คณะกรรมาธิการการสังคม เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยคณะอนุกรรมาธิการกิจการเด็ก และเยาวชน ได้จัดการเสวนาโต๊ะกลมเรื่อง “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อการพัฒนาเด็กและเยาวชน : ปัญหาและอุปสรรค” โดย นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการการสังคม เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส เป็นประธานเปิดการเสวนา และคุณหญิงทรงสุดา ยอดมณี รองประธานคณะกรรมาธิการและประธานคณะอนุกรรมาธิการกิจการเด็ก และเยาวชน กล่าวรายงาน การจัดเสวนาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดเวที ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รับฟังข้อเสนอแนะ และรวบรวมข้อเสนอจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางในการบูรณาการและประสานความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการพัฒนาเด็กและเยาวชนของท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ รวมถึงการปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ที่เหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ มีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการเสวนา ได้แก่ ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นต้น
เป็นที่ทราบกันดีว่า “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” นับเป็นองค์กรหนึ่งที่มีบทบาทและหน้าที่ที่สำคัญในการดูแลและจัดทําบริการสาธารณะและกิจกรรมสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่น โดยเฉพาะบทบาทในการส่งเสริมและพัฒนาเด็กและเยาวชน ซึ่งถือเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีความสำคัญและต้องการการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพเพื่อให้สามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพต่อไป ซึ่งสอดคล้องตามนโยบายกระจายอำนาจการจัดการศึกษาสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งได้กำหนดไว้ในกฎหมายสำคัญหลายฉบับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ซึ่งได้บัญญัติอำนาจหน้าที่ไว้ในหมวด ๑๔ มาตรา ๒๕๐ วรรคแรกว่า “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีหน้าที่และอํานาจดูแลและจัดทําบริการสาธารณะและกิจกรรมสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษาให้แก่ประชาชนในระดับท้องถิ่น ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ”
ปัจจุบันมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวนไม่น้อยที่สามารถส่งเสริมและจัดการศึกษา ตลอดจนพัฒนาด้านอื่นๆ ที่จำเป็นให้แก่เด็กและเยาวชนได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญประการหนึ่งคือ ความเข้มแข็งของผู้บริหาร การเห็นความสำคัญของการพัฒนาเด็กและเยาวชน รวมทั้งมีทรัพยากรที่เพียงพอต่อการสนับสนุนและพัฒนา เช่น ทรัพยากรบุคคล งบประมาณ เป็นต้น อย่างไรก็ดี ยังคงมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นส่วนหนึ่งยังคงเกิดปัญหาในการดำเนินงาน ซึ่งอาจเกิดจากการที่ผู้บริหารขาดความรู้ความเข้าใจด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน และขาดแคลนทรัพยากรบุคลากรและงบประมาณ รวมทั้งปัญหาอุปสรรคที่เกิดจากกฎหมาย กฎ ระเบียบ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการบริหารจัดการ เป็นต้น
จากสภาพปัญหาดังกล่าว จึงทำให้ท้องถิ่นแต่ละแห่งมีคุณภาพและมาตรฐานในการพัฒนาเด็กและเยาวชนที่ไม่ทัดเทียมกัน ดังนั้น คณะกรรมาธิการการสังคม เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยคณะอนุกรรมาธิการกิจการเด็ก และเยาวชน จึงได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงเห็นควรจัดการเสวนา หัวข้อ “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อการพัฒนาเด็กและเยาวชน : ปัญหาและอุปสรรค” โดยการเสวนาจะเริ่มต้นด้วยการนำเสนอบทบาทและอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการพัฒนาเด็กและเยาวชน โดย นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการฯ ต่อจากนั้นจะเปิดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และนำเสนอข้อมูล ข้อเท็จจริง ปัญหาอุปสรรค และผลกระทบที่เกิดขึ้น ตลอดจนรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และร่วมกันกำหนดแนวทางในการบูรณาการและประสานความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการพัฒนาเด็กและเยาวชนของท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ รวมถึงการปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องที่เหมาะสมต่อไป
การเสวนาแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อการพัฒนาเด็กและเยาวชน : ปัญหาและอุปสรรค”
สืบเนื่องจากคณะอนุกรรมการจัดสมัชชาการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ได้จัดประชุมหารือเพื่อจัดทำแนวทางการขับเคลื่อนมติสมัชชาการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๐ เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ซึ่งที่ประชุมได้หารือในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน ดังนี้
๑.พิจารณาในประเด็น “ท้องถิ่นกับการพัฒนาเด็กเยาวชนสู่ประเทศไทย ๔.๐” ในมติที่สำคัญ/เร่งด่วน จำนวน ๒ มติ จากทั้งหมด ๗ มติ ได้แก่
๑) ขอให้มีมติคณะรัฐมนตรีกำหนดเป็นนโยบายสำคัญแห่งชาติในการพัฒนาเด็กและเยาวชน โดยขอให้กระทรวงมหาดไทยควรต้องออกกฎหมายและระเบียบเพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถือเป็นนโยบายที่ต้องปฏิบัติ เพื่อให้เอื้ออำนวยต่อการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการส่งเสริมพัฒนา คุ้มครอง และจัดสวัสดิการแก่เด็กและเยาวชนในท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการเบิกจ่ายงบประมาณ
๒) ขอให้กระทรวงมหาดไทยออกระเบียบว่าด้วยการใช้จ่ายเงินเพื่อการคุ้มครองและส่งเสริมพัฒนาเด็กและเยาวชน
และเพื่อให้การจัดทำแนวทางในการขับเคลื่อนมติสมัชชาฯ ดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ชัดเจนและครอบคลุมในทุกประเด็นก่อนที่จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ในช่วงเดือนมกราคม ๒๕๖๑ ต่อไป จึงเห็นควรจัดเสวนาโต๊ะกลมในวันนี้ และได้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งที่เป็นระดับนโยบายและหน่วยปฏิบัติ เข้าร่วมการประชุมเพื่อร่วมกันพิจารณามติดังกล่าวและหารือเกี่ยวกับแนวทางในการขับเคลื่อนงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
สาระสำคัญจากการประชุม ดังนี้
สืบเนื่องจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้มีความเห็นเกี่ยวกับการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นว่ามีความซับซ้อนในภารกิจของหน่วยงานส่งผลให้เกิดปัญหาในการเบิกจ่ายงบประมาณในการดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องการส่งเสริมและพัฒนาเด็กและเยาวชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายรองรับที่ชัดเจนเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ในการดำเนินกิจกรรมดังกล่าว
ต่อจากนั้น ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาเกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
๑.กฎหมายจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ พระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. ๒๔๙๖ พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๗ และพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. ๒๕๔๐ ซึ่งได้กำหนดอํานาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไว้
๒.พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๒
- มาตรา ๑๖ ให้เทศบาล เมืองพัทยา และองค์การบริหารส่วนตำบลมีอำนาจและหน้าที่ในการจัดระบบการบริการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นของตนเอง (๑๐) การสังคมสงเคราะห์ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก สตรี คนชรา และผู้ด้อยโอกาส
- มาตรา ๑๗ ภายใต้บังคับมาตรา ๑๖ ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดมีอำนาจและหน้าที่ในการจัดระบบบริการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นของตนเอง ดังนี้
(๗) การส่งเสริมประชาธิปไตย ความเสมอภาค และสิทธิเสรีภาพของประชาชน
(๘) การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของราษฎรในการพัฒนาท้องถิ่น
(๒๕) สนับสนุนหรือช่วยเหลือส่วนราชการ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นในการพัฒนาท้องถิ่น
(๒๗) การสังคมสงเคราะห์ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก สตรี คนชรา และผู้ด้อยโอกาส
(๒๘) จัดทำกิจการอื่นใดตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่นกำหนดให้เป็นอำนาจและหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด
จากข้างต้นจึงจะเห็นได้ว่ากฎหมายได้ระบุอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการดำเนินงานด้านเด็กและเยาวชนในลักษณะที่ค่อนข้างกว้าง และไม่มีระเบียบรองรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการดำเนินงาน ส่งผลให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประสบปัญหา/ข้อติดขัดในการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมด้านเด็กและเยาวชนในพื้นที่ โดยเฉพาะการตรวจสอบอำนาจหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการใช้งบประมาณดำเนินงาน
(อ่านต่อสัปดาห์หน้า)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี