๕๐ ปีแพทยสภา กับภารกิจดูแลแพทย์
และสร้างความเชื่อมั่น ศรัทธาให้ประชาชนโครงการหมอชวนวิ่ง....
แพทยสภาขอเชิญชวนประชาชน
มาดูแลสุขภาพให้ยั่งยืน
นายแพทย์สัมพันธ์ คมฤทธิ์ ประธานคณะอนุกรรมการโครงการหมอชวนวิ่ง กล่าวว่า ปัจจุบันการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังของประชาชน
มีอุบัติการณ์เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดความไม่สมดุลระหว่างจำนวนคนไข้และศักยภาพการรักษาของทุกโรงพยาบาล ในวาระครบรอบ ๕๐ ปีแพทยสภา และเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก แพทยสภาจึงได้จัดโครงการหมอชวนวิ่งโดยมีแนวคิดว่า การดูแลส่งเสริมสุขภาพของตนเองเป็นหน้าที่พื้นฐานของประชาชนทุกคน และมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้อนาคตของระบบสาธารณสุขมีความก้าวหน้าอย่างยั่งยืน ที่สำคัญบุคลากรทางการแพทย์ควรเป็นแบบอย่างที่ดี รวมถึงสามารถให้คำปรึกษาในการดูแลส่งเสริมสุขภาพ และการออกกำลังกาย เป็นการดูแลส่งเสริมสุขภาพที่ดีและเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
การจัดกิจกรรมหมอชวนวิ่ง นี้ จะเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคลากรทางการแพทย์กับประชาชนส่งเสริมให้บุคลากรทางการแพทย์เป็นต้นแบบในการสร้างเสริมสุขภาพด้วยการออกกำลังกาย /ส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลสุขภาพของตนเองด้วยการออกกำลังกายโดยการวิ่งหรือเดินที่ถูกวิธี และที่สำคัญสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในด้านการสร้างเสริมสุขภาพ
กิจกรรมวิ่งในครั้งนี้จะเชิญชวนบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นแกนนำในแต่ละจังหวัด ร่วมกับชมรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพจังหวัดนั้นๆ โดยวิ่งผลัดเปลี่ยนกันคนละ 3.5 กิโลเมตร เป็นระยะทางจากจังหวัดหนึ่งถึงจังหวัดถัดไป และส่งต่อไปเป็นทอดๆ จนถึงกระทรวงสาธารณสุข ในวันอาทิตย์ที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ เวลา ๑๖.๐๐-๑๘.๓๐ น. โดยในแต่ละจังหวัดจัดกิจกรรมต้อนรับทีมวิ่งผลัด และเชิญชวนประชาชนเดิน-วิ่งระยะทาง ๕ กม. ระหว่างเวลา ๑๖.๐๐-๑๘.๓๐ น. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสวมเสื้อซึ่งจะมีการจำหน่ายตัวละ๒๐๐ บาททั่วประเทศ ทั้งนี้จะเปิดรับสมัครนักวิ่งซึ่งเข้าร่วมเป็นทีมวิ่งผลัด และร่วมกิจกรรมในแต่ละพื้นที่ ซึ่งผู้สมัครจะได้รับเสื้อ ของที่ระลึก ๕๐ ปีแพทยสภาและประกาศนียบัตรอิเล็กทรอนิก โดยมีค่าลงทะเบียนท่านละ ๑,๐๐๐ บาท
นายแพทย์สัมพันธ์ฯ กล่าวว่า การจัดการวิ่ง แบ่งการวิ่งออกเป็น
15 สาย เริ่มจากจังหวัดชายแดนและรอยต่อของภาคทั่วประเทศ ดังนี้
๑) ภาคเหนือสาย ๑ (N1) จากจังหวัดแม่ฮ่องสอน
๒) ภาคเหนือสาย ๒ (N2) จากจังหวัดเชียงราย(แม่สาย)
๓) ภาคเหนือสาย ๓ (N3) จากจังหวัดน่าน
๔) ภาคอีสานสาย ๑ (NE1) จากจังหวัดเลย
๕) ภาคอีสานสาย ๒ (NE2) จากจังหวัดบึงกาฬ
๖) ภาคอีสานสาย ๓ (NE3) จากจังหวัดนครพนม
๗) ภาคอีสานสาย ๔ (NE4) จากจังหวัดมุกดาหาร
๘) ภาคอีสานสาย ๕ (NE5) จากจังหวัดอุบลราชธานี(อ.สิรินธร)
๙) ภาคตะวันออกสาย ๑ (E1) จากจังหวัดสระแก้ว
๑๐) ภาคตะวันออกสาย ๒ (E2) จากจังหวัดตราด (อ.คลองใหญ่)
๑๑) ภาคตะวันตก (W) จากจังหวัดกาญจนบุรี (ต.ด่านมะขามเตี้ย)
๑๒) ภาคใต้สาย ๑ (S1) จากจังหวัดนราธิวาส (สุไหงโก-ลก)
๑๓) ภาคใต้สาย ๒ (S2) จากจังหวัดยะลา(เบตง)
๑๔) ภาคใต้สาย ๓ (S3) จากจังหวัดสตูล
๑๕) ภาคใต้สาย ๔ (S4) จากจังหวัดภูเก็ต
และสุดท้ายนักวิ่งแต่ละสายจะวิ่งมาร่วมกันในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2561 ที่ บริเวณอาคารสภาวิชาชีพ 50 ปี ในกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะมีงานเปิดตัวแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี