ชาวไทยและชาวโลกต่างก็ติดตามข่าวการติดอยู่ในถ้ำของนักฟุตบอลทีมหมูป่าอะคาเดมีอย่างใจจดใจจ่อ ตลอด 18 วันที่ทีมติดอยู่ในถ้ำ (23/6/ - 10/7/61) บางคนลืมดูฟุตบอลโลก เทนนิสวิมเบิลดันไปเลย!? ทั่วโลกต่างรู้สึกดีใจ ภูมิใจ โล่งอกเป็นอย่างมาก ที่ทีมหมูป่าเริ่มออกมาได้ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม จำนวน 4 คน วันที่ 9 จำนวน 4 คน และวันที่ 10 อีก 5 คน รวมทั้งคุณหมอภาคย์ และทีมซีลอีก 3 คน รวมเป็น 9 คน ในวันที่ 10 และทุกๆ คนแข็งแรง สบายดีพอสมควร
โดยส่วนตัว ผมไม่นึกเลยว่าทีมหมูป่าจะออกมาได้ครบทั้ง 13 คนหรือแม้แต่คนเดียวอย่างปลอดภัย ด้วยการเข้าทางไหนออกทางนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่อดีตซีล จ่า “แซม” หรือนาวาตรีสมาน กุนัน เสียชีวิต เพราะขนาดที่ท่านเป็นผู้ที่แข็งแรง เป็นอดีตซีล อายุเพียง 38 ปี ถึงแม้ลาออกจากการเป็นซีลไปแล้ว 2 ปี และไม่ได้ดำน้ำอีกเลย (คำบอกเล่าจากภรรยา) แต่ก็ยังออกกำลังกายตลอดเวลา ถ้าคนอย่างอดีตซีลที่เคยได้รับการฝึกว่ายน้ำ ดำน้ำมาอย่างโชกโชน ยังเสียชีวิต แล้วเด็กๆ อายุ 11-16 ปี และโค้ช 25 ปี ที่ติดอยู่ในถ้ำมาแล้วระหว่าง 16-18 วัน (ร่างกายอ่อนแอ) ซึ่งบางคนหรือส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ว่ายน้ำไม่เป็น จะทั้งดำน้ำและว่ายน้ำออกมาได้อย่างไร โดยเฉพาะตรงที่เป็น choke point (คอห่าน) ขนาด (ทราบภายหลัง) ผู้ที่เป็นซีลในปัจจุบัน 3 คนยังไม่สบายถึงกับต้องส่งโรงพยาบาลตอนเข้าไปวันแรกๆ แต่ท่าน ผบ.หน่วยซีลไม่ได้ให้ข่าวตอนนั้น เพราะกลัวขวัญและกำลังใจของทุกๆ คนจะเสียไป
แต่นั่นเป็นเพราะผมคิดในกรอบ ว่าเด็กจะว่ายน้ำ ดำน้ำออกมาเอง และถ้าเป็นเช่นนั้นจะออกมาได้อย่างไร แต่ผู้เชี่ยวชาญการดำน้ำในถ้ำ ระดับโลก และหน่วยซีลฯ ไม่ได้คิดในกรอบเหมือนผม หลายๆ คนต่างก็เสนอความคิดเห็นจากประสบการณ์ที่มากมายและการวางแผนที่ดี ละเอียดอ่อน การกู้ภัยจึงสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เกินคาด เกินความคิด ความหวัง ของผมและของคนในชาติและโลก รวมทั้งของผู้เชี่ยวชาญการดำน้ำในถ้ำทุกๆ คนด้วย นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมผู้สื่อข่าวต่างประเทศจึงแสดงความยินดีออกมาอย่างชัดเจนในทีวี ในนาทีที่ทราบว่าผู้กู้ภัยประสบความสำเร็จ อย่างเหนือความคาดหมายทั้งปวง ด้วยการนำทีมหมูป่าทั้ง 13 คนออกมาได้อย่างปลอดภัย
ถึงตอนนี้ผมต้องขอขอบพระคุณผู้มีจิตอาสาจากทั่วโลกที่เสี่ยงชีวิต ร่างกาย ความสุขของตนเอง (ทราบว่ามาจาก 15 ประเทศ) บินมาประเทศไทยเอง หรือจากการที่ประเทศไทยเชิญมา เท่าที่ทราบมีชาวต่างชาติ 1 คน ที่อยู่เชียงรายที่มีภรรยาเป็นคนไทย ที่เคยเข้าไปในถ้ำหลวง ได้เสนอให้ฝ่ายไทยไปเชิญผู้เชี่ยวชาญทางด้านการดำน้ำในถ้ำระดับโลกจากอังกฤษ 3 คนให้มาช่วย และก็ต้องขอบคุณผู้บริหารฝ่ายไทยที่ได้เชิญทันที โดยที่ไม่มีความหยิ่งในศักดิ์ศรี ไม่กลัวเสียหน้า ฯลฯ ที่จะไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่นที่เก่งกว่าเรา ชาวอังกฤษ 3 คนก็รีบมาอย่างเร็ว และยังขอให้ฝ่ายไทยเชิญคุณหมอดมยา (วิสัญญี) Richard Harris จากออกเตรเลียมาด้วย เพราะคุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านดำน้ำในถ้ำนี้จริงๆ มีประสบการณ์ถึง 30 กว่าปี คุณหมอและเพื่อนดำน้ำอีกท่านซึ่งเป็นสัตวแพทย์ก็รีบมาทันที ทั้งๆ ที่ทั้ง 2 คนกำลังจะไปเที่ยวกัน ประเทศไทยยังเชิญผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ มาด้วย รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ ที่มาเอง ถ้าไม่มีผู้เชี่ยวชาญระดับโลกทั้งหมดนี้ การกู้ภัยคงไม่ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมขนาดนี้ จากเหตุการณ์ครั้งนี้ชาวต่างประเทศได้เห็นความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวของคนไทยที่มาช่วยจากทั่วประเทศ ความแข็งแรง เด็ดเดี่ยวของซีลไทย ที่มีความทรหดอดทน สู้ไม่ถอย ถึงแม้จะไม่เคยฝึกดำน้ำในถ้ำมาก่อน
ขอขอบคุณท่านผู้ว่าณรงศักดิ์ ที่ใจกว้าง เป็นผู้นำอย่างสมบูรณ์แบบ (เก่งคิด เก่งคน เก่งงาน เก่งเงิน เก่งเวลา เก่ง “ขาย” และเก่งฟัง) ที่มีความคิดดีเลิศ ที่กัดไม่ปล่อย ที่คิดทางเลือกต่างๆ ที่กล้าตัดสินใจ ที่ในที่สุดได้รับการพิสูจน์ว่าตัดสินใจถูกต้องได้อย่างยอดเยี่ยม
ผมเองติดตามข่าวในทีวีหลายๆ ช่อง รวมทั้ง CNN, BBC มาตลอด (บางครั้งข่าวของ CNN ออกมาเร็วกว่าช่องของไทย?!) ยอมรับตรงๆ ว่าน้ำตาไหลออกมาเองบ่อยมาก วันละหลายครั้ง ปลื้มใจที่เห็นคนไทยรักกัน คนต่างชาติ คนไทยรักกัน ถึงแม้จะแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา ฐานทางเศรษฐกิจ ขนบธรรมเนียมประเพณี ฯลฯ แต่ทุกๆ คนต่างก็มีเป้าหมายอันเดียวกัน ทุกคนต้องการที่จะช่วยให้ทีมหมูป่าออกมาอย่างปลอดภัย ทุกๆ คน ทุกๆ ฝ่าย ช่วยโดยไม่มีข้อแม้อะไรทั้งสิ้น ใครช่วยอะไรได้ก็ช่วย ตั้งแต่ทำอาหาร ล้างผัก (มีชาวต่างชาติที่จะมาเที่ยวแต่เปลี่ยนใจมาช่วย) ซักรีดเสื้อผ้า เอาก๋วยเตี๋ยว ไอศกรีม กาแฟ พิซซ่า ฯลฯ มาแจกทุกๆ คน มีผู้ที่เอาที่สูบน้ำใหญ่โตมโหฬารมาช่วยสูบ โดยเสียเงินส่วนตัวเป็นจำนวนมาก ฯลฯ ทั้งฝรั่งและไทยต่างก็มีเป้าหมายเดียวกัน ถ้าคนไทยทุกๆ คนเป็นอย่างนี้ตลอดเวลา เห็นแก่ส่วนรวม ไม่เห็นแก่ส่วนตัว ไม่เห็นแก่ได้ เพื่อความอยู่รอดของคนอื่นๆ ของสังคม ของประเทศ ไม่สนใจว่าตนเองจะเสียหายอะไรบ้าง เช่น ผู้ปฏิบัติการกู้ภัยต้องปล่อยน้ำให้ออกมาท่วมนาของชาวบ้านๆ ทุกคนก็ยินดี ผมได้เห็นการปฏิบัติของทุกๆ คน ทั้งคนไทยและฝรั่งแล้วอดปลื้มใจไม่ได้ ถ้าสังคมไทย สังคมโลก เป็นอย่างนี้ตลอดไป ประเทศไทย โลกนี้จะน่าอยู่กว่านี้อีกมาก
เราได้บทเรียนจากสถานการณ์ถ้ำหลวงอย่างมากมาย จากภาพวีดีโอคลิปแรกที่ดังไปทั่วโลก จะเห็นว่าเด็กๆ ทุกๆ คนนั่งอย่างสงบ (หลังเดิน/วิ่งลงมาจากที่สูงกว่าที่ที่นั่ง) ทุกๆ คนอยู่ในสภาพร่างกายที่ดีพอสมควร นอกจากผอม ผมภูมิใจที่ฝรั่งถามอะไร เด็กตอบได้เป็นภาษาอังกฤษทันที ประโยคที่ฝรั่งถาม “How many of you” และเด็กไทยตอบอย่างทันทีทันควัน “thirteen” คงจะจารึกในหัวใจเราตลอดไป คำว่า “แทงกิว” เสียงหนึ่งคล้ายๆ กำลังร้องไห้จากเด็กคนหนึ่ง และแทงกิวจากเด็กหลายๆ คน มันกินใจพวกเราเหลือเกิน และตอนที่เด็กถามว่ามาจากไหน และเมื่อมีคำตอบว่า “England” มีเสียงคล้ายๆ โอ้โห ดังออกมาจากปากของเด็กๆ ทันทีหลายคน ซึ่งแสดงว่าเด็กๆ รู้ภาษาอังกฤษดีพอสมควร
ขอขอบคุณคนไทยที่ไปช่วยที่ถ้ำหลวงและที่ช่วยเชียร์ และเอาใจช่วยจากทั่วทั้งประเทศ และขอขอบคุณเพื่อนต่างชาติที่ช่วยเสี่ยงชีวิตและที่เอาใจช่วยจากประเทศของเขา
ยังจะมีตอนต่อๆ ไปอีกครับ
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี