วันนี้วันครูผู้ประสาทวิชา แต่ที่ จ.อุดรธานี มีเรื่องราวดราม่าสนั่นโซเซียล เมื่อผู้ปกครองได้โพสต์เรื่องของเด็กนักเรียนถูกถีบหายใจแทบไม่ออกและเมื่อขอให้ครูรีบนำส่งรพกลับไม่ใยดี ล่าสุด ผอ.โรงเรียนดังกล่าวได้ออกมาชี้แจงแล้วว่าโรงเรียนดูแลอย่างดีตามขั้นตอนสงสัยคนโพสต์รู้ข้อมูลไม่ครบ ขณะที่ในโพสได้ลบรูปดังกล่าวออกไปทันที
กรณีเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญรับวันครู โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง Nam Nam ได้แชร์เรื่องราวอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับน้องสาวตัวเอง ซึ่งเล่าว่า น้องสาวถูกเพื่อนกระโดดถีบหน้าออกจนล้มลงและน้องเองก็มีอาการตัวเกร็ง หน้าซีด หายใจไม่ออก จนกระทั่งน้องสลบ ทว่าทางโรงเรียนกลับให้รอดูอาการ ไม่รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ทั้งที่อาการไม่สู้ดี จนผู้เป็นพ่อต้องเรียกรถพยาบาลมารับตัวลูกสาวเพื่อไปส่งโรงพยาบาลเอง แต่ถึงอย่างนั้น ทางคุณครูกลับบอกว่า เป็นการกระทำที่ "ข้ามหน้าข้ามตา"
ซึ่งหลังจากมีการโพสและมีผู้แชร์เฟสบุ๊คดังกล่าวออกไป กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำหน้าที่ครู พร้อมให้กำลังใจและผู้ปกครอง ขอให้ดำเนินคดีถึงที่สุด รวมทั้งบอกว่า ทำไมครูไม่มีน้ำใจ และ วันครูไม่น่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น โดยมีการแชร์โพสดังกล่าวออกไปมากกว่า 25,000 ครั้ง ทำให้มีคนสนใจโพสดังกล่าวจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อกับผู้โพสต์ภาพดังกล่าว เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งทางผู้โพสต์แจ้งว่า ขอคุยกับ ผอ.ก่อน หากมีอะไรคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบ หลังจากนั้นก็ไม่สามรถติดต่อได้ จึงตรวจสอบจนทราบว่า เด็กนักเรียนตามภาพที่โพสต์ เป็นนักเรียนหญิงของโรงเรียนเทศบาล 3 บ้านเหล่า สังกัดเทศบาลนครอุดรธานี โดยวันนี้ทางโรงเรียนหยุดการเรียนการสอน เนื่องจากเป็น “วันครู” โดยคณะผู้บริหารและครูโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครอุดรธานี ทั้ง 12 แห่ง ร่วมพิธีงานวันครูที่ห้องประชุมอุดรธานีฮอลล์ โรงแรมเซนทารา ที่มีนายอิทธิพนธ์ ตรีวัฒนสุวรรณ นายกเทศมนตรีนครอุดรธานี เป็นประธานในพิธี
หลังเสร็จงานพิธีวันครู น.ส.อารีรัตน์ นุตะภิบาล ผอ.โรงเรียนเทศบาล 3 บ้านเหล่า เปิดเผยถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงเที่ยงของวันพฤหัสบดี ที่ผ่านมา เป็นเหตุเด็กนักเรียนตามภาพเป็นนักเรียนชั้นประถมปีที่ 4 ที่นักเรียนชายและหญิงเล่นด้วยกัน โดยเด็กนักเรียนชายที่ตัวโต ใช้เท้าถีบหน้าอกนักเรียนหญิงที่ตัวเล็ก โดยเด็กอาจจะมีสภาวะเครียด จึงเจ็บหน้าอกและเป็นลม หลังเกิดเหตุเพื่อนๆ นักเรียนก็วิ่งมาตามครูที่ห้องพักครูและนำตัวเด็กไปที่ห้องพยาบาล และโทรตามรถพยาบาลตามกระบวนการขั้นตอน แต่ทั้งนี้เด็กคนนี้มีพี่สาวเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนเดียวกัน จึงโทรตามพ่อด้วยโทรศัพท์ของครู
“เมื่อพ่อมาถึงเห็นว่ารถพยาบาลยังมาไม่ถึง คงเกิดความร้อนใจ เพราะเห็นว่าลูกอาจจะมีสภาวะที่อ้าปากหายใจแรง ร้องไห้ตลอด มีความกังวล จึงโทรศัพท์แจ้งเรียกรถพยาบาลอีกครั้ง ซึ่งตรงนี้ทางพ่ออาจจะเข้าใจว่า ทางโรงเรียนไม่ได้ตามรถพยาบาล แต่เป็นเพราะทางพ่อโทรตามเอง รถพยาบาลจึงมา อาจจะมีการคิดว่าอย่างนั้น ซึ่งเรื่องนี้เรายืนยันว่า ทางครูและกระบวนการของทางโรงเรียนตามปกติ ที่เร่งรัดและให้ความสำคัญในการตามรถพยาบาล เมื่อรถพยาบาลนำส่ง ครูก็ตามไปดูแล 2 คน ไม่ใช่ไม่ไปดูแล และก็ไม่ใช่ทางโรงพยาบาลมาตามครูไป ครูเราไปเอง ซึ่งตนได้กำชับว่า ครูต้องตามไปดูแลให้เรียบร้อย และเด็กก็ออกจากโรงพยาบาลในช่วงบ่ายวันเกิดเหตุ ไม่ได้นอนค้างที่โรงพยาบาลแต่อย่างใด เพราะทางหมอดูอาการแล้วว่า ไม่มีอะไรรุนแรง”
น.ส.อารีรัตน์ฯ กล่าวอีกว่า จนเมื่อวันจันทร์ (วานนี้) ช่วงเช้า ผู้ปกครองของเด็กทั้ง 2 ฝ่าย ได้นัดมาคุยกันที่โรงเรียน และมีการทำข้อตกลงขอค่าทำขวัญค่าเสียหาย ซึ่งมีการตกลงจ่ายเงินกันเรียบร้อย เป็นเงินจำนวน 10,000 บาทและทางโรงเรียนก็ได้แสดงความเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ที่ทำให้ผู้ปกครองของเด็กไม่สบายใจ และขอโทษหากทางผู้ปกครองเด็กคิดว่าล่าช้า แต่เรายืนยันว่า เราให้ความสำคัญกับเรื่องที่เกิดขึ้นและดำเนินการด้วยความรวดเร็ว ซึ่งทางผู้ปกครองเด็กเข้าใจ และยอมรับในเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งก็จบเรื่องไปแล้ว ตั้งแต่ช่วงเช้าวันจันทร์
“แต่หลังจากนั้น มีการโพสต์ภาพข้อความในช่วงเย็นวันจันทร์ โดยบุคคลอื่น ซึ่งไม่ทราบรายละเอียดตรงนี้ จึงไม่เข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ทั้งนี้เมื่อวานนี้หลังจากเด็กมาโรงเรียน ก็มีอาการหายใจหอบขึ้นมาอีก ทางโรงเรียนก็รีบนำตัวเด็กส่งโรงพยาบาลด้วยรถยนต์ของครูที่นำตัวเด็กส่งเอง และก็อยู่กับผู้ปกครองเด็ก จนเด็กออกจากโรงพยาบาล โดยทางเราก็คุยกับผู้ปกคารองเด็กตลอด เมื่อคืนก็คุยกันถึงเรื่องที่มีการโพสเฟสบุ๊คไป โดยทางผู้ปกครองเด็กก็บอกว่าไม่ทราบเรื่องการโพส เพราะคนโพสเป็นหลานที่อยู่ที่อื่นเป็นผู้โพส ซึ่งทางผู้ปกครองบอกจะไปคุยกับคนโพส ถึงข้อมูลที่โพสไปไปตรงกับข้อเท็จจริง” น.ส.อารีรัตน์ฯ กล่าว
ด้านนายอิทธิพนธ์ ตรีวัฒนสุวรรณ นายกเทศมนตรีนครอุดรธานี เปิดเผยว่า เหตุที่เกิดขึ้น คงจากเป็นเรื่องเด็กที่ซน ซึ่งก็เป็นธรรมดาของเด็ก ส่วนที่เด็กชายกระทำรุนแรงอย่างนั้น คงต้องมีการตักเตือนตัวเด็กให้ทราบ ซึ่งตนขอฝากไปยังผู้โพส ด้วยว่า หากเป็นข้อมูลที่ชัดเจนแล้วนำไปโพส น่าจะเป็นเรื่องที่ดี แต่หากเป็นการได้รับข้อมูลข่าวสารที่ไม่ครบถ้วน แล้วนำไปโพสจนทำให้คนที่มีผลกระทบเกิดความเสียหายด้วย ตนว่าน่าเสียดาย เพราะว่าครูทุกคนต้องการให้นักเรียนทุกคนเป็นเด็กดี ไม่ดื้อไม่ซน เมื่อเด็กมาเจอแบบนี้แล้ว ขอให้ช่วยตรองให้ดีก่อนี่จะตำหนิก่อนจะต่อว่าอะไร หากเกิดว่าเป็นเรื่องที่ดีก็น่าจะส่งเสริมกัน ส่วนเรื่องตำหนิก็สามารถตำหนิได้ แต่อยากให้ทุกคนช่วยกันกรองก่อน ทางเทศบาลนครอุดรธานีมีครูในสังกัดกว่า 500 ชีวิต มีนักเรียนที่ดูแลกว่า 9,000 คน เราอยากให้เด็กทุกคนเป็นเด็กดี ยิ่งวันนี้เป็นวันครู ตนคิดว่าจิตวิญญาณของความเป็นครู หรือครูมืออาชีพอยากให้เด็กเป็นคนดีทุกคน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เวลาประมาณ 13.00 น. วันนี้ มีความเคลื่อนไหวจากเฟซบุ๊กของผู้โพสเรื่องดังกล่าว โดยระบุข้อความว่า “ขอขอบคุณทุกคนมากนะค่ะที่รักน้องเราทราบซึ้งในทุกแรงใจเป็นอย่างยิ่ง เราดำเนินการกับคู่กรณีไปแล้วและเราได้คุยกับ ผอ แล้วและทางโรงเรียนได้รับเรื่องและรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้ว และเราต้องขออภัยที่ต้องลบโพสไป ต่อจากนี้ขอให้มันเป็นไปตามขบวนการณ์ค่ะ และปรากฎว่าเรื่องราวของเด็กหญิงนักเรียนก็ถูกลบไปทันที
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : หัวอกพ่อ!ลูกสาวโดนเพื่อนถีบหน้าหงายโร่เรียกรถพยาบาล ครูบอก'ข้ามหน้าข้ามตา'
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี