“ลูก ลูก! พ่อเป็นอะไรไม่รู้ ตื่นมาแล้วไม่พูดเลย ปากก็เบี้ยวด้วย” เสียงแม่ดังมาจากห้องนอนแม่ ผมยังแอบบ่นในใจว่า นี่มันพึ่ง 7 โมงเช้าเช้าขนาดนี้จะมีอะไรกันนักหนานะ บ่นพลางก็เดินไปห้องแม่ “ว่าไงครับแม่”เอ๊ะ พ่อท่าทางแปลกไปจริงๆ ด้วย ปกติพ่อที่ขี้บ่นคนนั้นมีเหรอจะไม่พูด ยิ่งเห็นผมตื่นสายในวันทำงานแบบนี้
“พ่อ พ่อ ได้ยินผมไหม” พ่อพยักหน้า แต่ไม่พูดทำไมพ่อขยับแต่แขนขาข้างซ้ายข้างเดียว“ทำยังไงดีลูก ไปโรงพยาบาลดีไหม” เสียงแม่ที่ฟังดูตื่นตระหนกมาก ผมก็เริ่มคิดว่าคงต้องไปโรงพยาบาล แต่เดี๋ยวตอน 9 โมงรถน่าจะไม่ติดแล้ว รอถึงตอนนั้นได้ไหมนะ
“ลูก เรารีบไปโรงพยาบาลเถอะ แม่ไม่สบายใจ” ผมก็ไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจ ไปก็ไปหลังจากตรวจพบว่าพ่อมีเส้นเลือดสมองอุดตัน หมอมาบอก เราเห็นพ่อมีอาการตอนตื่น แต่ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเป็นมากี่ชั่วโมงแล้วก่อนตื่น หมอบอกว่าจะไม่สามารถให้ยารักษาพ่อทางหลอดเลือดดำได้ เพราะจะทำให้เลือดออกในสมอง ในขณะที่ผมกับแม่กำลังยืนอยู่ด้วยความสิ้นหวัง คุณหมอก็บอกว่า “แต่เราสามารถรักษาด้วยการลากลิ่มเลือดออกจากสมองได้ครับคุณโชคดีมากที่มาโรงพยาบาลนี้เพราะมีเพียงโรงพยาบาลใหญ่ๆ ในประเทศไม่กี่โรงพยาบาลเท่านั้นที่สามารถทำการรักษาด้วยวิธีนี้ได้”
เหตุการณ์ในลักษณะนี้อาจเกิดกับคุณเมื่อไหร่ก็ได้ ภาวะนี้เราเรียกกันว่า “ภาวะสมองขาดเลือด จากเส้นเลือดในสมองอุดตัน” ก่อนปีพ.ศ.2558 วิธีที่จะรักษาภาวะนี้ได้มีเพียงแค่การให้ยาละลายลิ่มเลือดทางหลอดเลือดดำ ซึ่งสามารถให้ได้ถ้าผู้ป่วยมาโรงพยาบาลภายใน 4.5 ชั่วโมงเท่านั้น และต้องไม่มีข้อห้าม อื่นของการให้ยา ซึ่งถ้ายาสามารถละลายลิ่มเลือดได้หมด คนไข้ก็จะมีอาการดีขึ้นตามลำดับ แต่หลังปีพ.ศ.2558 ได้มีการรักษาภาวะนี้ด้วยวีธี “การลากหรือดูดลิ่มเลือดออกจากสมองโดยตรงโดยผ่านการสอดใส่ สายสวนเข้าทางหลอดเลือดแดง”ซึ่งเราสามารถทำได้ในผู้ป่วยที่มีอาการมาแล้วถึง 8 ชั่วโมง
วิธีการรักษาดังกล่าว แพทย์จะต้องประเมินสมองคนไข้จากการสแกนคอมพิวเตอร์หรือแม่เหล็กของสมอง (CT หรือ MRI brain)ถ้าคนไข้มีอาการมาไม่ถึง 8 ชั่วโมงหรือกระทั่งไม่ทราบเวลาที่เริ่มเป็น แต่สมองยังไม่เสียหายจนเกินไป แพทย์จะรีบทำการรักษาผ่านทางหลอดเลือดแดงใหญ่ที่ขาหนีบ มีแผลแค่ 2-3 มิลลิเมตรเท่านั้น แพทย์จะใช้ภาพเอกซเรย์ร่วมกับสารทึบรังสีในการนำอุปกรณ์พิเศษขึ้นไปถึงหลอดเลือดที่เป็นปัญหา แล้วลากหรือดูดลิ่มเลือดที่อุดตันหลอดเลือดดังกล่าวออกมาด้วยอุปกรณ์เฉพาะ ถ้าเปิดหลอดเลือดได้ดี คนไข้ก็มีโอกาสสูงที่จะฟื้นจากภาวะอัมพฤกษ์อัมพาตที่เป็น ซึ่งปัจจุบันเป็นการรักษาที่ได้รับการยอมรับแล้วว่าได้ผลดีกว่าการให้ยาอย่างเดียวโดยเฉพาะกับคนไข้ที่มีเส้นเลือดขนาดใหญ่ในสมองอุดตัน
ดังนั้นจะเห็นว่า ด้วยวิทยาการทางการแพทย์ที่ก้าวไปข้างหน้าอยู่ตลอดเวลา ทำให้แพทย์สามารถ รักษาคนไข้ได้มากขึ้นและดีขึ้นเป็นลำดับ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณพบว่าตัวเองหรือคนใกล้ตัว มีอาการสงสัยภาวะสมองขาดเลือด ให้คำนึงไว้เสมอว่า “เวลา” เป็นสิ่งสำคัญ ควรจะต้องรีบเดินทางไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เพื่อการรักษาที่ได้ผลดีที่สุดถ้าไม่สะดวกเดินทางด้วยตนเอง คุณสามารถโทรเบอร์รถฉุกเฉิน “1669” ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยความปรารถนาดี จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านรังสีร่วมรักษาระบบประสาท
นพ.ภัทรวิทย์ วิทยาสุข ศูนย์รังสีร่วมรักษา โรงพยาบาลศิริราช
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี