พระแท่นย่อมุมไม้สิบสองบนยานมาศ
เมื่อเร็วๆนี้กรมศิลปากรได้จัดพิธีบวงสรวงราชรถ และราชยาน เพื่อดำเนินการอนุรักษ์และบูรณะ ณ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระนคร อาทิตย์นี้ขอตามรอย ศิลปกรรมของราชรถในเบื้องต้นก่อนที่จะมีการเตรียมงานพระเมรุพระศพของสมเด็จพระสังฆราชในเดือนกันยายน
เนื่องจากราชรถนั้นเป็นศิลปกรรมที่แสดงลักษณะหรือสัญลักษณ์ความเป็นผู้ยิ่งใหญ่หรือความเป็นกษัตริยาธิราชที่ได้รับการยกย่องเหมือนเทพเจ้าหรือเป็นองค์สมมติเทวราชตามคติความเชื่อทางศาสนาพราหมณ์ ที่รับอิทธิพลมาจากอินเดีย ดังนั้นการประดิษฐ์หรือการก่อสร้างสิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกับกษัตริย์จึงมีรูปแบบสถาปัตยกรรมหรือศิลปกรรมจากความเชื่อกันว่าเทพเจ้าสถิตอยู่บนสรวงสวรรค์ชั้นวิมาน ณ ยอดเขาพระสุเมรุอันเป็นใจกลางของจักรวาล เขาพระสุเมรุนี้มีเทือกเขาและมหาสมุทรล้อมรอบอยู่ ๗ชั้น ที่เชิงเขานั้นเป็นป่าหิมพานต์ มีสระอโนดาษเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์หิมพานต์นานาชนิดและบรรดานักสิทธิ์วิทยาธรผู้ทรงคุณวิเศษทั้งหลาย
เครื่องมือสำหรับใช้ซ้่อมราชรถ
ช่างศิลปะไทยโบราณนั้นได้จินตนาการรูปแบบศิลปกรรมของจักรวาลให้มีลักษณะพิเศษ ดังปรากฏในหมู่ปราสาทราชมณเฑียรและพระที่นั่งต่างๆ เครื่องราชูปโภคโดยเฉพาะราชรถนั้นเป็นเครื่องใช้ในการเดินทางของกษัตริย์แล้วและยังเป็นเครื่องประกอบพระราชอิสริยยศอย่างหนึ่งด้วย ส่วนพระบรมวงศานุวงศ์ราชวงศ์นั้นก็มีศิลปกรรมลดหลั่นตามพระอิสริยยศ รวมถึงสมเด็จพระราชาคณะด้วย
ราชรถองค์สำคัญหนึ่งเดียวนั้นได้แก่พระมหาพิชัยราชรถ พระเวชยันต์ราชรถที่ได้สร้างขึ้นในรัชกาลที่ ๑ แล้ว ยังมีราชรถน้อยและราชรถโถงอีกหลายองค์ตามพระอิสริยยศที่น่าสนใจอีก ล้วนเป็นราชรถที่ถูกสร้างขึ้นตามคติความเชื่อดังกล่าวจึงมีการสร้างมีบุษบกเป็นส่วนยอดของราชรถเปรียบเสมือนพระวิมานอยู่บนยอดเขาพระสุเมรุซึ่งมีขนาดสูงใหญ่อลังการประดับด้วยรูปจำหลักเทพพนมและสัตว์หิมพานต์ เช่น ครุฑ และนาค เป็นต้น
พิธีบวงสรวงอัญเชิญราชรถเพื่อซ่อมบำรุง
สำหรับราชรถน้อย ราชรถโถง พระยานมาศ และรถปืน รวม๙ รายการนี้ใช้ สำหรับพระราชวงศ์และสมเด็จพระสังฆราชานั้นได้พบว่าของเดิมได้เสื่อมสภาพลง ทำให้กระจกประดับ ตัวไม้จำหลักลวดลายนั้นชำรุด บางส่วนก็หลุด หักหาย จนไม่สามารถใช้การได้
แต่ด้วยราชรถโถงดังกล่าวเป็นผลงานศิลปกรรมที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ซึ่งเคยถูกใช้ในงานพระราชพิธี ทรงโกศพระบรมวงศานุวงศ์ นั้นยังคงมีความงดงามทางด้านศิลปะที่ควรแก่การอนุรักษ์ เก็บรักษาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ต่อไป กระทรวงวัฒนธรรมจึงได้มอบหมายให้กรมศิลปากร จัดทำโครงการอนุรักษ์และบูรณะราชรถ ราชยาน ที่จัดแสดง ณ ระเบียงหมู่พระวิมานด้านทิศเหนือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ขึ้น โดยในปีงบประมาณ ๒๕๕๗ กรมศิลปากรได้จัดสรรงบประมาณจากโครงการอนุรักษ์และพัฒนาพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) จำนวนสี่ล้านบาทถ้วน ให้สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติและสำนักช่างสิบหมู่ ดำเนินการอนุรักษ์และบูรณะรถโถง ๒ รายการ และยานมาศสามลำคาน ๑ รายการ รวมทั้งสิ้น ๓ รายการ
พระยานมาศสามลำคานของเก่า
การบูรณะราชรถ ราชยาน นี้จะดำเนินการบูรณะเชิงอนุรักษ์ โดยขั้นตอนในการดำเนินงานจะมีการบันทึกรายละเอียดสภาพราชรถ และราชยานก่อนการอนุรักษ์ ซ่อมโครงสร้างไม้ให้แข็งแรง ซ่อมแซมล้อของราชรถ รถโถง ให้แข็งแรงและสามารถเคลื่อนที่ได้ ทำความสะอาดทอง กระจกที่ปิดประดับ ซ่อมแซมส่วนประกอบ และ ลวดลายประดับที่ทำด้วยไม้ โลหะ และผ้า ปิดทองประดับกระจกส่วนที่ชำรุดเสื่อมสภาพบันทึกรายละเอียดสภาพราชรถและราชยานหลังการอนุรักษ์ ใช้ระยะเวลาดำเนินการ ๑ ปีเมื่อได้อนุรักษ์และบูรณะแล้วจะได้จัดแสดงให้ความรู้เรื่อง ราชรถ ราชยาน แก่ประชาชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ให้รู้ถึงขนบธรรมเนียมประเพณี ของการใช้ราชรถ ราชยานในสังคมไทยต่อไป
พระมหาเวชยันตราชรถ
รถโถงประดิษฐานวอช่อฟ้า
ราชรถโถงสมัยรัตนโกสินทร์
อธิบดีกรมศิลปากรสวมมาลัยให้ราชรถ
พระแท่นบนยานมาศสามลำคานขนาดใหญ่
รถโถงสำหรับเทียมม้า 4 ล้อ
รถปืนใหญ่ล้อเหล็ก
ราชรถ สมัยรัชกาลที่ 5
ราชรถน้อยสำหรับพระราชพิธีต่างๆ
ราชรถโถงทรงพระโกศพระบรมวงศานุวงศ์
Paladisai@siamrecorder.com
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี