สำหรับผม คนที่เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำนั้นจะต้องมีองค์ประกอบหลายๆ อย่างในตัว ทุกๆ คนควรมีคุณสมบัติของการเป็นผู้นำถึงแม้ยังไม่ใช่ผู้นำ แต่ผู้นำในปัจจุบันหลายคนอาจไม่มีคุณสมบัติของผู้นำเลย ผมสอน แนะนำ ให้ลูกศิษย์ผมมีคุณสมบัติของการเป็นผู้นำที่ดี ซึ่งก็คือ การเป็นคนดี ที่เก่ง ที่มีความรู้รอบตัว และมีสุขภาพที่ดี ตั้งแต่บัดนี้ ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เป็นผู้นำหรือหัวหน้าหน่วยงาน ฯลฯ
ผู้นำจะต้องมีความดีเหนือสิ่งอื่นใด สำหรับผมคำว่าดีสั้นมาก แต่มีความหมายมากเหลือเกิน เช่น คนดีต้องมีศีลธรรม จริยธรรม คุณธรรม มีธรรมาภิบาล ฯลฯ ซึ่งเขียนไปคนส่วนใหญ่ รวมถึงผมด้วย ก็อาจจะไม่รู้เรื่อง ผมคิดว่าคำว่าดี คำเดียว ครอบคลุมหมด ทั้งศีลธรรม จริยธรรม คุณธรรม ฯลฯ
ถ้าพูดให้เป็นภาษาชาวบ้าน ภาษาที่เข้าใจง่ายๆ คำว่าดีคือ เห็นแก่ส่วนรวม มีเหตุผล ไม่เห็นแก่ส่วนตัว ไม่เห็นแก่พรรคหรือพวกของตัวเอง ไม่โกง ไม่กิน ไม่ฆ่า ไม่โกหก ไม่ขโมย เคารพความเห็นของผู้อื่น พูดกันด้วยเหตุผล ไม่ใช่เอาแต่ใจตนเอง ต้องรู้จักผิดชอบชั่วดี ต้องรู้จักแยกหัวใจออกจากสมอง (เอ๊ะ! ชักงงๆ!!) การแยกหัวใจออกจากสมอง คือ เราใช้เหตุผลตัดสิน(สมอง) ไม่ใช่ใช้ความรู้สึก(หัวใจ)
สำหรับหมอเด็กๆ หรือนิสิตแพทย์ ความเป็นคนดี คือ ตั้งใจเรียน เชื่อฟังพ่อแม่ มาเรียนตรงเวลา ไม่คุยกันในห้องเรียน ไม่เปิดโทรศัพท์มือถือให้มีเสียงดังในห้องประชุม แพทย์ ต้องพูดจาดีๆ กับผู้ป่วย ญาติ อดทน ไม่ดุผู้ป่วย มีเวลาให้ผู้ป่วยพอสมควร เอาใจเขามาใส่ใจเรา มีความรับผิดชอบ ฯลฯ
ถ้าคนไทยทั้งประเทศเป็นคนดี ปัญหาต่างๆ จะหมดไป เช่น ปัญหาของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 5 อำเภอของสงขลา ที่มีความไม่สงบก็จะสงบลงทันที เพราะเมื่อมีปัญหา คนที่ดีจะมีเหตุผล เมื่อมีความคิดต่าง ก็จะมานั่งปรึกษา หารือกันด้วยเหตุผลว่า จะตกลงกันอย่างไร ถ้าทุกพรรคการเมืองเป็นพรรคที่ดี มีคุณธรรม สมาชิก กรรมการพรรค หาเสียงโดยสุจริต ทำงานเพื่อประชาชน เพื่อประโยชน์ของประเทศเป็นส่วนใหญ่ ถ้ารัฐบาลชุดก่อนที่มาจากพรรคหนึ่ง ทำอะไรที่ดีไว้ รัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากอีกพรรค ควรที่จะยกย่องผลงานของรัฐบาลชุดก่อน และดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป ไม่ใช่ว่าพรรคอื่นทำดีไว้ พอพรรคใหม่เข้ามาก็รื้อหมด อย่างนี้การเมืองบ้านเราก็จะไม่ไปไหน
สรุปว่าคำว่าดีนั้น ครอบคลุมหมดทุกอย่าง ขอยกตัวอย่างอีกอย่างคือ ผมมักบอกลูกศิษย์แพทย์เสมอว่า ผมไม่สนใจเรื่องความเก่งของคุณหมอ แต่ผมสนใจเรื่องความดีมากกว่า!? ทำไมผมถึงพูดเช่นนั้น เพราะว่า นักเรียนที่สอบเข้าแพทย์ได้ ไม่ว่าจะเรียนได้คะแนนสะสม 3 หรือ 3.9 ต่างก็มีมันสมองมากพอแล้วทั้งนั้น ถ้ายิ่งเก่งมากและเป็นคนไม่ดี จะมีปัญหามาก แต่แพทย์ที่เป็นคนที่ดี ถึงแม้อาจเรียนไม่ได้ 3.9 แต่เนื่องจากเขาเป็นคนดี เขาจึงอยากให้ผู้ป่วยหายเร็วๆ เมื่อเขาเป็นห่วงผู้ป่วย เขาก็จะพยายามอ่านหนังสือเพิ่มเติม ไปประชุมบ่อยๆ พฤติกรรมต่างๆ เหล่านี้จึงจะทำให้เขาเก่งโดยปริยาย แต่ถ้าเขาเรียนเก่งมาก แต่นิสัยไม่ดี อาจดูถูกเพื่อนร่วมงาน ไม่สนใจกับผู้ป่วย ญาติ ไม่มีเวลาสำหรับอธิบายให้ผู้ป่วย ทำงานไม่เป็นทีม ฯลฯ
แน่นอนผมต้องการคนที่ดี ที่เก่งด้วย ถ้าดีมาก เก่งมากยิ่งดี แต่ไม่ชอบคนที่เก่ง แต่อวดดี ดูถูกคนอื่น เอาเปรียบเพื่อน ในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงตรัสกับคณบดีแพทย์ท่านหนึ่งว่าแพทย์ควรจะ “อ่อนน้อมถ่อมตน ทุกคนมีดี อย่าดูถูกคน”
แต่การที่จะเก่งได้ คนคนนั้นจะต้องมีโอกาส มีสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมพอสมควร เช่น มีโอกาสเรียน มีข้าวกิน มีฐานะที่ดีพอสมควรสำหรับทางบ้าน บางคนสมองดี เป็นคนดี ขยัน แต่ฐานะทางบ้านไม่ดี เลยไม่มีโอกาสเรียน ถึงแม้จะเรียนฟรี แต่ที่บ้านไม่มีอะไรจะกิน จึงต้องช่วยบิดาทำมาหากิน บ้านอยู่ไกลโรงเรียน ฯลฯ
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี