การทำศัลยกรรมไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับคนไทย และกลายเป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ก็ทำกัน เห็นได้จากโฆษณาตามสื่อต่างๆ ที่เรารับกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เพราะแต่ละคนก็มีต้นทุนทางหน้าตาและรูปร่างไม่เท่ากัน ดังนั้น การจะตัดแต่ง เสริมเพิ่มเติมในส่วนที่เป็นจุดด้อย เพื่อเรียกความมั่นใจให้ตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เช่นเดียวกับแขกรับเชิญของเราในสัปดาห์นี้ ตาล-พรทิพย์ ศรีสวัสดิ์สรรค์ เธอเป็นอีกคนหนึ่งที่ผ่านการทำศัลยกรรมด้วยเหตุผล “สวยสั่งได้” เธอมีเรื่องราวดีๆ จากประสบการณ์ที่พร้อมจะแบ่งปันให้กับผู้ที่สนใจทำศัลยกรรม นำไปพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ
ตาล เล่าถึงจุดเริ่มต้นการทำศัลยกรรมของตัวเองให้ฟังว่า เธอทำศัลยกรรมเสริมจมูกเป็นอย่างแรกเมื่อประมาณ 7 ปี ที่แล้ว แต่ต้องแก้ไขถึง 3 ครั้งกว่าจะได้จมูกสวยอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ทำตา 2 ชั้น 2 ครั้ง ฉีดโบทอกซ์ ร้อยไหม เสริมคาง ตัดริมฝีปากบนให้ได้รูป ดูดไขมันกระชับสัดส่วน
“การทำจมูกและตาครั้งแรก ยอมรับตรงๆ ว่า ปล่อยให้ตัวเองเป็นเหยื่อการตลาด ศึกษาหาข้อมูลไม่มากพอ แค่เห็นว่าที่นี่เขาดังนะ มีคนมารีวิวไว้เยอะ ก็ตัดสินใจทำ พอทำออกมาแล้วไม่เป็นอย่างที่เราหวังไว้ ก็หาที่ใหม่อีก ก็ยังไม่ใช่อีก ทั้งที่คิดว่าเราหาข้อมูลมากพอ ทำให้เราต้องเจ็บตัวหลายครั้ง เสียเงินก็มาก จนกว่าจะได้อย่างที่เห็น แต่บางอย่างที่ทำก็เพราะเราอยากลองด้วยตัวเอง อย่างฉีดโบทอกซ์หน้าเรียว ก็ยังไม่ได้ดั่งใจ ก็เปลี่ยนมาเป็นร้อยไหม เพราะคิดว่ามันจะตอบโจทย์ก็ยังไม่ใช่อีก ด้วยความที่ตาลเป็นคนหน้ากลมๆ มีแก้มเยอะ คือทำแล้วมันสวยแค่แป๊บเดียว ไม่เห็นมันจะอยู่ได้นานเหมือนคนอื่น จนในที่สุดตัดสินใจเสริมคางนี่แหละมันถึงได้รูปหน้าอย่างที่เราอยากได้”
หลายคนอาจมองว่าเธอคนนี้ “เสพติดศัลยกรรม” หรือเปล่า ซึ่งเธอยืนยันว่า เธอไม่ได้ติดการทำศัลยกรรมอย่างแน่นอนโดยให้เหตุผลว่า
“บางคนถ้าทำออกมาแล้ว จะเป็นอย่างไรไม่รู้นะ แต่สำหรับตัวตาลเมื่อทำออกมาแล้ว เราเสียเงินแล้ว มันต้องสวยให้ถึงที่สุด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทำศัลยกรรมแล้วมันดูชัดเจน จนหน้าเป็นบล็อกพลาสติกมันก็ไม่ใช่ คือถ้าทำแล้วยังไม่พอใจ เราก็แก้ไข แต่อะไรที่ทำแล้วมันดี มันดูสวยแล้ว ตาลก็หยุด ไม่ใช่แค่ความพึงพอใจของตัวเองเท่านั้น แต่ตาลยังฟังคำแนะนำของคุณหมอด้วย ถ้าหมอบอกว่า ก็ตรงนี้ควรจะทำแล้วจะสวยดูดีขึ้น ตาลก็ทำ แต่ถ้าคุณหมอลงความเห็นมาว่าอันนี้ทำไม่ได้นะ ทำแล้วมันจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี ยิ่งทำแล้วยิ่งน่าเกลียด ตาลก็ไม่ดื้อแพ่งที่จะทำ”
ในการทำศัลยกรรม จากประสบการณ์ของเธอคนนี้ มีคำแนะนำให้กับผู้ที่อยากจะลบจุดบกพร่องของตัวเอง เพื่อความสวยงามด้วยการทำศัลยกรรม ที่น่าคิดไม่น้อย
“ทุกสิ่งทุกอย่างมีทั้งข้อดีและข้อเสีย การทำศัลยกรรมก็เช่นกัน อย่างตัวตาลก็ได้เจอในทั้งสองด้าน ซึ่งเราก็ต้องยอมรับผลของมันด้วย เมื่อตาลทำออกมาแล้วมันมีผลลัพท์ที่ดี คนก็ชม แล้วมาพูดกับตาลว่า อยากสวยเหมือนตาล อยากไปทำศัลยกรรมคุณหมอคนเดียวกับตาล ตาลจะพูดเสมอว่าอย่า ถ้าคุณอยากทำ คุณต้องศึกษาหาข้อมูลให้ดี ที่สำคัญคืออยากทำกับคุณหมอท่านไหนก็ต้องเข้าไปคุย ขอคำปรึกษา คำแนะนำ กับคุณหมอท่านนั้นโดยตรง ถามทุกเรื่องที่เราอยากรู้ การเข้าไปหาคุณหมอโดยตรง ก็จะช่วยให้เราพิจารณาได้ว่า คลินิกนั้นเป็นอย่างไร ตัวคุณหมอเป็นอย่างไร มีความน่าเชื่อถือหรือไม่ ใบประกอบวิชาชีพ ใบอนุญาติสถานประกอบการ เอามาประกอบกับข้อมูลที่เราหามาได้แล้วจึงตัดสินใจทำ อย่าทำเพราะเชื่อคำบอกเล่า หรือทำตามใคร
การที่ตาลออกมาพูด ยอมรับว่าตัวเองทำศัลยกรรม ก็ไม่ได้ต้องการที่จะยุยง ส่งเสริม สนับสนุน ให้ใครทำตาม โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่ยังไม่มีวุฒิภาวะมากพอ แต่ตาลอยากจะเป็นที่ปรึกษาให้ พี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ คนอื่น โดยใช้ประสบการณ์ตรงของตัวเองให้เป็นประโยชน์ เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของความอยาก หรือการทำการตลาดของคลินิกศัลยกรรม”
ทุกวันนี้ ตาล พอใจกับความงามในแบบฉบับของตัวเอง ในอนาคตข้างหน้าเธอจะทำศัลยกรรมอะไรเพิ่มอีกหรือไม่ เธอบอกว่า ก็ขึ้นอยู่กับช่วงอายุนั้นๆ ว่ามีส่วนใดที่ควรจะต้องพึ่งการทำศัลยกรรม แต่ทั้งนี้ การดูแลสุขภาพ ผิวพรรณ และรูปร่าง ให้มีสุขภาพที่ดี ฟิตแอนด์เฟิร์ม ด้วยตัวเอง ก็เป็นสิ่งที่ควรจะต้องทำอย่างสม่ำเสมอ และเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนอย่างแท้จริง
สำหรับใครที่สนใจการทำศัลยกรรม ตาล ยินดีที่จะให้ข้อมูลและคำปรึกษา สามารถไปกดไลค์และพูดคุยกับเธอได้ที่ www.facebook.com /BeautyCanDo
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี