ชื่อหนังสือ : ตามรอยพระยุคลบาท.. ครูแห่งแผ่นดิน”
ผู้เขียน : สุเมธ ตันติเวชกุล
ผู้ผลิต : ศูนย์หนังสือจุฬา / 206 หน้า / 120 บาท
เป็นที่ทราบกันดีว่า... พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็น “ครู” ที่สั่งสอนคนไทยมาโดยตลอด ความเป็นครูของพระองค์ คือ “ทรงทำให้ดู” ดังนั้นพระองค์จะทรงเน้นการปฏิบัติให้ลูกศิษย์ดู และจูงใจให้นักเรียนมาสนใจ แต่ไม่เคยทรงสั่งหรือบังคับให้ทำ จะทรงสอนอย่างละเอียดให้เข้าใจในทุกแง่มุม และที่สำคัญจะทรงเน้นย้ำเสมอว่า การสอนควรยึดรากฐานเดิมของสังคมไทยไว้ ไม่ควรคัดลอกจากต่างประเทศมากเกินไป แต่อาจนำหลักการมาเปรียบเทียบปรับปรุงได้ เพราะมิเช่นนั้นจะทำให้ขาดความเป็นตัวของตัวเอง
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ในฐานะผู้ถวายงานใกล้ชิดพระองค์ท่านมากว่า 35 ปี ได้รับความรู้ที่พระองค์ได้สอนในเรื่องของแผ่นดิน สอนให้รู้จักและเข้าใจธรรมชาติ การใช้ชีวิต การทำงานเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับผู้อื่น ซึ่งไม่มีตำราใดๆ และไม่มีมหาวิทยาลัยแห่งใดที่จะสอนได้ครบถ้วนดังเช่นที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้สอน
ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ดร.สุเมธ ได้นำคำสอนของพระองค์ มาเผยแพร่ความรู้จากการสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ประชาชนคนไทยได้นำไปประพฤติปฏิบัติ ด้วยการร้อยเรียงเรื่องราวผ่านหนังสือ “ตามรอยพระยุคลบาท... ครูแห่งแผ่นดิน”
หนังสือเล่มนี้ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของครูแห่งแผ่นดินในหลากหลายแง่มุมที่เป็นประโยชน์แก่คนไทย และควรค่าแก่การศึกษาทำความเข้าใจให้ลึกซึ้ง ซึ่งจะทำให้ประจักษ์ถึงพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการครองแผ่นดินเพื่อประโยชน์สุขแก่ราษฎร พระองค์ทรงเป็นผู้นำประเทศที่สอนให้คนไทยรู้จักหลักเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นรากฐานของวิถีชีวิตของคนไทย พระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อเกษตรกรก่อให้เกิดการพัฒนาการเกษตรตามแนวพระราชดำริ โครงการในพระราชดำริของพระองค์ล้วนเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ เป็นโครงการที่ก่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่คนไทยและประเทศอย่างแท้จริง
ดร.สุเมธ ได้กล่าวไว้ในบางตอนของหนังสือเล่มนี้ว่า “ประชาชนชาวไทยมีความชื่นชมศรัทธาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่เมื่อถามลึกลงไปว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงทำอะไรอยู่ ทรงสอนอะไร ก็ไม่มีใครตอบได้ แน่นอนว่าเราชอบได้ยินรับสั่งของพระองค์โดยเฉพาะในวันที่ 4 ธันวาคม ซึ่งจะรับสั่งเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของทุกปี ทุกคนฟังถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ วันรุ่งขึ้นก็ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ทุกคนก็จะลืมไปหมดแล้วว่าพระองค์ได้สอนอะไร ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง เพราะพระองค์ทรงเป็นครู ทรงสอนมากว่า 60 ปี ถ้านำมาถ่ายทอดเป็นตำราเรียนก็จะมีมาก แต่จะมีสักกี่คนที่จะอ่านแล้วทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง”
หากคนไทยได้ศึกษาทำความเข้าใจคำสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างลึกซึ้งแล้ว จะพบว่าคำสอนของพระองค์ล้วนเป็นเรื่องที่เหมาะสมกับวิธีความเป็นไทย เป็นหลักปฏิบัติที่ทุกคนสามารถลงมือทำได้ หากได้นำมาปฏิบัติและยึดถือเป็นแบบอย่างแล้ว ก็จะก่อให้เกิดประโยชน์สุขบนความพอเพียงอย่างยั่งยืน
มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์กับประเทศไทย
ประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกันมาร่วมร้อยปี
“Innovative Partners : The Rockefeller and Thailand” เป็นหนังสือที่กล่าวถึง มิตรภาพและความร่วมมือแบบสร้างสรรค์ของมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ กับประเทสไทย ที่ มีความสัมพันธ์ติดต่อกันมานานถึง 100 ปีมาแล้ว โดยเรื่องราวจะเริ่มต้นตั้งปี พ.ศ. 2458 ภายในเล่มจะมีภาพประวัติศาสตร์มากมายที่ทรงคุณค่า อาทิ พระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ในฐานะที่ทรงเป็นผู้แทนของรัฐบาลไทย ในการเจรจากับมูลนิธิฯเกี่ยวกับการช่วยเหลือด้านการศึกษาวิชาแพทย์ในประเทศไทย สำหรับเรื่องราวในเล่ม ประกอบด้วยเนื้อหา 5 บทคือ บทที่หนึ่งและที่สองกล่าวถึงการกำจัดโรคพยาธิปากขอ บทที่สาม เรื่องความร่วมมือของมูลนิธิกับประเทศไทยทางด้าน เกษตร และวิทยาศาสตร์ บทที่สี่ เรื่องโครงการพัฒนามหาวิทยาลัย และบทที่ห้าความสัมพันธ์ระหว่างมูลนิธิกับประเทศไทย หนังสือเล่มนี้ จัดพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ ใครต้องการจะได้อ่านฉบับแปลเป็นภาษาไทยต้องรอปลายปี ไม่มีจำหน่าย แต่สามารถหาอ่าน และโหลดได้จาก เว็บ centennial.rockefellerfoundation.org
พ่อแม่ออกแบบให้สมองของลูกได้
กระตุ้นความฉลาดรอบรู้ให้ลูกน้อย
“สมองลูกออกแบบได้ด้วยพ่อแม่” เขียนโดย “นพ.ดุสิต ลิขนะพิชิตกุล” เป็นเรื่องราวทางการแพทย์ ที่จะชี้แนะให้พ่อแม่ได้เรียนรู้ว่า การได้ดูแลลูกตั้งแต่แรกเกิด มีผลทำให้ พ่อแม่สามารถสร้างต้นทุนทางสมองที่ดีให้กับลูกๆได้ อย่างชนิดที่เรียกว่า พ่อแม่สามารถออกแบบสมองให้กับลูกๆได้อย่างมีประสิทธิภาพทีเดียว เรื่องราวทั้งหมด สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับทุกครอบครัว โดยเฉพาะพ่อแม่ที่พร้อมใจกันในการพัฒนามันสมองของลูกแบบเป็นทีม คือ พร้อมใจกันทำทั้งพ่อและแม่ จำหน่ายในราคาเล่มละ 160 บาท
เผยวัฒนธรรมแปลกๆบนโลกใบนี้
ทุกอย่างเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวของทุกคน
“วัฒนธรรมนานาประเทศโลกตะลึง” เป็นหนังสือส่งเสริมความรู้ทางด้านวัฒนธรรมของนานาประเทศบนโลกใบนี้ โดยการรวบรวมเอาวัฒนธรรมเด่นๆของแต่ละประเทศมานำเสนอในรูปแบบของ หนังสือภาพ ที่อ่านได้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ ผู้เขียนคือ “ Kim Gun-Gi” แปลเป็นไทยโดย “วันวิสาข์ ปัญญางาม” จำหน่ายเล่มละ 165 บาท ในเล่มนี้จะมีวัฒนธรรมแปลก อาทิ ความเชื่อในโชคลาง ,วัฒนธรรมการกิน,ประเพณีวันขึ้นปีใหม่,งานฉลองวันเกิด การแต่งกาย,ที่อยู่อาศัย ตลอดจน ห้องสุขา ทุกเรื่องจะสร้างความสนุกสนาน และ ความนึกไม่ถึงให้กับคนอ่านต้องตะลึง พร้อมภาพวาด และภาพถ่ายเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ง่ายขึ้น
คุณแม่ใจถึงกับลูกสุดป่วนแสนพิลึก
นิยายแฟนตาซีสุดฮอตของไต้หวัน
“ก๊วนป่วนแดนพิศวง”เขียนโดย “ หลินลวี่” แปลโดย “ น้องสาม” เป็นนิยายแนวแฟนตาซีที่ขายดีของไต้หวัน กล่าวถึง เรื่องราวของคนประหลาดสามคนกับตุ๊กตาหมีที่มีวิญญาณของเด็กสิงอยู่อีกตัวหนึ่ง ภายใต้การดูแลของ คุณแม่สาวใหญ่ติ๊งต๊องที่ไปเก็บเอาเด็กๆพวกนี้มาเลี้ยง แม้เธอจะต้องเจอกับความป่วน ความประหลาดพิศดารขนาดไหน เธอก็ยังสู้ยิบตาเพื่อปกป้องลูกๆ เป็นเรื่องราวป่วนๆที่ ทั้งสนุกสนาน เฮฮา และ น่าพิศวง อาทิ ลูกชายคนโต มีพลังมืดอยู่ในตัว ลูกชายคนเล็กกลับมีพลังสว่าง เมื่อทั้งหมดมาอยู่ร่วมกันเหตุการประหลาดก็เกิดขึ้นไม่รู้จบ ไม่ว่าจะเป็นการ เรียกวิญญาณของปีศาจให้มาเล่นในบ้าน หรือ การเข้าไปคลุกคลีกับเซียนจิ้งจอก เป็นต้น จำหน่ายเล่มละ 210 บาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี