ชื่อหนังสือ นักข่าวสายโจร
ผู้แต่ง สุทิน วรรณบวร
ผู้ผลิต สำนักพิมพ์สามสหาย / ราคา 199 บาท / 288 หน้า
คำว่า “นักข่าวสายโจร”ทำให้ เกิดแรงจูงใจต้องหยิบขึ้นมาดู เพื่อหาคำตอบว่า “โจร”ที่เติมท้ายคำว่า “นักข่าว”มีความหมายว่าอย่างไร
เนื่องจากปัจจุบัน “นักข่าว”ที่ มีทั้งภาคเอกชน ภาครัฐ และ ภาคสมัครเล่น หรือ จิตอาสา เต็มเกลื่อนเมืองไปหมด จน คำว่า “นักข่าว” สามารถแผลงออกเป็น “นักต่างๆ”เลอะเทอะไปหมด ไม่ว่าจะเป็น “นักรีดไถ, นักเบ่ง และ นักแอบอ้าง “ เป็นได้แม้กระทั่ง “นักข่าวผี” อย่างที่ สมาคมนักหนังสือพิมพ์เขาให้คำนิยามไว้นั่นแหละ
“สุทิน วรรณบวร” เป็นนักข่าว “สายโจร” ตามคำนิยามที่ตัวเองเชื่อมโยงกับหน้าที่การทำข่าวในการ เสาะแสวงหาข่าวตามแหล่งต่างๆอันเป็นที่สนใจของประชากรโลก เพราะ เขาเป็นนักข่าวของสำนักข่าวต่างประเทศ ที่เผยแพร่ข่าวไปทั่วโลก ไม่ใช่อยู่ในประเทศใดประเทศหนึ่งเท่านั้น
งานข่าวของ “สุทิน”จึงเกี่ยวข้องกับ นโยบายของแต่ละประเทศ ที่ต่อสู้เพื่อเป้าหมายของการปกครอง พื้นที่ข่าว ส่วนใหญ่จะอยู่ตามตะเข็บชายแดนไทย ที่ต้องเกี่ยวข้องกับ ชนกลุ่มน้อย ซึ่งมีนโยบายการปกครองขัดแย้งกับ นโยบายการปกครองของประเทศ ได้แก่ พวก ลาว กัมพูชา เวียดนาม พม่า ฯลฯ ประสบการณ์ชีวิตของ “นักข่าวสายโจร”ผู้นี้จึงผูกพันอยู่กับพวก สงครามกองโจร เช่น กองโจรเขมรแดง พวกคะยา ว้า คะฉิ่น กระเหรี่ยง ขุนส่า พูโล และ ชนชาติต่างๆที่มีนโยบายการปกครองขัดกับนโยบายภายในประเทศของตนเอง
อ่านหนังสือเล่มนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบ สิ่งที่ได้รับรู้คือ การทำงานของ นักข่าว ที่ เต็มไปด้วย ความยากลำบาก เสี่ยงอันตรายทั้งชีวิต และอิสรภาพ สำหรับคนที่ หวั่นไหว อ่านแล้ว คงไม่อยากให้ลูกหลานทำอาชีพนักข่าวแน่ๆ แต่สำหรับคนที่รัก การผจญภัย เห็นว่า โลกนี้ น่าเรียนรู้ และ คิดว่า ชีวิตที่เกิดมาทั้งทีควรมีอิสระในการดำเนินชีวิต คนเหล่านี้คง ปรารถนาที่จะเป็นอย่าง “สุทิน วรรณบวร”
สำหรับผม เมื่ออ่านจบแล้วทำให้คิดว่า ชีวิตของ “สุทิน”ช่างโชคดีอะไรอย่างนั้น ที่ได้เห็นโลกกว้างมากกว่าคนอื่นๆอีกหลายสิบล้านคน เลยทำให้นึกไปถึงว่า ทำไม “สุทิน”ไม่เอาประสบการเหล่านั้นมาเขียนเป็นนิยาย เพราะ เขาได้พบบรรยากาศจริง และข้อมูลจริง หากสามารถผูกเรื่องให้เป็นนิยายจะ มีทั้งความสนุก และความสมจริง ที่หาไม่ได้ง่ายๆบนหนังสือนิยายไทยในเวลานี้
พอดีได้ยินเพื่อนร่วมงานบอกให้ทราบว่า ตอนนี้ “สุทิน” มีผลงานด้านนิยายออกมาวางตลาดแล้ว ชื่อเรื่องว่า “ นางฟ้าสาละวิน” เป็นนิยายที่เขียนจากเรื่องจริง บรรยากาศจริงของชนกลุ่มน้อยในพม่า ผมคงพลาดไม่ได้แน่ๆ
โดย ชนิตร ภู่กาญจน์.
พระพุทธศาสนาในเวียดนาม
เผยเรื่องราวศาสนาพุทธในระบอบคอมมิวนิสต์
“พระพุทธศานาในเวียดนาม” เป็นหนังสือที่ “พระมหาดาวสยาม วชิรปัญโญ, ดร.” ได้รวมรวมไว้เมื่อสมัยที่ศึกษาปริญญาโท และปริญญาเอกที่ประเทศอินเดีย ที่ได้เห็นภิกษุ สามเณร จากประเทศเวียดนามเป็นจำนวนมากถูกส่งมาเรียนที่ประเทศอินเดีย จึงเกิดข้อสงสัยว่า เหตุใดประเทศที่ผ่านสงคราม และปกครองด้วยระบบอบคอมมิวนิสต์ ถึงได้มีกำลังทรัพย์ในการส่งภิกษุสามเณรมาศึกษาเล่าเรียนได้เป็นจำนวนมากถึงเพียงนี้เนื้อหาภายในเล่ม กล่าวถึงการเข้ามาของพระพุทธศาสนาสู่เวียดนามตั้งแต่สมัยอาณาจักรจามปา กระทั่งเวียดนามเข้าสู่การปกครองของจีนอย่างยาวนาน พระพุทธศาสนาในเวียดนามซึ่งขณะนั้นได้รับผลกระทบจากสภาพความวุ่นวายทางการเมืองและสงครามเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันจำหน่ายเล่มละ 145 บาท.
เรื่องราวของผีญี่ปุ่นกับความเชื่อ
วรรณกรรมการ์ตูนสำหรับเด็กและผู้ใหญ่
“ผีญี่ปุ่น” เป็นการ์ตูนวรรณกรรมในชุด เรื่องผีๆรอบโลก เขียนโดย “Kwon,Chan-ho” แปลเป็นไทยโดย “ภาสกร รัตนสุวรรณ” บอกเล่าถึงเรื่องลึกลับสุดหลอนจากประเทศญี่ปุ่น ที่กล่าวไว้ในตำนานผี เช่น หญิงสาวสองปาก , ผีคอยาว และ สตรีหิมะ เป็นต้น นอกจากนี้ยังบอกเล่าให้ทราบถึงความเชื่อในทัศนคติของชาวญี่ปุ่น ที่พิสูจน์ไม่ได้ อาทิเช่น การใช้ตุ๊กตาไล่ฝน, และ การนำเอาตะเกียบ หรือ ตะหลิว ไปเป็นเครื่องไล่ผี เป็นต้น รวมไปถึง แนะนำความเชื่อเกี่ยวกับการใช้วัสดุต่างๆไล่ผี พร้อม เรื่องสั้นเกี่ยวกับผีๆ อาทิ เรื่อง สยองขวัญในบ้านผีสิง และเรื่อง พรายน้ำจอมฉุด เป็นต้น จำหน่ายเล่มละ 175 บาท.
จากภาพยนตร์ไทยมาเป็นภาพการ์ตูน
ความรักของนักมวยกับครูสาว “คิดถึงวิทยา”
“คิดถึงวิทยา”หนังสือที่ถ่ายทอดเรื่องราวของภาพยนตร์ไทยออกมาในรูปแบบของการ์ตูน จาก “ทีมงานการ์ตูนไทยสตูดิโอ” จำหน่ายเล่มละ 50 บาท เป็นหนังสือที่ถอดเนื้อหามาจากภาพยนตร์ที่กำลังฉายอยู่ในขณะนี้ เป็นเรื่องราวความรักของคนสองคนที่อยู่ที่เดียวกันแต่ต่างเวลา คนหนึ่งเป็นนักมวยปล้ำ อีกคนหนึ่งเป็น ครูสาว เมื่อทั้งสองได้มาพบกัน ความสัมพันธ์อันแน่นเฟ้นก้อเกิดขึ้นจนยากที่จะขาดจากกัน แต่สุดท้ายทั้งสองก็ไม่สามารถที่จะอยู่ด้วยกันได้ชั่วกาลนาน ด้วยประเด็นของความรักที่มีอันต้องแตกหักต่อกัน สุดท้ายเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นมาจนได้
เผยชีวิตที่รุ่งเรืองเพราะคุณธรรม
จากเสื่อผืนหมอนใบของชาวจีนโพ้นทะเล
“มรดกแห่งชีวิต” เป็นหนังสือที่ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของ ชาวจีนโพ้นทะเล ที่เข้ามาอาศัยประเทศไทย ด้วย เสื่อผืน หมอนใบ ทำงานเป็น ช่างทอง ในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 แล้วสามารถสร้างตัวเองจนเติบใหญ่กลายเป็นเจ้าของร้านทองที่ใหญ่โตในประเทศไทย เรื่องราวทั้งหมด เขียนขึ้นโดย โอ้วจิ้งเกียง” ชาวจีนโพ้นทะเล แปลเป็นไทยโดย “ชลทิศ ปาสาทิกา” จำหน่ายเล่มละ 160 บาท เนื้อหาทั้งหมด จะทำให้ผู้อ่าน เกิดปัญหาในการดำเนินชีวิตที่ดี ภายใต้คุณค่าแห่งคุณธรรม ซึ่งจะชี้นำให้ชีวิตก้าวขึ้นไปสู่ความสำเร็จดังที่วาดหวังเอาไว้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี