(ต่อจากฉบับที่แล้ว)
๔.กิจกรรมส่งเสริมวิถีประชาธิปไตยในโรงเรียน โรงเรียนได้จัดให้มีกิจกรรมเพื่อส่งเสริมวิถีประชาธิปไตยในโรงเรียน
ดังนี้
๔.๑ กิจกรรมเลือกตั้งคณะกรรมการสภานักเรียน
สภานักเรียน มีอำนาจหน้าที่ดังนี้
(๑) นำเสนอโครงการ/กิจกรรมของสภานักเรียนต่อครูที่ปรึกษาคณะกรรมการสภานักเรียน และฝ่ายบริหารพิจารณาเพื่อดำเนินการ
(๒) ดำเนินกิจกรรมและรับผิดชอบการปฏิบัติงานของคณะกรรมการสภานักเรียนให้เป็นไปตามระเบียบของโรงเรียน
(๓) เป็นผู้ประสานงานระหว่างฝ่ายต่างๆ ในสภานักเรียนและโรงเรียน
(๔) สร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้เกิดขึ้นภายในสภานักเรียน
(๕) ปฏิบัติงานอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย
๔.๒ การนำเอาหลักการประชาธิปไตยมาใช้ในชีวิตประจำวัน โดยมีหลักอยู่ 3 ด้าน ซึ่งประกอบด้วย
๔.๒.๑ หลักคารวะธรรม
- เคารพในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
- เคารพซึ่งกันและกันทางกาย
- เคารพกันทางวาจา
- เคารพสิทธิของผู้อื่น
- เคารพในความคิดเห็นของผู้อื่น
- เคารพในกฎระเบียบของสังคม
ทั้งนี้ ได้ดำเนินกิจกรรมตามหลักคารวะธรรม เช่น กิจกรรมหน้าเสาธง กิจกรรมวันสำคัญทางศาสนา กิจกรรมค่ายทักษะนักเรียนอยู่ประจำ เป็นต้น
๔.๒.๒ หลักสามัคคีธรรม
- การรู้จักประสานประโยชน์
- ร่วมมือกันในการทำงาน
- เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม
- รับผิดชอบต่อหน้าที่
- ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
ทั้งนี้ ได้ดำเนินกิจกรรมตามหลักสามัคคีธรรม เช่น กิจกรรมวันเกียรติยศ กิจกรรมวันไหว้ครู กิจกรรมบายศรีและปัจฉิมนิเทศ
๔.๒.๓ หลักปัญญาธรรม
- การรู้จักรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
- การใช้เหตุผลและความถูกต้อง ในการตัดสินปัญหา
- มีความรอบรู้ในเรื่องต่างๆ เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ได้ดำเนินกิจกรรมตามหลักปัญญาธรรม เช่น กิจกรรมทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้ กิจกรรมมหกรรมวิชาการ กิจกรรมค่ายคุณธรรม กิจกรรมจิตอาสา (จอ.สว) กิจกรรมพัฒนาการคิดด้วย STEM กิจกรรมสอนพิเศษกลางคืน กิจกรรมยุวชนศาลรัฐธรรมนูญ
๔.๓ การดำเนินการจัดกิจกรรมต้นไม้จริยธรรม ซึ่งประกอบด้วย
๔.๓.๑ กระตุ้นให้ตระหนัก
๔.๓.๒ รู้จักและเข้าใจ
๔.๓.๓ แสดงความรู้สึกออกมาได้
๔.๓.๔ เต็มใจพร้อมปฏิบัติ
๔.๓.๕ พัฒนาสู่ชั้นเรียน
๕. ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการของโรงเรียน
ปัญหาสำคัญคือ ปัญหาจำนวนนักเรียนมีแนวโน้มลดลง ปัจจัยประการหนึ่งเกิดจากการที่โรงเรียนจัดการเรียนการสอนในลักษณะอยู่ประจำ ซึ่งคณะครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งมีอยู่เพียง 33 คน จะต้องดูแลเด็กนักเรียน จำนวน 277 คน ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการเพิ่มภาระงานของครู ประกอบกับโรงเรียนได้รับการอุดหนุนงบประมาณจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายรายหัวต่อปีของนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เป็นจำนวน ๒,๕๐๐ บาท และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เป็นจำนวน ๓,๘๐๐ บาท ซึ่งไม่เพียงพอต่อการดำเนินการ ทำให้จำเป็นต้องขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมจากผู้ปกครอง เช่น ค่าอาหาร ซึ่งถือเป็นการเพิ่มภาระให้แก่ผู้ปกครอง
ข้อเสนอของโรงเรียนต่อคณะกรรมาธิการ เนื่องจากโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติฯ เป็นโรงเรียนที่ส่งเสริมการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์เป็นหลัก เช่นเดียวกับโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ซึ่งเป็นกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์แต่ได้รับค่าใช้จ่ายรายหัวต่อปีของนักเรียน เป็นเงินจำนวน ๘๔,๐๐๐ บาท ดังนั้น เพื่อให้เกิด
ความสอดคล้อง เหมาะสม และเกิดมาตรฐานที่ทัดเทียมกันจึงขอเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
ข้อเสนอของคณะกรรมาธิการ
- ควรนำวัสดุอุปกรณ์และเครื่องใช้ต่างๆ ที่มีอยู่มาประยุกต์ใช้เป็นเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์
- นโยบายปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ควรมุ่งไปที่การพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน มากกว่าการปรับปรุงโครงสร้างการบริหาร
- สนับสนุนให้โรงเรียนจัดการเรียนการสอนโดยเน้นให้เด็กเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง เช่น เกี่ยวข้าว ลงแขก เลี้ยงปลาเลี้ยงไก่ หมักปุ๋ยชีวภาพ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเสนอให้ปลูกผักและผลไม้ตามฤดูกาลเพื่อให้สามารถส่งโรงครัว และเป็นการสร้างรายได้หมุนเวียน
ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่คณะกรรมาธิการการสังคม เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ โทร.๐ ๒๘๓๑ ๙๒๒๕-๖ โทรสาร ๐ ๒๘๓๑ ๙๒๒๖
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ถนนอู่ทองใน ดุสิต กทม. 10300 email : dek_senate@hotmail.co.th หรือ Facebook: กมธ.พัฒนาสังคม
หรือ กลุ่มงานคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเด็กฯ วุฒิสภา โทร.02-831-9225-6 แฟกซ์ 02-831-9226
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี