ปัจจุบันพอมองไกลไม่ชัด คนเริ่มคิดเองว่าตัวเองสายตาสั้น ยิ่งไปร้านแว่นพอเขาให้แว่นสายตาสั้นมาใส่จะชัดขึ้นทันที แต่ที่จริงแล้ว ท่านสายตาสั้นเทียมหรือ ท่านเป็นสายตาสั้นจริง
สายตาสั้นเทียม เกิดจากการเพ่งที่มากเกินไปนานเกินไปโดยเฉพาะการมองใกล้ๆ เพราะปกติแล้วทุกคนเวลามองใกล้ กล้ามเนื้อในตาต้องหดตัวเพื่อให้เลนส์ตาโป่งออก เราจึงเห็นใกล้ๆ ชัด เมื่อเราเลิกมองใกล้กล้ามเนื้อตาจะคลายตัวโดยอัตโนมัติ ทำให้เราเห็นที่ไกลชัดตา สายตาสั้นเทียมเริ่มพบมากขึ้นในสมัยนี้ สมัยที่ทุกคนก้มหน้าดูแต่จอมือถือ คอมพิวเตอร์เกือบตลอดเวลา
สังเกตได้อย่างไรว่าน่าจะเป็น สายตาสั้นเทียม
- อาการมองไกลไม่ชัดนี้จะเป็นๆ หายๆ เช่น บางทีเห็นชัดดี บางทีมัวมากมักมัวมากหลังจากใช้สายตาที่ใกล้นานๆ
- อาจมีอาการปวดตา ปวดหัวร่วมด้วยเวลาใช้สายตา
- อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ร่วมด้วยหลังใช้สายตานานๆ
- ใส่แว่นสายตาสั้นแล้วมองใกล้ไม่ชัด และอาจปวดตา ปวดหัวมากขึ้น
- พบบ่อยในคนอายุน้อยที่ใช้สายตามองใกล้นานๆ เพราะคนอายุน้อยจะมีกำลังในการเพ่งมาก
การวินิจฉัย
เมื่อตรวจวัดสายตาแล้ว เช่น สั้น -4.00 ลองใส่แว่น -4.00 ถ้ายังเห็นไม่ชัด ให้ลองแว่นไปเรื่อยๆ จนชัด ถ้าคนไข้ชอบแว่นที่มากกว่าสายตาที่เราวัดได้ เช่น ใส่แว่น -5.00 แล้วชัดมาก แสดงว่ารายนี้มีสายตาสั้นเทียม
บางท่านวัดสายตาอย่างเดียวยังไม่ชัดเจน ให้หยอดยา ขยายม่านตา ซึ่งยานี้จะไปทำให้กล้ามเนื้อในลูกตาที่หดตัวผิดปกตินี้คลายออก แล้วหมอตาวัดสายตาใหม่ ถ้าวัดได้น้อยกว่าที่ตอนแรกวัดได้ เช่น วัดได้แค่สั้น -2.00 แสดงว่าสั้นจริงๆ -2.00 รายนี้จึงมีสายตาสั้นเทียม ร่วมกับสายตาสั้นจริงด้วยในรายนี้พยายามลดแว่นเป็น -2.00
เป็นสายตาสั้นเทียม แล้วต่อไปกลายเป็นสายตาสั้นจริงได้หรือไม่
เป็นไปได้ จึงต้องพยายามอย่าให้เป็นสายตาสั้นเทียมอยู่นานๆ
การรักษาสายตาสั้นเทียม
1.ถ้าเกิดจากการใช้สายตามากเกินไป
- ให้งดการใช้สายตาที่ใกล้ที่ไม่จำเป็น เช่น การเล่นเกมส์
- ถ้าจำเป็นต้องใช้สายตาที่ใกล้ ให้มีการพักเป็นช่วงๆ เช่น ดูคอมพ์ 30 นาที พัก 5 นาที โดยหลับตาหรือมองไปไกลๆ
- การใช้สายตาควรมีแสงสว่างที่เหมาะสม ไม่ให้มีแสงสะท้อนมาก ตัวหนังสืออย่าให้ตัวเล็กจนเกินไปทำให้ต้องเพ่งมาก
- ปรับเปลี่ยนแว่นสายตา โดยทั่วไป อาจต้องลดกำลังสายตาลง ทำให้ระยะแรกๆ ของการลดกำลังของแว่นตา จะรู้สึกว่าการมองไกลไม่ชัด
- ถ้าพักสายตาแล้วยังไม่หาย หมอตาจะพิจารณาให้ยาหยอดคลายกล้ามเนื้อไปใช้ที่บ้าน
- สำหรับการบริหารตา ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่ารักษาภาวะนี้ได้ ให้ระวังว่าการบริหารตาโดยเฉพาะการเพ่ง อาจทำให้อาการแย่ลง มีอาการปวดตา ปวดหัว
2.ถ้าเกิดจากมีโรค ให้รักษาโรค เช่น โรคม่านตาอักเสบ อุบัติเหตุที่ก้านสมอง ถ้าเกิดจากการใช้ยารักษาต้อหินกลุ่ม anticholinesteraseeye drop พิจารณาใช้ยาอื่นทดแทน
ติดตามความรู้เรื่องสุขภาพตาเพิ่มเติมได้ที่ facebook page
“สุขภาพตา โดย ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทยAll About Eye by RCOPT”
https://www.facebook.com/AllAboutEyebyRCOPT และที่ http://www.rcopt.org
รศ.(พิเศษ) พญ.โสฬส วุฒิพันธุ์
ฝ่ายวิชาการ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี