ผู้บริหารเครือรพ.กรุงเทพ.ชาตรี ดวงเนตร นำทีมเปิดตัวแอพพลิเคชั่น BES i lert u คลิกปั๊บรับความช่วยเหลือฉุกเฉิน
ช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนเฉลิมฉลองกัน ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ก็เตรียมพร้อมรับทุกสถานการณ์ เครือโรงพยาบาลกรุงเทพก็เช่นกัน หลังจากเปิดศูนย์บริการฉุกเฉินเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ Bangkok Emergency Services (BES) อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้บริการผู้ป่วยฉุกเฉินได้รับการรักษาให้รอดพ้นจากวิกฤตที่ส่งผลต่อชีวิตได้อย่างรวดเร็วและมีมาตรฐาน ปีนี้เพิ่มช่องทางการเข้าถึงบริการด้วย
เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ เปิดตัว“แอพพลิเคชั่น BES i lert u ” 0.นวัตกรรมซอฟต์แวร์ระบบการแจ้งขอรับความช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์ส่งตำแหน่งดาวเทียมผ่านระบบสมาร์ทโฟน เพื่อเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการบริการฉุกเฉิน
นายแพทย์ชาตรี ดวงเนตร กรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ-การแพทย์ บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) และประธานคณะผู้บริหารศูนย์การแพทย์กรุงเทพ กล่าวว่า ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เราได้จัดตั้งศูนย์สั่งการฉุกเฉินเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ BES Dispatch โทร. 1724 รับเเจ้งเหตุ 24 ชั่วโมง นำระบบ Anywhere to ER ของ Anywhere to Go Co., Ltd. มาพัฒนาเป็นระบบขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน สามารถทำการเชื่อมโยงเครือข่ายของทุกโรงพยาบาลไว้เป็นหนึ่งเดียว ทั้งยังสามารถบริหารจัดการแบบศูนย์รวม บริหารข้อมูลคนไข้ การสั่งการและบุคลากรทางการแพทย์ร่วมกัน เชื่อมโยงกับระบบคอลล์เซนเตอร์สามารถทำให้การรับโทรศัพท์แล้วสามารถเห็นข้อมูลคนไข้
อย่างไรก็ดี นายแพทย์ชาตรี ชี้ว่า ระบบ Anywhere to ER รองรับการรับแจ้งขอความช่วยเหลือจากระบบโทรศัพท์พื้นฐาน และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งระบบสามารถนำหมายเลขโทรศัพท์มาค้นหาข้อมูลตำแหน่งบ้านของคนไข้ได้ทันที แต่บ่อยครั้งที่เหตุไม่ได้เกิดขึ้นในบ้าน แต่เกิดขึ้นนอกบ้าน บนถนน และต้องอธิบายสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ประสบภัยมักจะตื่นเต้นตกใจจนขาดสติ ทำให้การอธิบายต้องใช้เวลามาก ทำให้การสั่งการล่าช้า ทางโรงพยาบาลจึงรณรงค์ให้คนไข้หรือผู้ใช้บริการของโรงพยาบาล ลงทะเบียนพิกัด GPS ผ่านแอพลิเคชั่น BES i lert u ของ Anywhere to Go Co., Ltd. ฟังก์ชั่นของสมาร์ทโฟน เพื่อส่งพิกัดที่อยู่ ณ ปัจจุบันขณะเกิดเหตุฉุกเฉิน ช่วยให้ศูนย์สั่งการฉุกเฉินเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ BES Dispatch ส่งพิกัดไปยังรถพยาบาลฉุกเฉิน BES ให้สามารถค้นหาตำแหน่งของผู้ป่วยได้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ทำให้การช่วยชีวิตเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว
นายแพทย์อัญฤทธิ์ แสงจรัสวิชัย ผู้อำนวยการฝ่ายแพทย์ฉุกเฉินเครือข่าย โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวเพิ่มเติมว่า การนำระบบ i lert u มาพัฒนาเป็นแอพลิเคชั่น BES I lert u เพื่อสร้างประโยชน์กับคนไข้และโรงพยาบาล เพราะเมื่อคนไข้เกิดเหตุฉุกเฉิน ก็สามารถกด lert มายังระบบ anywhere to ER หรือ ระบบ BES ระบบจะแสดงตำแหน่งพิกัด GPS ที่แม่นยำ และแสดงผลข้อมูลคนไข้ ประวัติการรักษาขึ้นมาทันที พร้อมทั้งคำนวณให้ทันทีว่า โรงพยาบาลใดในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพที่ใกล้ที่สุด และรถพยาบาลคันใดที่เหมาะสมกับอาการของคนไข้ จากนั้นศูนย์ BES Dispatch จะทำการโทร.กลับไปเพื่อยืนยันการขอแจ้งความช่วยเหลือและสั่งการทันที
ภายในแอพพลิเคชั่น BES i lert u ประกอบไปด้วย การลงทะเบียนข้อมูลส่วนบุคคลเบื้องต้นของผู้โหลด อาทิ ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ ระบุพิกัด GPS ของบ้านหรือสถานที่หากเกิดเหตุฉุกเฉิน และมี 5 เมนูหลัก สำหรับเลือกใช้บริการ คือ เมนู Call to BES : ระบบจะโทรออกโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย มายังเบอร์โทร 1724 ศูนย์สั่งการฉุกเฉินเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ BES Dispatch เพื่อดำเนินการสอบถามข้อมูลรายละเอียดต่างๆ
เมนู First Aid : ให้คำแนะนำเป็นคู่มือปฐมพยาบาลการช่วยชีวิตเบื้องต้น ในกรณีฉุกเฉินของเหตุการณ์ต่างๆ อาทิ หมดสติ สำลักสิ่งแปลกปลอมอุดทางเดินหายใจ หอบหืดกำเริบ เจ็บแน่นหน้าอก แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก บาดแผลมีเลือดออก ฯลฯ เมนู Video Instruction : แสดงวิดีโอแนะนำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น อาทิ การช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) อาหารติดคอ
เมนู Webpage BES : link ข้อมูลแนะนำการบริการของ BES และ เมนู lert : Emergency Lert แจ้งเหตุฉุกเฉิน คลิกเมนูนี้เมื่อเกิดเหตุการณ์วิกฤต เจ้าหน้าที่ BES จะโทรกลับภายใน 30 วินาที เพื่อสอบถามและให้บริการฉุกเฉิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี