ปีใหม่ 2561 มาถึงแล้ว ท่านผู้อ่านได้ถามตนเองหรือไม่ว่า ปีที่กำลังผ่านไป ท่านทำตามที่ตั้งใจว่าจะทำ ได้เป็นผลสำเร็จหรือไม่
ผมได้ตั้งเป้าหมายปี 2560 ไว้ 2 อย่างเท่านั้นคือ ลดน้ำหนักตัวให้ได้ถึง 75 กก. หรือรักษาน้ำหนักที่มีอยู่(77 กก.)และปรับปรุงสไลด์การสอนแพทย์ประจำบ้านอายุรศาสตร์ปีที่ 2 ให้สำเร็จ เป้าหมายประการแรกทำสำเร็จแค่เพียงไม่ปล่อยให้น้ำหนักตัวกลับขึ้นไปเท่าเดิมคือ 80 กว่ากก. ขณะนี้อยู่ที่ระหว่าง 76-78 กก. ถือว่าใช้ได้ ทุกส่วนของร่างกายดีหมด ยกเว้นพุง!? ยังอ้วนเกินเกณฑ์อยู่ครับ คือใหญ่กว่า 90 ซม.(หญิงไม่ควรเกิน80 ซม.)
ส่วนสไลด์ก็ทำสำเร็จ ด้วยความช่วยเหลือทางอ้อมของหน่วยทางเดินอาหาร จุฬาลงกรณ์ เพราะชั่วโมงสอนผมน้อยลง จึงมีเรื่องต้องปรับให้ทันสมัยไม่กี่เรื่อง ปกติผมสอนทุกเช้า 07.00-08.00 น. จันทร์ถึงศุกร์ แต่ระยะหลังทางภาควิชามีกิจกรรมที่แพทย์ประจำบ้านต้องเข้าร่วม ทำให้ขาดวันศุกร์ไป และเร็วๆ นี้ทางหน่วยได้ปรับตารางการเรียนการสอนแพทย์ประจำบ้านที่ผ่านหน่วยระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากมีอาจารย์มากมายที่ active ไฟแรง เก่ง ผมเลยเหลือเพียง 2 วันต่อสัปดาห์เท่านั้น อีก 2 วันน้องๆ จะสอนหัวข้อต่างๆ ตามที่ตนเองถนัด ซึ่งผมรู้สึกเสียดาย เพราะสอน 5 ครั้ง (ทุกวัน)มาหลายสิบปีต่อสัปดาห์ สอนสัปดาห์ละ 2 ครั้ง รู้สึกน้อยไป
ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าผมเก่งกว่าลูกศิษย์ แต่ตรงกันข้าม ลูกศิษย์ผมทุกๆ คนเก่งกว่าผมแล้วเดี๋ยวนี้ ในเรื่องที่เขาทำ ที่เขาถนัด แต่เป็นเพราะผมสอนเรื่องระบบทางเดินอาหารที่ถนัดจริงๆ (ที่ไปบรรยายร่วมกับชาวต่างประเทศที่มีประสบการณ์มาก) เพียงไม่กี่เรื่อง นอกนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ใช่วิชาการ อย่างน้อยเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร กล่าวคือผมสอนเรื่อง The Art of Living หรือการดำเนินชีวิต หรือการบริหารความเสี่ยงในชีวิต การเตรียมตัวเข้าสู่ผู้สูงอายุ รวมทั้งปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ผมจะสอนวิธีเรียน วิธีทำงาน ให้เรียนเป็น สรุป จับประเด็นเป็น สอนให้เป็นคนดี (มีเหตุผล เห็นแก่ส่วนรวม ไม่โลภ ฯลฯ) ที่เก่ง จะเก่งได้ต้องขยันต่อเนื่อง อยากเรียนรู้ตลอดชีวิต และต้องเก่ง 7 อย่างคือ เก่งคิด, คน, งาน,เงิน, เวลา, “ขาย” (พูด เขียน อธิบาย) และเก่งฟัง ต้องรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ของเรา คือ 1) ความพอเพียง 2) ความมีเหตุผล 3) การมีภูมิคุ้มกัน โดยต้องมีความรอบคอบและมีคุณธรรม ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนำไปใช้กับชีวิตประจำวันได้เลยในทุกเรื่อง
ผมจะสอนให้เขียน C.V.(curriculum vitae)หรือประวัติของตนเองให้ดี (คือการ“ขาย”ของ หรือตนเองให้เก่ง) ผู้ที่อ่าน CV ของเราจะได้รับเราที่ไปสมัครงาน เช่น ไปเมืองนอก ให้เห็นความสำคัญของภาษาอังกฤษ (รวมทั้งภาษาจีนและญี่ปุ่น) สอนแม้กระทั่งอีกหน่อยเวลามีบุตร ให้ส่งบุตรไปเรียนภาษาอังกฤษที่อังกฤษช่วงหยุดพักร้อนใหญ่ ตั้งแต่บุตรอายุ 10 ถึง 16 ปี ถ้าสอบภาษาอังกฤษได้คะแนน 90% ก็มีโอกาสดีที่จะเข้ามหาวิทยาลัยในไทย แนะวิธีส่งลูกไปเรียนเมืองนอก และการไปศึกษาต่อเมืองนอกของแพทย์เอง แนะแนวทางการก้าวหน้าในการทำงาน(career path) สำหรับผู้ที่อยากอยู่ในโรงเรียนแพทย์ ฯลฯ หาที่เรียนหรือที่ทำงานให้ แนะให้ไป elective ที่เมืองนอก แนะวิธีตรวจผู้ป่วยรายสั้นรายยาว วิธีสอบสัมภาษณ์ แนะวิธีที่จะไม่ให้ถูกฟ้อง ฯลฯ
นอกจากเรื่องวิชาการแล้ว ผมยังแนะสิ่งสำคัญอีก 2 เรื่องคือ ความรู้ด้านการเงิน การหาเงิน การออม การใช้เงิน การลงทุน สอนให้รู้จัก financial literacy, financial freedom, passive income ต้องเริ่มออมทันทีที่ได้รับเงินเดือนหรือออมลงทุนทันทีที่ทราบจากผม เพราะสมัยลูกศิษย์ผมอาจจะมีอายุอยู่ได้ถึง 90-100 ปี ฉะนั้นต้องเตรียมตัวให้มีเงินพอใช้ไปได้อีก 30 ปีหลังเกษียณ ปัจจุบัน
การออมในธนาคารอาจได้ดอกเบี้ยไม่เท่าเงินเฟ้อ เราต้องมีความรู้ที่จะใช้เงินไปทำเงิน ไปต่อเงิน ให้อย่างมีประสิทธิภาพ
แต่ก่อนการลงทุนในหุ้น ต้องหาความรู้ก่อน และที่สำคัญที่สุดอีกอันหนึ่งคือ การดูแลสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ตั้งแต่แรกพบผม ถ้าไม่ได้ทำมาก่อน เพราะ 68% ของการเสียชีวิตในโลกเกิดจากโรคที่เรื้อรัง ซึ่งก็คือ โรคที่ป้องกันหรือบริหารความเสี่ยงได้
โดยสรุปหลักๆ ผมสอน 5 เรื่องคือ การเป็นคนดี (ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ที่ผมถือมากที่สุด ลูกศิษย์ผมต้องมีความดีเหนือสิ่งอื่นใด) ที่เรียนเก่ง รู้เรื่องการลงทุน ความเป็นคนที่มีความรอบรู้ และการมีสุขภาพที่ดี ซึ่งคงไม่มีใครสอนเรื่องต่างๆ เหล่านี้ที่ผมสอน ซึ่งไม่มีอยู่ในหลักสูตร แต่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ในการดำรงชีวิตให้ประสบความสำเร็จ
ฉะนั้นผมจึงปรับปรุงการบรรยายของผมให้ทันสมัยได้ในปีนี้ เนื่องจากไม่ต้องปรับปรุงหลายหัวข้อ (เพราะสอนน้อยลง)
แต่ผมได้ทำสไลด์ใหม่ๆ มาก เช่น การเตรียมตัวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ความปลอดภัยบนถนน สไลด์เกี่ยวกับ trans fats ไม่น่าเชื่อ แต่ผมอ่าน เขียนทุกวัน บางครั้ง 3 วันหยุดไม่ได้ทำอะไร นอกจากกิน นอน เดิน อ่าน เขียน!! ซึ่งเรื่องต่างๆ ผมนำประสบการณ์มาจากการที่ผมเป็นที่ปรึกษา เป็นอนุกรรมาธิการ ฯลฯ ที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติมาถ่ายทอดความรู้ให้ศิษย์ต่อ
สุดท้ายนี้ เนื่องในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ผมขอสวัสดีปีใหม่ ขอให้ทุกท่านและครอบครัวเป็นคนดี ที่เก่ง รอบรู้ และมีสุขภาพดี ขอให้เป็นประชาชนที่ดีจริงๆ ของชาติ และมาร่วมพัฒนาประเทศในสิ่งที่ทำได้ ง่ายที่สุดคืออย่าเบียดเบียนผู้อื่น ไปบริจาคโลหิตในเดือนวันเกิดและทุก 3 เดือนจากนั้น
สวัสดีครับ โปรดกรุณาจำและนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพ่อหลวง ร.9 ของเราไปใช้ในชีวิตประจำวันให้ได้นะครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี