้น หลักฐานทางโบราณคดี มีทั้งวัตถุทำด้วยหิน ทำด้วยแก้ว ทำด้วยดินเผา ทำด้วยสำริดและโลหะ ทำด้วยทอง เป็นต้นได้แก่ เครื่องมือหิน แท่นหินสลัก แม่พิมพ์ ตราประทับ ลูกปัดต่างๆ ก้อนรัตนชาติ หินบด หินลับ ครกหิน กำไล แหวน ภาชนะดินเผา ทั้งที่เคลือบและไม่เคลือบ มีลายและไม่มีลาย ตะคันดินเผา แวดินเผา ลายประทับรูปกลีบบัว รูปดอกไม้ ดินเผารูปสัตว์รูปคนขนาดเล็ก หินดุ ตุ้มหู รูปสัตว์ต่างๆ เหรียญที่เป็นรูปสัญลักษณ์ต่างๆ ชิ้นส่วนคันฉ่องสำริดของจีน ลูกปัดทองคำ ทองแท่ง แผ่นทอง แหวนทองคำ เป็นต้น ซึ่งพระครูอาทรสังวรกิจ เจ้าอาวาสวัดคลองท่อมได้ดำเนินการรวบรวมสิ่งของทั้งหมดตั้งแต่พ.ศ.2509 จนทำให้ชื่อเสียงลูกปัดคลองท่อมเป็นที่รู้จักนั้นคือลูกปัดโรมัน ที่แสดงถึงการติดต่อค้าขายกับประเทศทางตะวันตก ในปี 2510 กรมศิลปากรได้สำรวจแหล่งลูกปัดในชุมชนคลองท่อม ต่อมาพ.ศ.2516 อาจารย์มานิตย์ วัลลิโภดม และอาจารย์ศรีศักดิ์ วัลลิโภดม ได้สำรวจแหล่งโบราณคดีคลองท่อมและตั้งข้อสันนิษฐานว่าเป็นเมืองท่าโบราณและ เป็นแหล่งอุตสาหกรรมที่สำคัญ มีหลักฐานการติดต่อค้าขายกับชนชาติกรีกและโรมัน และในปี พ.ศ.2522 คณะสำรวจงานวิชาการ กองโบราณคดี กรมศิลปากรได้สำรวจแหล่งโบราณคดีพบลูกปัดจำนวนมาก มีอายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 5-12 และในปี 2525 นั้น พระครูอาทรสังวรกิจ เจ้าอาวาสวัดคลองท่อม ได้รวบรวมลูกปัดที่สะสมไว้ทั้งหมดและก่อตั้งพิพิธภัณฑสถานวัดคลองท่อมขึ้น ปัจจุบัน นายพิริยะ ศรีสุขสมวงศ์ นายกเทศมนตรีตำบลคลองท่อมใต้ ได้ดำเนินการต่อเพื่อให้คลองท่อมเป็นชุมชนโบราณที่มีความสำคัญมากกว่าลูกปัดโบราณที่นับวันชิ้นงานที่มีคุณค่าจะหายากยิ่งขึ้น
ลูกปัดหน้าคน-คลองท่อม
คลองท่อม-ชิ้นส่วนลูกปัด
ลูกปัดพบที่ทุ่งตึก
คลองท่อม-แม่พิมพ์ลายต่างๆ
ศรีวัตสะ
แผนที่แสดงท่าเรือคลองท่อม
คลองท่อม-รูปปั้นดินเผาผู้หญิงอุ้มเด็ก
จี้หินคาเนเลียนศิลปะโรมัน
เพอร์ซีอุสหิ้วหัวเมดูซา
ลูกปัดรูปคนขี่ม้า
ลูกปัดคลองท่อม-ตากบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี